การปรับสมดุลด้วยมหันตภัยธรรมชาติ
ในโลก"อนิจจัง"
สรรพสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเป็นจักรกลขับเคลื่อน
เพราะสรรพสิ่งล้วนมีองค์ประกอบของสิ่งที่มีลักษณะเดียวกันแต่มีคุณสมบัติเป็นขั้วตรงข้ามกัน จึงจำเป็นต้องมีการปรับองค์ประกอบให้ได้สัดส่วนพอดีที่จะขับเคลื่อนระบบให้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลวงพ่อชา พูดถึงเรื่องการปรับตัวกายใจให้เกิดความ "พอดี" ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป คืออย่าให้มีความกดดัน คล้ายกับการสร้างเขื่อนที่ต้องมีรูระบายน้ำที่มีมากเกินไปให้ล้นออกเพื่อลดแรงกดดันต่อสันเขื่อน
ระบบเศรษฐกิจในโลกอนิจจังก็มี Business Cycle วัฏจักรเศรษฐกิจขึ้นลงเพื่อขจัดเอาของเสียอันเป็นผลกระทบภายนอกในด้านลบในระบบออกเป็นระยะๆ จึงเกิดเป็นวัฏจักรเศรษฐกิจ
ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงในเรื่องการใช้รถยนต์ให้เครื่องยนต์เดินได้เต็มประสิทธิภาพก็ต้องมีการขจัดเอาของเสียอันเป็นผลกระทบภายนอกในด้านลบออกไปจากระบบเผาใหม้เชื้อเพลิง โดยในทุกสัปดาห์จะต้องเอารถไปวิ่งแรงๆ เพื่อขจัดของเสียในระบบออก ทำให้ระบบเผาใหม้สะอาดและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
"Believe in Future"
โลกนี้"ความถูกผิดของชีวิต"มีอยู่จริงด้วย"กฎแห่งกรรม" ที่ทำให้ "คนคำนวณ ไม่สู้ฟ้าลิขิต"
มนุษย์ที่มองเห็นโอกาส(Free will)
จึงพึ่งมือตัวเองปฏิบัติต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดีกว่า
"Be yourself and create better living"
ในสังคมมนุษย์บนดาวเคราะห์โลกเสรี(Free will)นี้
"ความอยาก"
เป็น"บารมีเฉพาะของคนที่มีปัญญา"เท่านั้น
ทำไมโลกเผชิญ Great Reset Age: 2010-2030
ทำไม เกิดการปรับสมดุลด้วยมหันตภัยธรรมชาติ
เหตุเพราะมนุษย์ใช้หนึ่งสมองกับสองมือ
สร้างสรรพสิ่งขึ้นมาให้เป็นขยะรกโลกมิติทางกายภาพ
เช่น ขยะทางเทคโนโลยีต่างๆ จนยากจะหาที่กลบฝังกันได้หมดสิ้นแล้ว
ในทำนองเดียวกัน
โลกมิติทางพลังงานภายในจิตใจของมนุษย์
เองก็นับวันมนุษย์มีแต่จะสั่งสม อารมณ์ ความรู้สึก และจิตสำนึกที่เป็นขยะซึ่งพร้อมที่จะขับเคลื่อนมันออกมาภายนอกเป็นพฤติกรรมด้านลบเพื่อแสดงออกหรือกระทำต่อกันหนักขึ้นทุกวัน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
ในวิกฤตที่รุนแรงระดับขุดรากถอนโคน
ได้ผลักให้คนทุกชนชั้นที่เผชิญผลกระทบเฉพาะหน้านั้นร่วงลงมากองรวมกันอยู่บันไดขั้นที่หนึ่งของมาสโลว์ ที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้ปัญหาความมั่นคงอื่นๆ และการมีเทคโนโลยีก็จะไร้ความหมายกว่าเรื่องปากท้อง
สามมหันตภัยธรรมชาติ
เป็นปัจจัยที่บีบบังคับให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงแบบ"ขุดรากถอนโคน"
1.สภาวะมหันตภัยธรรมชาติเบื้องต้น
คือโลกเดือดด้วยคลื่นอากาศร้อน คลื่นอากาศเย็น คลื่นยักษ์จากทะเลและพายุรุนแรงที่มนุษย์บางทวีปต้องเผชิญ
2 สภาวะมหันตภัยธรรมชาติในระหว่างเปลี่ยนแปลง
คือโรคระบาดและแผ่นดินไหว และภูเขาไฟทั้งเก่าและใหม่ระเบิดในที่ต่างๆ โรคระบาดที่เป็นโรคร้ายชนิดใหม่
