เข้มงวด ต้องมีโหดและเหี้ยมบ้าง ด้วยเหตุนี้แม่ทัพจึงมีบารมี

กฎระเบียบเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความเข้มงวด เพราะกฎระเบียบคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่สามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์ การทำสงครามคือการที่ไปประเชิญหน้ากับความผันผวนของสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
1
คำสั่งของแม่ทัพต้องเข้มงวด แต่ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนไม่ได้เมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นความเข้มงวดจึงเป็นเรื่องศาสตร์และศิลป์ไม่มีความตายตัว ถ้าเข้มงวดเกินกว่าบ้าอำนาจ ถ้าเข้มงวดน้อยไปกองกำลังก็หย่อนยาน
แม่ทัพ หมายถึง ผู้นำเหล่าทัพซึ่งเปี่ยมด้วยสติปัญญา รักษาสัจจะวาจา มีเมตตาธรรม มีความกล้าหาญ และเคร่งครัดเที่ยงธรรม
ซุนวู
ในตำราพิชัยสงครามซุนวูฉบับหัวซานอธิบายไว้ว่า ความเข้มงวดคือ "บารมี" หรือการมีอิทธิพลต่อกลุ่ม ตู้มู่อธิบายว่า "ผู้เข้มงวดคือใช้บารมีควบคุมสามเหล่าทัพ"
บรรดาแม่ทัพสมัยโบราณ ต้องสั่งประหารคนที่ถือตัวมีเส้นสายอยู่บ่อยครั้ง การกำจัดคนที่ทุกคนรู้จักดี แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
1
สำหรับผู้เขียนคิดว่าความเข้มงวดคือศาสตร์และศิลป์ของการใช้อำนาจของผู้นำ ทุกสิ่งในโลกถ้าใช้อย่างเหมาะสมจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นมาได้ การมีอำนาจมากแต่ใช้มากเกินไปก็ไม่เป็นผลดีต่อผู้นำ การมีอำนาจมากแต่ก็ไม่ใช้ก็ไม่เป็นผลดีต่อองค์กร ฉะนั้นจึงอยู่ที่ผู้นำว่าจะเลือกใช้อำนาจนี้อย่างไรซึ่งต้อง อยู่ที่ตัวผู้ใช้จะเข้มงวดกับตัวเองเพียงแค่ไหน
ตำนานเทพแห่งการบริหารอย่างคุณอินาโมริ คาซึโอะ ผู้ที่สามารถพลิกฟื้นสายการบินแห่งชาติอย่าง JAL ให้พลิกฟื้นขึ้นมาได้ภายในเวลาสามปี ตัวคนอินาโมริก็ไม่มีความรู้ในการบริหารสายการบิน บวกทั้งอายุในขณะนั้นก็มากแล้ว ใครเห็นก็มีแต่คิดว่าเอาชื่อเสียงที่สั่งสมมามาทิ้งเสียเปล่า
แต่คุณอินาโมริมองว่าการฟื้นฟูสายการบินแห่งชาตินี้ได้ จะยังพอเป็นความหวังว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นนั้นยังพอที่จะฟื้นฟูขึ้นมาได้อยู่ ในช่วงระยะแรกการเป็นประธาน JAL อินาโมริกล่าวว่า มีอะไรหลายอย่างที่เขาประหลาดใจ องค์กร JAL มีลักษณะแบบราชการ ผู้บริหารระดับสูงไม่มีความสำนึกจริงจังที่จะปรับปรุงธุรกิจ ไม่มีความชัดเจนว่าใครรับผิดชอบในธุรกิจอะไร
คุณอินาโมริมองว่า หน้าที่ของผู้บริหารคือทำให้พนักงานมีความสุข แต่ความสุขของพนักงานไม่ใช่เป็นการสปอยล์ หากแต่เป็นการทำยังไงก็ได้ให้พนักงานทำงานมากขึ้นแต่ยังคงมีความสุขอยู่ และมีความภูมิใจที่ได้ทำงานเหล่านั้น เคล็ดลับในความสำเร็จนี้คือการค่อยๆปรับทัศนคติของพนักงานทุกคน
ช่วงเดือนแรกที่คุณอินาโมริเข้าไปบริหาร จะเรียกผู้บริหารระดับสูง 50 กว่าคนเข้าประชุมหลังเลิกงาน สัปดาห์ละ 4 วัน แต่เรื่องที่เค้าประชุมไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องงาน แต่เป็นเกี่ยวกับทัศนคติการเป็นมนุษย์ คุณค่าการเป็นมนุษย์ ผู้นำแบบไหนที่ลูกน้องรัก สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้บริหารซึมซับสไตล์การบริหารของคุณอินาโมริ
1
และก็กระจายไปสู่ระดับ ผู้บริหารรองลงไปอีก 200 กว่าคน ตัวเค้าเองก็มีการลงไปคุยกับพนักงานระดับล่าง เขามักจะติดเบียร์กระป๋องไว้อย่างน้อยซักสองถึงสามกระป๋องเสมอ เพื่อที่จะได้ลงไปคุยกับพนักงานได้ทุกระดับ ไม่นานทัศนคติของพนักงานจึงค่อยๆเปลี่ยนไปทั้งองค์กร
คุณอินาโมริจำต้องตัดพนักงานไม่ต่ำกว่า 30% ลดสวัสดิการของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งต่ำกว่าบริษัทของคู่แข่งถึง 20% ขายเครื่องบินที่ไม่ประหยัดน้ำมันไม่ต่ำกว่า 60 ลำ ตัดเส้นทางทั้งหลายที่ไม่ทำกำไรไม่ต่ำกว่า 40 เส้นทาง แม้จะฟังดูเป็นเรื่องที่โหดร้ายแต่ก็เป็นเรื่องที่จำใจ
ตัวคุณอินาโมริเองในฐานะประธานบริษัท ก็ประกาศตั้งแต่วันแรกว่าจะไม่ได้รับเงินเดือน สวัสดิการต่างๆของประธานก็ให้ตัดออก แม้แต่นั่งสายการบินก็นั่งเพียงแค่ชั้นประหยัด
ด้วยการบริหารแบบนี้ใช้เวลาเพียงสามปีสายการบิน JAL สามารถพลิกฟื้นขึ้นมามีกำไร และสามารถกลับเข้าไปสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้ในปีเดียวกัน เรียกแต่ว่า JAL ฝ่าพายุกลับมาบินได้อย่างอัศจรรย์
แม้แต่ในวันที่เค้าลงจากตำแหน่ง ก็ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญการไม่กลับไปผิดพลาดอีก ไม่ฉะนั้นสิ่งที่ทำมาจะสูญเปล่าทั้งหมด
1
จากเรื่องของคุณอินาโมริ หากไม่ใช่เพราะความเข้มงวดก็คงจะไม่สามารถบัญชาการสายการบินที่อุ้ยอ้ายขนาดนี้ให้สามารถยังเดินต่อ และพลิกฟื้นกลับมาได้อย่างสง่างามขนาดนี้
จึงสรุปได้ว่า ความเข้มงวดก็คือการสำแดงบารมี การใช้อำนาจเพื่อผลักดันให้องค์กรได้เดินต่ออย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
โฆษณา