28 ส.ค. 2023 เวลา 02:24 • ประวัติศาสตร์

การเยือนจีนของ “ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon)”

ในวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ.1971 (พ.ศ.2514) ประธานาธิบดี “ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon)” แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศผ่านโทรทัศน์ และประกาศนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
ท่านประธานาธิบดีได้ประกาศว่าตนได้ตอบรับคำเชิญของกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และทำให้นิกสันเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาที่จะไปเยี่ยมเยือนจีน
นิกสันได้ประกาศว่า
“ผมได้ตัดสินใจเช่นนี้เนื่องจากความมั่นใจที่ว่าชาติจะได้ประโยชน์จากการลดความขัดแย้ง และความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน”
ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon)
การประกาศของนิกสันนั้นได้ผ่านการวางแผนและหารือระหว่างทำเนียบขาวและปักกิ่งมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และนิกสันซึ่งก็สนใจในประเทศจีนอยู่แล้ว ก็ได้ตั้งความหวังว่าการไปเยือนจีนครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์
และนิกสันก็คิดถูก หนึ่งในนักการทูตอเมริกันในเวลานั้นได้กล่าวว่า ระยะเวลาแปดวันของเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1972 (พ.ศ.2515) ที่นิกสันอยู่ในจีนนั้น คือ “สัปดาห์เปลี่ยนโลก” และทำให้สมดุลอำนาจระหว่างสหรัฐอเมริกา จีน และสหภาพโซเวียตเปลี่ยนไป
ย้อนกลับไปสมัยที่นิกสันเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) ก็เป็นปีที่ครบรอบ 20 ปีการก่อกำเนิดสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็น 20 ปีที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนคอมมิวนิสต์ได้สะดุดหยุดลง
ทั้งสองชาติไม่ได้ติดต่อกันเลยเป็นเวลานับ 10 ปี โดยครั้งที่ทั้งสองชาติได้มีโอกาสกลับมาเจอกันอีกก็คือในปีค.ศ.1954 (พ.ศ.2497) เมื่อทั้งสองชาติได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมในอนุสัญญาเจนีวา เจรจาเรื่องพรมแดนทางการเมืองระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ และเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้
ในครั้งนั้น “จอห์น ฟอสเตอร์ ดัลเลส (John Foster Dulles)” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกันในเวลานั้น ได้ปฏิเสธที่จะจับมือทักทายกับ “โจวเอินไหล (Zhou Enlai)” หัวหน้ารัฐบาลจีน
จอห์น ฟอสเตอร์ ดัลเลส (John Foster Dulles)
เมื่อมาถึงยุค 60 (พ.ศ.2503-2512) รัฐบาลของนิกสันก็ต้องพบเจอกับความวุ่นวายต่างๆ นาๆ ทั้งเรื่องสงครามเวียดนาม ปัญหาสังคมในประเทศ และการที่สหภาพโซเวียตสะสมอาวุธนิวเคลียร์
นิกสันและ “เฮนรี คิสซิงเกอร์ (Henry Kissinger)” ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เชื่อว่าการเจรจาและผูกมิตรกับจีน จะทำให้สหรัฐอเมริกาได้พันธมิตรที่แข็งแกร่งในการเจรจากับเวียดนามเหนือและสหภาพโซเวียต
ทางด้านจีนก็มีเหตุผลที่จะลองพูดคุยกับสหรัฐอเมริกา
