13 ก.ย. 2023 เวลา 01:35 • สุขภาพ

คุณคิดว่า ❔❓

ความคุ้มครองจากประกันกลุ่มหรือประกันสังคมที่มีนั้น เพียงพออยู่แล้วกับค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นจากโรคร้าย 🚨 คุณอาจเอาชีวิตและการเงินของคุณมาเสี่ยงมากเกินไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้
.
.
🧯 ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น แต่วงเงินสวัสดิการเท่าเดิม
ค่าข้าวยังปรับราคา แน่นอนว่าค่ารักษา ค่าหมอ ค่าห้อง ค่ายาต่างๆ ก็ต้องปรับราคาขึ้นตามเช่นกัน แค่สวัสดิการที่มีติดโต๊ะทำงานอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลที่เราไม่สามารถคุมงบได้ มีตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน และบางกรณีอาจต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ✅ ประกันโรคร้ายแรงจะมาช่วยเราแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ลงได้มาก
.
.
☔️ ไม่ครอบคลุมทุกการเจ็บป่วย
เนื่องจากประกันกลุ่มหรือประกันสังคมไม่ได้ครอบคลุมทุกโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะอาการเจ็บป่วยที่ต้องรักษาแบบเฉพาะทาง ดังนั้น มนุษย์เงินเดือนอาจต้องควักเงินเก็บมาจ่ายเอง หรือเลือกที่จะปฏิเสธการรักษาไป ✅ ซึ่งเหตุการณ์นี้ ประกันโรคร้ายแรงจะชดเชยเงินก้อนเพื่อช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรักษา เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกรับการรักษาที่ดีและเหมาะสมกับอาการของคุณมากที่สุด หรือแม้แต่ช่วยดูแลค่าใช้จ่ายในช่วงรักษาต่อเนื่องหรือช่วงพักฟื้นได้
.
.
🛟 ประกันสังคม ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ถ้าวงเงินสวัสดิการประกันกลุ่มที่มี หรือประกันสุขภาพที่ทำไว้ ไม่พอ 😭 ก็ยังใช้ประกันสังคมได้ แต่ประกันสังคมต้องรักษาเฉพาะโรงพยาบาลตามสิทธิของประกันสังคมที่เลือกไว้เท่านั้น ใช้สิทธิต่างโรงพยาบาลไม่ได้ (ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินตามสิทธิ UCEP) ❎ ซึ่งหากเราไม่พอใจการให้บริการหรือการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลตามสิทธิ และต้องการย้ายไปรักษายังโรงพยาบาลอื่น เราก็ต้องจ่ายค่ารักษาเอง
.
.
🪂 ไม่ต้องรอนาน
เงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ก็จริง แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ยิ่งรอคิวรักษาโรคร้ายแรงนานเท่าไหร่ อาการก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น ✅ การทำประกันโรคร้ายแรงไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับเงินก้อนทันที เมื่อตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคร้ายแรง สามารถนำเงินไปรักษาได้เร็วขึ้น มีโอกาสหายได้มากขึ้น อย่างน้อยๆ เงินก็ซื้อโอกาสเข้าถึงการรักษาที่ดี มีคุณภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นได้
.
.
🧰 ลดหย่อนภาษีได้
เพราะมนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องจ่ายภาษีกันทุกปี ถ้ามีอะไรที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้ ก็ดีกว่า..ใช่ไหมล่ะครับ ✅ ซึ่งประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่รวมโรคร้ายแรง สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ และเป็นสิทธิที่รัฐบาลให้ความสำคัญ สนับสนุนให้เรามีความคุ้มครองที่มากเพียงพอ เพราะการที่ประชาชนสามารถดูแลคุณภาพชีวิตตัวเองได้ คือ การช่วยลดภาระสวัสดิการภาครัฐในทางหนึ่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่รัฐบาลจูงใจให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยมีความคุ้มครองประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง
.
จ่ายเพิ่มขึ้นอีกนิด เพื่อหลักประกันชีวิตที่มากกว่า 💰 THEE PLANS 🦌 ขอแนะนำประกันโรคร้ายแรง ก่อนจะสายกับแผนประกันยอดนิยม “เอไอเอ ซีไอ ซูเปอร์แคร์ 20/99 (ไม่มีเงินปันผล)”
✔ ค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 2,920 บาท/เดือน สำหรับความคุ้มครอง 1,000,000 บาท (คำนวณจากเพศหญิง อายุ 30 ปี ชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายเดือน)
✔ คุ้มครองโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง รวม 18 โรค/การรักษา
✔ คุ้มครองโรคร้ายแรงระดับรุนแรง 44 โรค/การรักษา (รวมโรคร้ายแรงสำหรับผู้เยาว์ 4 โรค)
✔ คุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรงยาวๆ ถึงอายุ 99 ปี
✔ เบี้ยประกันภัยคงที่ตลอดสัญญา
✔ เบี้ยประกันภัยสามารถหักลดหย่อนภาษีฯ ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 172)
.
.
อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม ทักแชทหาทีมงาน THEE PLANS ได้เลย พวกเรายินดีดูแลและให้บริการเสมอครับ 💖
🙏🏻🙏🏻🙏🏻 ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
ติดตาม THEEPLANS 🫎 ได้ทุกช่องทางดังนี้
#HealthierLongerBetterLives
#AIACISuperCare #เอไอเอซีไอซูเปอร์แคร์
#ประกันโรคร้ายแรง #CI #criticalillness
#THEEPLANS
#FinancialSolutions
#STANDbyYOU
โฆษณา