Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเมาเมาแมน
•
ติดตาม
30 ก.ค. 2023 เวลา 05:32 • ธุรกิจ
เริ่มธุรกิจเล็กเกินไป ไม่ใชเรื่องดีนะ
เราคงเคยได้ยินคนพูดเสมอว่า
ถ้าจะลงทุนอะไร ให้เริ่มจากเล็กๆ จะได้ไม่เจ็บมาก
ซึ่งไอ้คำว่าเล็กนี่คือเล็กมากๆเลยแหละ
ในความคิดคนไทยส่วนมาก
…ซึ่งที่จริงแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก….
ผมขอยกตัวอย่างธุรกิจร้านอาหารแล้วกัน
มันเข้าใจง่ายและเห็นภาพชัดดี ว่าทำไมไม่ควรเริ่ม
ธุรกิจให้มันเล็กจนเกินไป
ถ้าเราสังเกตกันดีๆ เปรียบเทียบระหว่างร้านคนไทยอีสาน
หรือคนไทยแท้ๆ กับไทยเชื้อสายจีน
เราจะพบความจริงอย่างหนึ่งว่า คนไทยเชื้อสายจีน
จะเริ่มต้นธุรกิจที่ดูใหญ่กว่า น่าเชื่อถือกว่าเสมอ
ไม่ใช่ว่ารวยเลยจัดหนักกว่าหรอก
แต่คนจีนเขาคิดเป็นกว่า เขารู้ว่าเล็กเกินไปมันไม่ได้
ในขณะที่ร้านคนไทย มักเริ่มแบบกึ่งแผงลอย
แต่กับคนเชื้อสายจีน เขาจะต้องมีสถานที่ที่ดี
และน่าเชื่อถือถึงจะเริ่มทำกัน
การเริ่มธุรกิจขนาดเล็กมาก โดยหวังให้โตไปเรื่อยๆนั้น
มันอาจเป็นวิธีที่เคยใช้ได้ เมื่อหลายสิบปีก่อน
แต่ปัจจุบัน มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
1
ผมจะแยกเป็นข้อๆ ว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น
1) เล็กเกินไป มันดูก็อกแก๊ก คนไม่เชื่อถือ
อย่างคุณทำร้านอาหารเนี่ย ถ้าเล็กไป อย่างแรกเลยคือมันดู
ไม่สะอาด คนจะไม่กล้ากินมากนัก
โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพ คนชั้นกลางมันมาก
พวกนี้เลือกร้านที่น่าเชื่อถือ สะอาด มากพอๆกับรสชาติ
ร้านเล็กจะเสียเปรียบมากในแง่นี้
2) การเข้าถึงวัตถุดิบต้นทุนต่างๆมันจำกัด
ใครๆก็รู้ว่า การซื้อของมากๆนั้น จะได้ราคาที่ดีกว่า
และสามารถเลือกสินค้าได้มากกว่า
อย่างร้านอาหาร ถ้าคุณทำเล็กเกินไป ต้นทุนคุณจะสูง
กว่าร้านใหญ่ค่อนข้างมาก และไม่สามารถหาวัตถุดิบที่ต้องการ
หรือมีคุณภาพดีได้สม่ำเสมอ เพราะร้านเขาจะตัดให้เจ้าใหญ่
ก่อนเสมอ
เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อใหญ่ๆ จะมีเนื้อที่สวยกว่าร้านเล็กๆ
เสมอ เพราะเมื่อเขาสั่งเยอะ ก็จะได้ชิ้นใหญ่มาเป็นแผ่น
ไม่ใช่เนื้อตัดส่วนขาย เวลาทำก็จะน่ากินกว่าร้านเล็ก
นั่นเอง คนก็จะสนใจมากกว่า เพราะหน้าตาของมัน
ถ้าร้านเล็กๆอยากได้แบบเขา แต่สั่งมากไม่ได้
ก็หมายถึงว่าคุณต้องจ่ายแพงกว่าเยอะมากเลยทีเดียว
ร้านเนื้อถึงจะตัดให้คุณ…
3) ผลจากข้อสอง เมื่อได้วัตถุดิบแพง
คุณก็ทำราคาสู้กับเขาไม่ได้ กลายเป็นว่าของคุณแพงกว่า
ก็ร้านอาหารอีกแหละ ร้านใหญ่ซื้อเยอะ มันได้เปรียบมาก
แถมบางทีร้านใหญ่ๆได้เครดิตจากคนขายวัตถุดิบด้วย
ทำให้บางครั้ง ได้ต้นทุนที่ถูกกว่าการซื้อน้อยๆ หลายสิบเปอร์เซ็นต์ เขาจึงสามารถทำราคา และเล่นกับมันได้ดีกว่า
ตรงข้ามกับร้านเล็กๆเลย ที่ความพยายามประหยัด
ให้ได้กำไรในราคาขายมากที่สุด มันจะทำให้สินค้าของคุณ
นั้นแพงเกินไป เข่น ปริมาณน้อย หรือมีราคาสูงมาก
เมื่อต้องขายออนไลน์ ที่ต้องแบ่งเงินให้คนส่งเกือบ 30%
ดังนั้น ในยุคปัจจุบันที่การขายออนไลน์ทางผู้จัดส่งต่างๆ
มีผลกับยอดขายค่อนข้างมาก รายเล็กจึงยิ่งเสียเปรียบ
มากกว่ายุคก่อน