ถึงแม้ว่าจีนจะมีอุดมการณ์การปกครองแบบคอมมิวนิสต์เช่นเดียวกับสหภาพโซเวียต แต่จีนก็ไม่เคยไว้ใจสหภาพโซเวียต เนื่องจากเกรงว่าสหภาพโซเวียตที่มีอาวุธพร้อมจะขยายอำนาจและดินแดนเข้ามาในเอเชีย
เฮนรี คิสซิงเกอร์ (Henry Kissinger)
เมื่อเป็นเช่นนี้ นิกสันและคิสซิงเกอร์จึงปิ๊งไอเดียว่าการแตกแยกระหว่างจีนกับสหภาพโซเวียต ในขณะที่สหรัฐอเมริกาแทรกเข้าไปอยู่ในมุมของสามเหลี่ยมอำนาจนี้ จะทำให้สมดุลอำนาจนั้นลงตัวและมั่นคง ดังคำกล่าวที่ว่า
3
“ศัตรูของศัตรูคือมิตร”
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1971 (พ.ศ.2514) คิสซิงเกอร์ได้เดินทางอย่างลับๆ ไปพบกับโจวเอินไหล และได้พูดคุย ขออนุญาตให้ประธานาธิบดีอเมริกันมาเยือนจีน
คิสซิงเกอร์ได้ส่งข้อความกลับมายังทำเนียบขาว เป็นข้อความสั้นๆ แต่ทรงพลัง
“Eureka (สำเร็จแล้ว)”
โจวเอินไหล (Zhou Enlai)
ภายหลังจากนิกสันประกาศจะไปเยือนจีน ชาวอเมริกันจำนวนมากต่างตกตะลึง หากแต่ก็ให้การสนับสนุนในภายหลัง
กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็มี แต่ไม่ใช่กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามนิกสัน แต่เป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยมในพรรคการเมืองของนิกสันเอง ซึ่งคิดว่าการทำเช่นนี้เป็นการทรยศไต้หวัน ซึ่งหนีออกมาจากจีนหลังสงครามกลางเมือง
แต่เรื่องนั้นคงต้องรอไว้ก่อน นิกสันมุ่งมั่นที่จะไปจีน และต้องการให้โลกรู้ว่าสหรัฐอเมริกายอมรับความเป็นชาติมหาอำนาจของจีน และเป็นชาติที่อาจจะเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและเป็นชาติที่จะทำให้การเจรจากับสหภาพโซเวียตเป็นไปได้ง่ายขึ้น
ตลอดเวลาที่อยู่จีน มีการบันทึกภาพนิกสันและผู้นำจีน ถ่ายทอดไปยังผู้ชมทั่วโลก และวินาทีสำคัญ ก็คือวินาทีที่นิกสันจับมือทักทายโจวเอินไหล ชายที่เคยถูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกันเมินเมื่อปีค.ศ.1954 (พ.ศ.2497)
นิกสันและภรรยามาถึงจีนในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1972 (พ.ศ.2515) และภายกลังจากเข้าโรงแรมที่พัก ก็มีผู้มาแจ้งนิกสันว่า “เหมาเจ๋อตุง (Mao Zedong)” ประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน ต้องการจะพบนิกสัน
ในเวลานั้นเหมาเจ๋อตุงกำลังป่วย แต่เหมาเจ๋อตุงและนิกสันก็ได้นั่งพูดคุยกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง และกล้องก็จับภาพที่ผู้นำทั้งสองกำลังพูดคุยและหัวเราะอย่างสนุกสนาน
เรียกได้ว่าการเยือนจีนของนิกสันนับเป็นจุดสูงสุดการเป็นประธานาธิบดีของนิกสัน ก่อนที่จะเกิดคดีวอเตอร์เกต (Watergate Scandal) ทำให้นิกสันต้องลาออกในปีค.ศ.1974 (พ.ศ.2517)
นิกสันทักทายเหมาเจ๋อตุง
ถึงแม้การเยือนจีนของนิกสันจะประสบความสำเร็จด้วยดี แต่ก็ไม่สามารถทำให้จีนให้ความช่วยเหลือในการยุติสงครามเวียดนามได้ รวมทั้งเรื่องสถานะของไต้หวันก็ไม่มีอะไรคืบหน้า
แต่การเยือนจีนครั้งนี้ก็ทำให้สมดุลแห่งอำนาจนั้นมั่นคงขึ้น ทำให้สหภาพโซเวียตต้องกลับไปทบทวนหลายๆ อย่าง และเป็นหนึ่งในการเยือนต่างประเทศครั้งประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้
โฆษณา