"แพลงก์ตอนบลูม" ในอ่าวไทย ชี้โลกร้อนขึ้น ทะเลใกล้เดือด

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้อธิบายเรื่องการเกิดแพลงก์ตอนบลูม ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ขออธิบายเหตุการณ์ แพลงก์ตอนบลูมในอ่าวไทยเพิ่มเติม ด้วยข้อมูลดาวเทียม จาก GISTDA เป็นภาพวัดคลอโรฟิลล์ในน้ำ ที่เกี่ยวข้องโดยตรง กับปริมาณแพลงก์ตอนพืชบลูม
สีดำคือน้ำทะเลปกติ สีเขียวคือเริ่มเกิดแพลงก์ตอนบลูม สีแดง/น้ำตาลเข้มคือบลูมเต็มที่ ปกติแพลงก์ตอนบลูม จะเริ่มจากทะเลห่างฝั่ง จากนั้นพอเข้าใกล้ฝั่ง ด้วยกระแสน้ำ/คลื่นลม ปริมาณแพลงก์ตอนเพิ่มขึ้น เมื่อเจอธาตุอาหารสมบูรณ์ ประจวบกับแดดจ้า ปกติเกิดที่ทะเลความลึก 8-10 เมตรหรือมากกว่า
ในภาพจะเห็นในเขตสีเหลืองและสีแดง สุดท้ายจะเข้ามาจนถึงชายฝั่ง เป็นพัฒนาการขั้นเกือบสุดท้าย เป็นขั้นตอนที่เรียกว่า aggregation เกิดจากกระแสน้ำ/ลมพัดพาเซลล์แพลงก์ตอน มากองรวมกัน แล้วเคลื่อนที่เข้ามา
น้ำเปลี่ยนสี ที่เข้าใกล้ฝั่งแล้ว ไม่นานจะสลายตัวไป ด้วยสาเหตุต่างๆ แล้วแต่พื้นที่ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของพัฒนาการ การเกิดน้ำเปลี่ยนสี เรียกว่าขั้นตอนการยุติปรากฏการณ์ ภาพจาก GISTDA แสดงให้เห็นชัดว่าแพลงก์ตอนบลูมในอ่าวไทย มากองรวมกันที่ชายฝั่ง EEC เพราะช่วงนี้ เป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ลมพัดน้ำมารวมอยู่บริเวณนั้น ยังมีแพลงก์ตอนบลูมอีกแบบ ที่เกิดจากกระบวนการบริเวณปากแม่น้ำ
บริษัท วันมอร์ลิงค์ จำกัด รับกำจัดกาก
อุตสาหกรรมและให้บริการขนส่งอุตสาหกรรม
ทุกประเภท แบบ One Stop Service
หากต้องการข้อมูลด้านการบริการสิ่งแวดล้อม สอบถามได้ที่
Tel : 083-844-6222 / 088-639-2251
#วันมอร์ลิงค์ #บริการรับกำจัดกากอุตสาหกรรม #กากอุตสาหกรรม #สิ่งแวดล้อม #ข่าววันนี้ #ความรู้ทั่วไป #CEORAPATSORN #ประเทศไทย #เทรนด์โลก #CarbonFootprin
โฆษณา