28 ส.ค. 2023 เวลา 04:11 • ประวัติศาสตร์

รู้จัก ‘5 จักรพรรดิ’ ผู้โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์จีน

ตลอด 2,000 ปีของประวัติศาสตร์ราชวงศ์จีน มีกษัตริย์หลายพระองค์สร้างคุณงามความดีไว้มากมาย ทว่าแต่ละยุคสมัยก็มีเรื่องราวของจักรพรรดิที่ทรงโหดร้ายทารุณด้วยเช่นกัน วันนี้จีนไทยนิวส์จะพาทุกคนไปรู้จัก 5 จักรพรรดิจีนผู้เลื่องชื่อเรื่องความฉ้อฉลและโฉดชั่ว รวมไปถึงเรื่องเล่าที่คลุ้งกลิ่นคาวเลือดของพระองค์
  • จิ๋นซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huang) 秦始皇
ที่มา: https://archive.shine.cn/sunday/now-and-then/%E7%A7%A6%E5%A7%8B%E7%9A%87-Qin-Shi-Huang-259210-BC-The-First-Emperor-who-united-warring-China/shdaily.shtm
เริ่มกันที่ “จิ๋นซีฮ่องเต้” หรือ ฉินสื่อหวงตี้ ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฉินผู้รวมแผ่นดินจีนเมื่อ 221 ก่อนคริสต์ศักราช แม้จะสร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงแต่พระองค์ก็สร้างวีรกรรมอันโหดร้ายไว้มากมายด้วยเช่นกัน
ตลอดการครองราชย์ของจิ๋นซีฮ๋องเต้ พระองค์ใช้แรงงานคนและเงินทองอย่างสิ้นเปลืองเพื่อแสดงความเกรียงไกรของราชวงศ์ เช่นสร้างกำแพงเมืองจีน และสุสานฮ่องเต้ขนาดมหึมา ทำให้ทหารเสียชีวิตมากมายนับไม่ถ้วน ครั้งหนึ่งผู้คนหลายล้านคนต้องถูกบังคับใช้แรงงานเพื่อซ่อมถนนยาวมากกว่า 7,563 กิโลเมตร
ดังคำกล่าวที่ว่าเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล พระองค์สั่งให้สังหารคนงานก่อสร้างสุสานเพื่อรักษาความลับ และกำจัดคนเห็นต่างด้วยการเผาตำราและฆ่าบัณฑิตที่วิจารณ์การปกครองของพระองค์
จิ๋นซีฮ่องเต้ยังหมกมุ่นกับความเป็นอมตะอย่างมากเพราะทรงอยากครอบครองสมบัติที่ตนมีตลอดไป จึงได้สั่งให้คนรับใช้คอยออกตามหาหนทางแห่งความเป็นนิรันดร์ เรียกได้ว่าเป็นจักรพรรดิจีนที่ทั้งยิ่งใหญ่และโหดร้ายเหนือใครในประวัติศาสตร์ราชวงศ์จีน
  • พระเจ้าซางโจ้ว (King Shou of Shang) 商纣王
ที่มา: https://en.wikipedia.org/wiki/King_Zhou_of_Shang
ต่อกันที่ “พระเจ้าซางโจ้ว” หรือ “พระเจ้าโจ้วแห่งราชวงศ์ซาง” จักพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ซาง (1046-256 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เป็นจักรพรรดิสุดโหด ที่เลื่องชื่อในเรื่องวิธีการทารุณผู้คนและความไร้มนุษยธรรม ครั้งหนึ่งพระองค์เคยทำร้ายขุนนางตงฉินผู้ภักดีอย่างปี่ก้าน โดยสั่งควักหัวใจเขาออกมาดูเพียงเพื่อดูว่าหัวใจมี 7 รูตามที่พระองค์ได้ยินมาหรือไม่