เช่น Great Conjunction สัญญาณบนท้องฟ้าที่ดาวคุณธรรม กับ ดาวบาปเคราะห์ คือ ดาวพฤหัส กับ ดาวเสาร์ โคจรเข้ามาใกล้ชิดกันมากที่สุด ส่งผลให้เกิด Covid-19 เป็นการเริ่มต้น Great Reset
3.สภาวะมหันตภัยธรรมชาติมจากจิตสำนึก
ืคือจิตสำนึกต่ำทรามของชนชั้นผู้นำ และประชาชนผู้ไกลศาสนาในสังคมต่างๆ ได้แผ่พลังงานด้านลบด้วยการกระทำที่เลวทรามต่ำช้า ไร้ยางอายบนผืนแผ่นดินจนเกิดความไม่สงบสุขของสังคมและเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตของคนดีโดยทั่วไป
เช่น การก่อสงครามรัสเซียรุกรานยูเครน ที่เกิดแล้วยังหาทางลงไม่พบ ต่อด้วย ล่าสุดจีนมีปัญหาอสังหาริมทรัพย์ที่แก้ไม่ได้จึงตั้งท่าจะก่อสงครามรุกรานไต้หวัน ประมาณว่าสร้างสงครามเพื่อกลบปัญหาเศรษฐกิจ
บทเรียนด้านความกลัว
สามมหันตภัยธรรมชาติรุนแรงที่มนุษย์เผชิญกับความกลัวในบางเรื่องได้กระตุ้นเตือนให้มนุษย์รู้จักปลดปล่อยพลังงานความรู้สึกรักกันในหมู่ชนที่กำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน เกิดอารมณ์ร่วมรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน
โดยเหล่าชนผู้กดขี่
เกิดสภาวะ"รวมตัวสนธิกำลังกัน"
เพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม
ส่วนเหล่าชนที่ถูกกระทำ
ก็จะมุ่ง"สู่เส้นทางสามัคคีประชาชน" เพื่อเอาชีวิตรอด
เพราะทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในสภาวะเป็นคู่ตรงข้าม
จึงจำเป็นต้องเลือกข้างและจ้องทำลายฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามเข้าล้มล้าง
เมื่อพิจารณาภาพใหญ่
โลกของผู้ก่อการดี คนมีปัญญา
เห็น"หลักอนิจจังเป็นธรรมที่ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน"
จึงรู้ว่า "ความถูกผิดของชีวิต"มีอยู่จริง
ยุค Great Reset: Age 2020-2030
อยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านสู่ยุคชาววิไล Human Plus Age
เช่น เมื่อ 25 พฤษภาคม 2566 FDA อนุญาตให้ Neuralink ทดลองฝัง Chip N1 กับคน ในโครงการ Neuralink เรื่อง Human Plus ซึ่ง Neuralink จะทดลองฝัง Chip N1 กับคน โดยเริ่มปีหน้า 2024
ล่าสุด Neuralink ประกาศรับผู้ป่วยที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ ฝัง Chip เพื่อแก้ปัญหาอาการป่วยที่เผชิญกลุ่มโรคต่างๆ
25 พฤษภาคม 2566 FDA อนุญาตให้ Neuralink ทดลองฝัง Chip N1 กับคน ในโครงการ Neuralink เรื่อง Human Plus ซึ่ง Neuralink จะทดลองฝัง Chip N1 กับคน โดยเริ่มปี 2024
โลกเผด็จการ คนฉลาดแกมโกง
ก็เห็น"หลักอนิจจังเป็นธรรมที่ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน"
แต่ไม่ยอมรับว่า "ความถูกผิดของชีวิต"มีอยู่จริง
พยายามจะโกงธรรมชาติ ด้วยวิธีควบคุมปัจจัยองค์ประกอบเพื่อคงสิ่งที่ตัวเองได้เปรียบเอาไว้ โดยใช้กลไกระบบอุปถัมภ์กดความเปลี่ยนแปลงไม่ให้ถึงพร้อมจนตัวเองหมดความได้เปรียบ
แต่การกดเอาไว้โดยไม่มีรูระบาย
เกิดผลให้ระบบอุปถัมภ์นั้นมีสภาวะอมโรคเอาไว้