สามข้อที่ผมว่า คือปัญหาหลักเสมอ
ในการเริ่มธุรกิจแล้วเล็กจนเกินไป
มันเกิดขึ้นกับทุกธุรกิจ ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร
คิดง่ายๆ ว่าขนาดงานภาครัฐ ยังต้องกำหนดคุณสมบัติ
ของคนที่จะเข้าไปเป็นคู่สัญญา
คนเราเวลาจะเลือกซื้ออะไร มันก็เหมือนกันนั่นแหละครับ
มันต้องดูดี และน่าเชื่อถือ
โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบันเซเว่นมีของกินขาย
ราคาก็ไม่แรงอะไรนัก ขายของกินคุณก็ต้องทำราคาแข่งกับเซเว่นไปด้วย
หรือธุรกิจอื่นก็ต้องไปแข่งกับบริษัท
ลูกของบริษัทใหญ่ๆ ที่แตกออกมาเล่น
ดังนั้น ทางรอดของรายย่อย ที่มันย่อยเกินไปนั้นจึงลำบากมาก
แต่ก็ไม่ใช่ทำไม่ได้เลยนะ อย่างร้านส้มตำนี่
เป็นอะไรที่น่าศึกษา กับการขายเจาะกลุ่มลูกค้า
คนบ้านเดียวกัน ให้มาเป็นฐานลูกค้าหลัก
มันจึงรอดได้ง่ายและไปได้เรื่อยๆ โดยไม่เจ๊ง
แต่จะโตไม่โต ก็อีกเรื่อง
อันนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีเลย
สำหรับท่านที่เป็นลูกอีสาน และมีฝีมือด้านนี้
หรือการเป็นเฟรนด์ไซส์ ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
การไปลุยสร้างชื่อตัวเองขึ้นมา อย่างชายสี่หมี่เกี๊ยว
นี่ผมไม่ค่อยเห็นคนขายเจ๊งนะ ไปได้เรื่อยๆ แทบทุกร้าน
หรือสุดท้าย คุณอาจเล่นกับตลาดบนจัดๆไปเลย
ขายของคุณภาพพรีเมียมไปเลยมันก็ดีเหมือนกัน
แต่มันก็ต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ได้ก่อนด้วย
ซึ่งตรงนี้ คุณอาจต้องมีสตอรี่ที่ดี ให้คนเขาสนใจ
เช่น เคยเป็นเชฟมาก่อน แบบที่ร้านออนไลน์ดังๆส่วนมาก
ทำแล้วประสบความสำเร็จนั่นเอง
( กรณีสตรีทฟู๊ดเยาวราช หรือย่านเก่าแก่ แบบในรูป
ส่วนมากก็ขายดีเพราะสตอรี่นี่แหละ ไม่ใช่เลิศกว่าที่อื่นซะทั้งหมดหรอก )
1
2
การทำธุรกิจอะไรก็ตาม คนไม่เคยทำ ไม่เคยนั่งบริหาร
ต้นทุนเองจริงๆ ไม่รู้หรอกครับ
ต่อให้คนจบปริญญามาทางนี้ก็เถอะ
ไม่ลงไปจับจริงๆ คุณก็จะแค่วางแผนได้สวยหรูบน
หน้ากระดาษเท่านั้นแหละ
และแม้ว่าคุณจะเป็นพนักงานระดับสูง
ที่ดูแลเรื่องนี้ให้องค์กร มีเงินเดือนหลักแสน
คุณก็ต้องเข้าใจ ว่านั่นคือบริษัทใหญ่
ไม่ใช่การทำธุรกิจเล็กๆ ที่เริ่มต้น
ดังนั้นความเข้าใจของคุณจะต่างออกไป
จะเอามาคิดรวมกันไม่ได้
ที่เขียนโพสต์นี้ เพราะเบื่อความโลกสวย
ของคนทำงานนั่งโต๊ะกินเงินเดือน
ที่ชอบมองว่าอะไรๆมันง่ายไปหมด
ขยันสิ ทำให้ดีสิ ปรับตัวสิ แล้วจะประสบผลสำเร็จ
2
…ชีวิตจริงๆ ของคนทำธุรกิจ มันไม่สวยขนาดนั้นหรอก….
1
เมื่อคุณลงมาเล่นจริงๆ มันมีตัวแปรปลีกย่อยอีกมาก
ที่คุณจะไม่มีทางเจอ ในการเป็นลูกจ้างบริษัท
…ยิ่งการค้าขายเล็กน้อยนั้น สุดท้ายมันคือการวัดดวง…
…ก็เพราะงี้แหละ คนค้าขายถึงเป็นสายมูกันซะเยอะ…
1
…เพราะเมื่อคุณทำทุกอย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว…
…คุณก็ต้องรอให้คนมาใช้บริการ….
…ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ควบคุมไม่ได้เลย ดวงล้วนๆ!!!….
…นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงครับ….
ภาพจาก เว็บ Urban creatures
ธุรกิจ
ไลฟ์สไตล์
2 บันทึก
22
10
6
2
22
10
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย