27 ต.ค. 2023 เวลา 09:09 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
กรุงเทพมหานคร

"Tune in for Love คลื่นรักสื่อใจ" เมื่อกาลเวลาผันเปลี่ยน แต่ความรักยังคงอยู่

"มีซู" สาวน้อยจากร้านเบเกอรี่ได้พบกับ "ฮยอนอู" ชายหนุ่มลึกลับที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอโดยไม่ทันตั้งตัว ท่ามกลางบรรยากาศและกลิ่นอายของยุค 90 เหมือนมีมนต์สะกดให้ทั้งสองมีความรู้สึกดีๆให้กัน
แต่เมื่อเรื่องราวในอดีตของฮยอนอูคอยแวะเวียนกลับเข้ามา ทำให้ความสัมพันธ์กับมีซูดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก ปัญหาและอุปสรรคต่างพัดพาให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน
มีซู - ฮยอนอู
หนังจะเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครมีซูเป็นหลัก ผ่านช่วงการเติบโตในช่วงวัยต่างๆ เรามองว่าถึงแม้ทั้งมีซูและฮยอนอุจะห่างหายกันไป แต่ชีวิตมีซูมักมีฮยอนอูเป็นจุดเช็คพอยท์ในทุกช่วงวัย ก็จะมีหนทางกลับมาเจอกันอีกครั้ง
เราชอบโทนเรื่องโดยรวมที่ให้ฟิลง่ายๆสบายๆ มีแบล็คกราวเป็นรายการวิทยุที่คลอเคลียไปกับกาลเวลาที่ผันผ่านไปเรื่อยๆตั้งแต่ยุค 90 ไปจนถึงยุค 2000 ดูคลาสสิคและมีเสน่ห์ แสงสวยๆและเพลงเพราะๆช่วยขับเคลื่อนให้คนดูรู้สึกอินไปกลับตัวละครและเรื่องราวได้ดี
เป็นหนังที่ภาพสวยเพลงเพราะ
นักแสดงอย่า "จองแฮอิน และ คิมโกอึน" เคมีเข้าคู่น่ารักกว่าที่คิด ทั้งคู่แสดงฉากธรรมดาๆได้ออกมาน่ารักและเป็นธรรมชาติ ช่วงดราม่าก็แสดงกีกินขาดแบบไม่มีอะไรติ มีฉากหนึ่งที่เราชอบมากคือ ฉากที่ฮยอนอูลูปหัวมีซูตอนนอน แล้วมีซูก็หันเข้าหาอ้อมกอด ฉากนี้ดีมากกก ชอบฉากนี้ที่สุด เรียบง่ายแต่น่ารักสุดๆ
ฉากเข้าคู่ง่ายๆ แต่หวานมากนะบอกเลย
"คิมโกอึน" กับบท มีซู น่ารัก สดใส การแสดงของโกอึนให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สิทุกท่าทาง ทุกคำพูด คือเป้นธรรมชาติไม่เหมือนแสดงเลยสักนิด ความตาแป๋วๆพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจเหมาะกับคาแรคเตอร์ มีซู แต่พอช่วงน้ำตาล่วงก็น่าสงสารจับใจ
คุณโกอึนสวยธรรมชาติมากๆ รู้สึกได้ถึงความสบายๆแต่มีเสน่ห์ของเธอเลย
ส่วน "จองแฮอิน" กับบท ฮยอนอู ด้วยคาแรคเตอร์ของฮยอนอูพูดน้อยคิดเยอะเลยต้องใช้สายตาสื่อสารเป็นหลัก แฮอินทำได้ดี ภาษากายที่แสดงออกมาคือผู้ชายอบอุ่นคนนึงเลยก็ว่าได้ ชอบตอนที่ใช้มือลูบหัวมีซูตอนนอน สายตาอ่อนโยนเป็นที่สุด
แค่สายตาที่แสดงออกก็รู้ว่าคลั่งรักจะตายแล้วววว
แต่หนังก็แอบจะมีจุดพลาดอยู่เหมือนกันนะ ครึ่งแรกมาดีเลยชอบมาก แต่แอบไม่สมเหตุสมผลดตอนอดีตของฮยอนอูถูกเปิดเผย การทำเรื่องราวให้ดูโอเวอร์กว่าความเป็นจริง ทำให้เรื่องราวต่อจากนั้นดูน่าเบื่อและด้วยสถานการณ์นี้ค่อนข้างส่งผลให้ช่วงท้ายเรื่องดูเร่งรัดจบเร็ว
โดยทั้งหมดทั้งมวลเราว่า "Tune in for Love - คลื่นรักสื่อใจ" มีจุดแข็งที่บรรยากาศของหนังความยุค 90, 2000 ความรักแบบง่ายๆ แถมยังมีเพลงเพราะๆ จากเสียงตามคลื่นวิทยุให้ฟังด้วย ถึงแม้อาจจะมีพลาดในตอนจบไปบ้างแต่ก็ใช้ได้เลยสำหรับใครที่อยากชมอะไรเบาๆไม่หนักมาก Recommend👍🏻
  • สามารถรับชม "Tune in for Love - คลื่นรักสื่อใจ" ได้แล้วทาง Netflix ใครเคยดูแล้วมาคอมเมนต์พูดคุยกันได้ด้านล่างนี้เลย👇🏻
✨ขอบคุณทุกคนที่ยังให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทุกการติดตาม ทุกการแสดงความคิดเห็น ทุกการกดไลท์เป็นแรงใจให้เราทำเพจต่อไป ขอบคุณทุกคนมากจริงๆค่ะ🙏🏻🥰💖✨
👉🏻👉🏻ฝากนักอ่านทุกท่านที่เดินทางมาเจอบทความนี้และอ่านมาถึงจุดนี้ช่วยกดไลท์ กดแชร์ หรือจะแสดงความคิดเห็น เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆให้กับบทความนี้ด้วยนะคะ🥺🙏🏻
⭐⭐⭐ สำหรับเพื่อนๆ ที่มาใหม่ก็ขอฝากติดตามเพจ "ก็ชอบรีวิวอ่ะ" ไว้ในหัวใจด้วยน้าา
รับรองว่าจะได้อ่านบทความรีวิวจากคนที่ชอบการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจแน่นอนค่ะ!❤❤❤❤❤
โฆษณา