ที่มา: https://kknews.cc/zh-sg/history/r52xr6v.html
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงมีนิสัยสำมะเลเทเมาไปวันๆ ลุ่มหลงในสุราและนารี แต่กลับรีดนาทาเร้นราษฎร เอาเงินมาสร้าง "สระสุราป่าเนื้อ" เพื่อดื่มกินกับสตรีในวัง (ตำนานเล่าว่าเป็นการขุดสระขนาดใหญ่เพื่อใส่สุรา แล้วนำกากเหล้ามากองไว้ให้สูงข้างๆ สระ ก่อนจะเสียบกิ่งไม้ไว้ทั่วกอง แล้วเอาเนื้อสัตว์ไปแขวนบนกิ่งไม้เหล่านั้นสำหรับหยิบกิน) เนื่องจากไลฟ์ไตล์สุดเสเพลของพระองค์มีค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว จึงทรงแก้ปัญหาด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม ทำให้ไพร่ฟ้าลำบากยากเข็ญ และหมดหวังไปตามๆ กัน
ที่มา: https://baike.sogou.com/v178850.htm?ch=zhihu.topic
พระเจ้าซางโจ้วยังทำอีกสิ่งโหดร้ายเพื่อเอาใจต๋าจี่ (妲己) ชายาคนโปรดของพระองค์ โดยสั่งให้สร้าง “เสาเผา” (炮格) เพื่อใช้ประหารนักโทษอย่างทารุณ โดยเสาทำจากแท่งสำริดขนาดใหญ่ ด้านในกลวงเพื่อเอาถ่านร้อนใส่เข้าไป เมื่อเสาร้อนจัดจึงค่อยนำนักโทษมามัดไว้กับเสานี้เพื่อให้ตายช้าๆ อย่างทรมาน ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายที่ตกเป็นเหยื่อของเสานี้มีตั้งแต่สามัญชนไปจนถึงขุนนางชั้นผู้ใหญ่
  • พระเจ้าเซี่ยเจี๋ย (King Jie of Xia) 夏桀王
ที่มา: https://zh.wikipedia.org/zh-tw/%E6%A1%80#/media/File:Xiajie.png
“พระเจ้าเซี่ยเจี๋ย” หรือ “พระเจ้าเจี๋ยแห่งราชวงศ์เซี่ย” เป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์เซี่ย (2100-1600 ปีก่อนคริสต์ศักราช) พระองค์เป็นหนึ่งในทรราชที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดในประวัติศาสตร์จีน เพราะทรงเอาแต่พระทัยและคิดหาแต่วิธีรีดไถราษฎรอย่างทารุณเพื่อปรนเปรอกิเลสของตนเอง
ชีวิตของประชาชนในรัชสมัยพระเจ้าเซี่ยเจี๋ยนั้นน่าเวทนามาก สังคมมีความเหลื่อมล้ำสูง กษัตริย์คบคิดกับขุนนางและเจ้าของที่ดินเอาเปรียบประชาชน กอบโกยผลประโยชน์ให้ตนและพวกพ้อง เมื่อใดที่มีประชาชนลุกขึ้นต่อต้าน พระองค์ก็จะลงโทษผู้คนเหล่านั้นโดยไร้ความเมตตาใดๆ
ครั้งหนึ่งพระองค์ได้นำทัพโจมตีชนเผ่าเล็กๆ ที่ชื่อว่าโหย่วซือ (有施) อย่างไร้สาเหตุ ชาวโหย่วซือต่างยอมจำนนโดยไม่ต่อต้าน และยอมที่จะสวามิภักดิ์และถวายเครื่องบรรณาการต่อราชวงศ์เซี่ย ทว่าพระเจ้าเซี่ยเจี๋ยก็ยังไม่พอพระทัยต่อชัยชนะที่ไร้การนองเลือด และยืนกรานจะสังหารเผ่าโหย่วซือทั้งหมด หัวหน้าเผ่าจึงต้องยอมถวายสตรีที่เลอโฉมที่สุดให้แก่พระองค์เพื่อแลกกับชีวิตของคนในเผ่า