เมื่อยิ่งใกล้ความเปลี่ยนแปลง ก็ยิ่งต้องแลกด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น อาจถึงขั้นเทหมดหน้าตัก เพียงเพื่อจะรักษาความได้เปรียบเอาไว้
แต่"คนคำนวณ ไม่สู้ฟ้าลิขิต"
เพราะในโลกอนิจจังที่สรรพสิ่งที่เราเห็นว่าอยู่นิ่งๆ
แท้จริงแล้ว เชือกแห่งเวลาได้ฉุดลากทุกสิ่ง ทำให้
ไม่มีอะไรอยู่นิ่งๆ ไม่มีอะไรอยู่ที่เดิม "ธรรมที่ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน" คือทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลง
"คนคำนวณ ไม่สู้ฟ้าลิขิต"
ในโลกอนิจจังที่สรรพสิ่งที่เราเห็นว่าอยู่นิ่งๆ
แท้จริงแล้ว เชือกแห่งเวลาได้ฉุดลากทุกสิ่งทำให้
ไม่มีอะไรอยู่นิ่งๆ ไม่มีอะไรอยู่ที่เดิม "ธรรมที่ดำรงอยู่อย่างยั่งยืน" คือทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลง
เพราะความรู้ของมนุษย์มีน้อยนัก
เมื่อเปรียบเทียบกับความรู้ของธรรมชาติที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานเป็นนิรันดร์
จึงไม่มีมนุษย์คนไหนล่วงรู้อนาคตได้
แม้แต่โหราจารย์ที่ทำนายโดยอาศัยการดูพฤติกรรมดวงดาวบนท้องฟ้า ก็ไม่สามารถล่วงรู้อนาคต เพราะสิ่งที่มนุษย์มองเห็นไม่ใช่ทั้งหมดของจักรวาล แต่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของจักรวาล เท่านั้น
กฏแห่งกรรมมีจริง "ความถูกผิดของชีวิต"มีอยู่จริง "
จึงทำให้คนคำนวณ ไม่สู้ฟ้าลิขิต"
มนุษย์ไม่สามารถโกงธรรมชาติได้นาน
เพราะธรรมชาติที่มนุษย์คาดไม่ถึงจะเอาคืน เสมอ
เทคโนโลยีจะไร้ความหมายกว่าเรื่องปากท้อง
ความมั่นคงอื่นๆ ก็จะไร้ความหมายกว่าเรื่องปากท้อง
ตัวอย่าง เช่น เศรษฐกิจจีน 40% ขับเคลื่อนด้วยการสร้างอสังหาริมทรัพย์ ที่อมโรค และทะยอยยื่นคุ้มครองทรัพย์กรณีล้มละลายเริ่มที่ China Evergrande Group อสังหาริมทรัพย์ อันดับ1 ตามมาด้วย Sunac China Holdings อสังหาริมทรัพย์ อันดับ3 และล่าสุด China Oceanwide Holdings ล้มละลาย
จีนให้ธนาคารใหญ่สำรองเงินเพื่อรับสถานการณ์ล้มละลายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ดูทรงแล้วจีนยังไม่มีหนทางแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้จีนมีแรงจูงใจที่จะก่อสงครามกับไต้หวันมากยิ่งขึ้น แต่ฝ่ายทหารของจีนออกอาการไม่อยากทำสงครามกับไต้หวัน
สังเกตว่าเผด็จการก็ขับเคลื่อนด้วยระบบอุปถัมภ์ที่อมโรค เพราะไม่โปร่งใส อมโรคไว้ จนอ้วกออกมาเมื่อกรรมตามทัน
โลกของคนมีปัญญา
มีสำนึกรู้ว่า"ความถูกผิดของชีวิต"มีอยู่จริง
จึง "หยุดล้อเล่นกับชีวิต".....
เพราะธรรมชาติไม่แบ่งแยกผู้คน
คนที่เห็นคนไม่เท่ากันนั้นฝืนธรรมชาติ
คนโง่ไร้ปัญญา
ไม่ยอมรับว่า"ความถูกผิดของชีวิต" ไม่มีอยู่จริง?
จึงคิดฝืนธรรมชาติ
โดยยึดเอาเป้าหมายคือ"ผลเฉพาะหน้า"เป็นหลัก
คิดแบ่งแยกผู้คน ด้วยระบบอุปถัมภ์ ใช้อำนาจทำตามใจตัวเอง
ไม่รักษาน้ำใจใคร มุ่งเพียงเพื่อจะบรรลุผลเฉพาะหน้า
บางคนฉลาดแกมโกง คิดโกงธรรมชาติ
โดยใช้วิธีตีสองหน้า
โดยหลอกว่าปฏิบัติเป็นธรรมเพื่อรักษาน้ำใจ จึงอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ จนกว่ากรรมจะตามทัน
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
