26 ส.ค. 2023 เวลา 13:04 • สัตว์เลี้ยง

Strays: หนังชีวิตหมาที่ให้คุณค่ากับชีวิตคน

และควรค่าให้คน
หันมาตั้งคำถามกับชีวิตตัวเอง
.
.
.
กับเรื่องราวของ “เรจจี้”
เจ้าหมาน้อยแสบซน
ที่ใช้ชีวิตอยู่กับ “ดั๊ค”
แบดบอยสายเขียวสุดเซอร์
ผู้เป็น Loser ตัวพ่อ
และไม่เคยคิดรับเขามาเลี้ยงแต่แรก
ถ้าแฟนไม่ขอ ไม่เอ็นดู ก็พร้อมขับไล่
แต่เรจจี้ก็ยังคงปักใจเชื่อว่า
ทุกอย่างที่ดั๊คทำนั้น
คือการแสดงความรักในรูปแบบหนึ่ง
มองว่าถ้าเขายังพยายามต่อไป
สักวันคงชนะใจเจ้าของได้
กระทั่งมีเหตุบางอย่าง
ที่ทำให้น้องต้องกลายมาเป็น
หมาเร่ร่อนอยู่ไกลบ้าน
ไม่อาจหาทางกลับได้เหมือนก่อน
ด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ที่ยังคิดว่า
เจ้าของยังรักและต้องการอยู่
ท่ามกลางโลกภายนอกซึ่งเต็มไปด้วย
สิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
พอได้จับพลัดจับผลูมาพบกับ
“บั๊ก-ฮันเตอร์-แม็กกี้”
รวมกันเป็นแก๊งสี่ขาข้างทางเฉพาะกิจ
เรื่องวุ่นๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตจึงเกิดขึ้น
โดยหนังใช้การปูเรื่องได้
กระชับ แปลกตา น่าสนใจ
ก่อนจะพาเราไปเต็มอิ่ม
ฮาลั่นกันแบบสุดๆ
ขำจนปอดโยก ขากรรไกรแยก
ตบมือเกรียวกราวทั่วทั้งโรง
จนบรรยากาศรอบสื่อ
พวยพุ่งไปด้วยมวลความสนุก
เหมือนกำลังดูแก๊งวายป่วง
เกรียนแตก หลุดโลกในเวอร์ชั่นสี่ขา
ที่ใส่จริตจก้านของนุดเข้าไปแบบสุดเหวี่ยง
ผ่านสีหน้า แววตา อารมณ์
แบบ “สมจริง” เมื่อได้ดู
เกินกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว
ทั้งเสียงพากษ์กับปากขยับตรงกันได้เนียนตา
พาให้รู้สึกว่าน้องๆ ก็มีมุมมอง ความคิด
มีโลกของเขาอยู่เช่นกันจริงๆ
จุดนี้ขอชมทีมนักแสดงที่มาพากษ์
ทั้ง Will Ferrell (เรจจี้),
Jamie Foxx (บั๊ก),
Randall Park (ฮันเตอร์)
และ Isla Fisher (แม็กกี้)
ทุกคนเข้าถึงอารมณ์มากเลย
ทำให้เกิดภาพของแก๊งน้องหมา
ที่เวลาเล่น คุย ถกเถียงก็โบ๊ะบ๊ะ บ้าบอ
ทะเล้น ทะลึ่งตึงตังขั้นสุดหยุดไม่อยู่
อารมณ์แบบหนัง “Ted หมีหื่น”
หรือ “Suicide Squad” ประมาณนั้นเลย
(เลยจะไม่ได้เหมาะกับเด็กๆ นักนะครับ
ถ้าดูควรมีพ่อแม่ผู้ปกครองคอยแนะด้วย)
นอกจากนี้ยังดำเนินเรื่องได้สนุก ชวนลุ้นตลอด
ราวกับกำลังผจญภัยไปกับน้องๆ
หลายฉากหลายตอนมีการ “ปล่อยของ”
ออกมาทำให้เซอร์ไพรส์กันสุดๆ
แบบเฮ้ย! ได้หรอวะ เออได้ไปแล้วว่ะ55+
พร้อมสะท้อนแง่มุมชีวิต
ที่มีอยู่จริงในสังคม
โดยเฉพาะการต้องทน
วนอยู่ใน “Toxic Relationship”
แบบรู้ว่าอีกฝ่ายแย่แต่ก็ทำใจไม่ได้
เลยพยายามหาเหตุผลเข้าข้าง
มาปลอบไม่ให้ตัวเองเจ็บเกินไป
ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้มันยัง
รวมไปถึงคนกับสัตว์เลี้ยงด้วย
จึงเป็นเหตุให้ต้องระวังกัน
เวลาจะหาบ้านให้น้องๆ
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่พร้อม
จะรักและดูแลพวกเขาได้จริง
บางทีสู้เป็นขาจรอยู่ข้างทาง
อาจได้เจอมิตรภาพ
หรือคนดีๆ ระหว่างทาง
มากกว่าจะอยู่บ้าน
แล้วโดนทำร้ายทางกายใจ
คล้ายกับเรื่องคู่ครองที่ว่า
ถ้ามีแล้วไม่ดี สู้ไม่มีดีกว่า
หมาแมวเขาก็มีหัวใจ
ฟังภาษาคนไม่ได้
ก็รับรู้ด้วยภาษาใจ
แสดงออกกับเขายังไง
เขาก็รับรู้ได้ไม่ต่างกัน
ในชีวิตจริงที่เรามัก
หยิบเอาคำว่าหมา
มาใช้ในเชิงลบ เชิงด่า
เช่น สันดานหมา, ปากหมา,ชีวิตหมาๆ
หรือเขาดีกันขึ้นมา เราก็หมาดีๆ
หนังเรื่องนี้จึงเหมือนพูดแทนใจ
หยิบเอาอินไซต์ที่ว่ามาพลิกมุม
งั้นเรามาดูชีวิตหมาจริงๆ ดู
ว่าหมาอย่างพวกเขา
ใช้ชีวิตยังไงไม่ให้หมากัน
ดูแล้วพลันรู้สึกได้คิดทบทวน
ถึงคุณค่าแห่งตัวตนของเรา
ว่าจริงๆ แล้ววัดกันที่อะไร?
จากปกติที่คอหนังหรือสายโปรดักชั่น
ย่อมรู้ดีว่าสัตว์-เด็ก-เอฟเฟกต์-สลิง
เป็นเรื่องยากมากๆ ในการทำให้เนียน
แต่ #Starys นับเป็นหนังคอมเมดี้เคล้าดราม่า
ที่ชวนซึ้ง ตรึงใจไปอีกแบบ
จนแอบยอมรับว่านี่คือ “Another Level”
ของหนังแก๊งหมาที่สมจริงเกินคาดสุด
ทำให้เห็นถึงการนำวัตถุดิบหรือแนวทางเก่าๆ
มาเล่าใหม่แล้ว “ทำได้” ทำถึง
มันก็น่าติดตามจนสุด
ไม่ใช่ทาสก็ดูได้ ยิ่งทาสดูยิ่งชอบ
ยิ่งอยากจะรักและดูแลน้องๆ ให้ดียิ่งขึ้น
🐶🎬 “Strays: ชีวิตหมาต้องไม่หมา” 31 ส.ค. นี้
พร้อมกัน ทุกโรงภาพยนตร์นะฮับ โฮ่งๆ
🐕ดูตัวอย่างหนัง >> คลิก
ขอขอบคุณ Filmment
เพจพาร์ทเนอร์ใจดี
ที่นึกถึงกันเสมอนะครับ
โฆษณา