  • จักรพรรดินีบูเช็กเทียน (Wu Zetian) 武则天
ที่มา: https://en.wikipedia.org/wiki/Wu_Zetian#/media/File:A_Tang_Dynasty_Empress_Wu_Zetian.JPG
“บูเช็กเทียน” จักรพรรดินีผู้ทรงมีพระนามเลื่องลือเรื่องความโหดที่ไม่แพ้ใคร พระองค์เป็นสตรีคนแรกของจีนที่สามารถกุมอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน โดยไต่เต้าจากนางบำเรอ สู่ฮ่องเต้หญิงเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์จีน ใครก็ตามที่เป็นศัตรูกับพระองค์ ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัวหรือเลือดเนื้อเชื้อไข จะถูกกำจัดอย่างไร้ความปราณี ทั้งขับไล่ เนรเทศ และประหารชีวิต
มีอยู่วันหนึ่งฮองเฮาหวัง พระมเหสีของจักรพรรดิถังเกาจง ไปเยี่ยมลูกสาววัยแรกเกิดของบูเช็กเทียน และเด็กบังเอิญเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ หลายคนจึงเชื่อว่าฮองเฮาหวังเป็นคนลงมือ พระองค์จึงถูกปลดออกจากตำแหน่งทันที ส่วนบูเช็กเทียนก็ได้ขึ้นสู่อำนาจนั้นแทน แต่หนังสือหลายสำนักได้ระบุไว้ว่าจริงๆ แล้วบูเช็กเทียนเป็นคนฆ่าลูกสาวตัวน้อยของเธอเอง
ปี 655 บูเช็กเทียนได้รับการสถาปนาเป็นฮองเฮา และทรงกำจัดเสี้ยนหนามอันดับต้นๆ อย่างฮองเฮาหวังและพระสนมเซียวเป็นอันดับแรก โดยบูเช็กเทียนสั่งให้ตัดมือและเท้าของทั้งสอง จากนั้นนำร่างของพวกเธอมาใส่ในโอ่งบรรจุสุรา ให้ทั้งคู่ทรมานก่อนจะสิ้นลม
  • พระเจ้าซุนฮ่าว (Sun Hao) 孙皓
ที่มา: https://news.bjd.com.cn/read/2020/12/09/35384t172.html
ปิดท้ายความโหดกันที่ “ซุนฮ่าว” กษัตริย์องค์ที่สี่และองค์สุดท้ายแห่งรัฐอู๋หรือง่อก๊กในยุคสามก๊ก (ปี 220-280) พระองค์ทรงหมกมุ่นเรื่องเพศและชอบฆ่าคนเป็นชีวิตจิตใจ เคยสังหารขุนนางผู้ภักดี เพียงเพราะเขากล้าบอกความจริงที่พระองค์ไม่อยากได้ยิน ทั้งยังเคยสั่งควักลูกตาและถลกหนังสนมและบรรดานางในเพียงเพราะพวกนางพูดจาไม่เข้าหู รวมไปถึงการสั่งประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร
จักรพรรดิซุนฮ่าวเคยมีมาตรการลดภาษี ควบคุมพฤติกรรมขุนนาง และปล่อยนางบำเรอออกจากวัง หลังจากนั้นไม่นานพระองค์กลับเป็นทรราชที่หลงระเริงในสุรานารี ทั้งยังฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์และที่ปรึกษาผู้จงรักภักดีแต่ที่คิดต่างจากพระองค์
นอกจากนี้ พระองค์ยังสั่งห้ามลูกสาวของขุนนางระดับสูงออกเรือนก่อนที่พระองค์จะทรงตัดสินว่านางงดงามพอที่จะเป็นนางบำเรอของพระองค์หรือไม่ ผู้ที่ไม่เชื่อฟังจะถูกโยนลงแม่น้ำ และหากขุนนางคนไหนไม่กล้าดื่มในงานเลี้ยงก็จะถูกลงโทษอย่างรุนแรงจนถึงขั้นตัดหัว
โฆษณา