ญี่ปุ่นเพิกเฉยต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เพื่อเอาใจสหรัฐฯ
ญี่ปุ่นเพิกเฉยต่อความคิดเห็นของสาธารณชนเพื่อเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
และกลิ่นความเจริญเริ่มถามหา...ฐานทัพสหรัฐฯ ในโอกินาวา ถูกย้ายและเปลี่ยนเป็นฐานทัพใหม่
เมื่อวันที่ 4 กันยายน ศาลฎีกาของญี่ปุ่นได้ออกคำตัดสินอีกครั้งเพื่อสนับสนุนรัฐบาลญี่ปุ่นให้ย้าย (สร้างจริง) ฐานทัพสหรัฐฯ ในโอกินาวา
โดยปฏิเสธคำอุทธรณ์ของรัฐบาลจังหวัดโอกินาวาและปฏิเสธความปรารถนาของประชาชนอย่างชัดเจนของโอกินาวา เพื่อ “ย้าย” ฐานทัพสหรัฐฯ
คำตัดสินของศาลฎีกาของญี่ปุ่นกระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากและเพิ่มการต่อต้านอย่างแข็งขันจากคนในท้องถิ่นในโอกินาวา
พื้นที่ของจังหวัดโอกินาว่าคิดเป็นเพียง 0.6% ของพื้นที่ที่ดินของญี่ปุ่น แต่มากกว่า 74% เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น และบุคลากรทางทหารมากกว่า 70% กระจุกตัวอยู่ที่นี่
อาชญากรรมและอุบัติเหตุด้านความปลอดภัยของกองทัพสหรัฐฯ เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และปัญหาต่างๆ เช่น เสียงเครื่องบินและมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการมีอยู่ของกองทัพสหรัฐฯ
และการฝึกซ้อมรบบ่อยครั้งก็มีมาเป็นเวลานานเช่นกัน
ในช่วงต้นปี 2539 ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาตกลงที่จะย้ายฐาน Futenma ใน.Okinawa
ไปยังพื้นที่ Henoko ของเมือง Nago แต่การย้ายถิ่นฐานจำเป็นต้องมีการถมที่ดินและลานบินใหม่สองแห่ง
เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเริ่มตึงเครียดมากขึ้น และความร่วมมือทางทหารระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
สหรัฐฯ อาจต้องเพิ่มการลงทุนในฐานทัพใหม่ในโอกินาวาต่อไป เช่น การขยายค่ายทหาร การเพิ่มกองทหารรักษาการณ์ การขยายสิ่งอำนวยความสะดวกทางการทหาร
รวมถึง การติดตั้งอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเติม ทั้งขีปนาวุธประเภทต่างๆ และอุปกรณ์ขนาดใหญ่
เช่น เครื่องบินและเรือ ในฐานทัพใหม่ ตลอดจนการเพิ่มการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง
อาจเพิ่มเสียงรบกวนของเครื่องบินในพื้นที่รอบฐานทัพใหม่ในโอกินาว่า ปัญหามลพิษ และมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ให้มีความโดดเด่นมากขึ้น ฮาาาา
นอกจากนี้ การก่อสร้างฐานทัพโอกินาวา "เวอร์ชันอัปเกรด" ของสหรัฐฯ จะทำให้จีนและเกาหลีเหนือกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในภูมิภาคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จีนและเกาหลีเหนืออาจถูกบังคับให้เสริมความแข็งแกร่งให้กับการก่อสร้างทางทหารแบบกำหนดเป้าหมายเพื่อชดเชยและตอบโต้แรงกดดันนี่
ที่ดำเนินการโดยพันธมิตรสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น
ในสถานการณ์วิกฤติ โอกินาวาอาจกลายเป็นพรมแดนแห่งความขัดแย้งทางทหาร
ดังนั้น ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนในท้องถิ่นก็ยากที่จะรับประกันเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว แผนการย้ายฐานที่จัดทำโดยญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกานั้นแท้จริงแล้วเป็นฐานทัพใหม่ โดยเน้นที่วัตถุประสงค์ทางทหารเชิงรุกมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่ออำนวยความสะดวกในการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐอเมริกา และพันธมิตรสหรัฐ-ญี่ปุ่นในหมู่เกาะเตี้ยวหยู่ ไต้หวัน ภูมิภาคและทะเลจีนใต้
และปัญหา คิอ ความปลอดภัย และการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
คนในท้องถิ่นในโอกินาวาจึงเรียกร้องให้ลดขนาดของกองทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในโอกินาวา หรือแม้แต่ย้ายฐานทัพสหรัฐฯ ทั้งหมด
ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาวา ก็ยังประกาศในเดือนพฤศจิกายน 2564 ว่าการก่อสร้างฐานใหม่จะไม่ได้รับการอนุมัติ
เนื่องจากมีมาตรการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติไม่เพียงพอ และโครงการนี้จึงถูกระงับ
แต่ทางรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นก็ยืนกรานกระต่ายขาเดียวมาโดยตลอดว่าการย้ายฐานทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่นในจังหวัดโอกินาวาเป็นทางออกเดียวที่เป็นไปได้
ดังนั้นแล้ว ภูมิภาคโอกินาวาก็ได้แต่ เรียกร้องให้ลดจำนวนกองทหารสหรัฐที่ประจำการอยู่ ปิดฐานทัพฟูเทนมะ
และยุติการก่อสร้างฐานทัพอื่นๆในเฮโนโกะ
จะเห็นได้ว่า ความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง
เมื่อพิจารณาจากคำตัดสินของศาลฎีกาของญี่ปุ่นในปัจจุบัน ทามากิ ดานิ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ใช้วิธีการทางกฎหมายในการต่อสู้กับรัฐบาลกลาง
แต่กลับไม่ได้รับผลการพิจารณาคดีที่ "ยุติธรรม" และ "เป็นกลาง" ตามที่เขาคาดหวัง ฮาาาาา
คำตัดสินของศาลฎีกาญี่ปุ่นเผยว่ารัฐบาลจังหวัดโอกินาว่าแพ้การแข่งขันรอบนี้กับรัฐบาลกลาง ซะงั้น...
สำหรับสหรัฐอเมริกา เมื่อฐานทัพในเมืองเฮโนโกะ โอกินาวาสร้างเสร็จ มันจะเป็นฐานทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญและฐานทัพก้าวหน้าซึ่งขาดไม่ได้สำหรับสหรัฐฯ
ในการส่งเสริม "ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก" เวอร์ชัน 2.0 และควบคุมและสร้างสมดุลต่อพี่จีนในอนาคต
และ สหรัฐฯ จะยังคงเสริมสร้างฐานทัพนี้ต่อไป แทนที่จะละทิ้งฐานทัพดังกล่าว
สำหรับรัฐบาลคิชิดะของญี่ปุ่น การตอบสนองความสนใจและความต้องการของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่ในประเด็นฐานทัพสหรัฐฯ ในโอกินาวา ถือเป็นการแสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมของ
"ความไว้วางใจในระดับสูงโคตรๆ" ระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และการเสริมสร้างการประสานงานเชิงกลยุทธ์
ซึ่งจะช่วยรวมกลุ่มพันธมิตรญี่ปุ่น-สหรัฐฯ เข้าด้วยกัน และบรรลุความร่วมมือด้านความปลอดภัยระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ
สิ่งนี้จะไม่เพียงแต่ให้การรับประกันความปลอดภัยที่เชื่อถือได้มากขึ้นแก่ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังให้โอกาสแก่ญี่ปุ่นในการขยายอิทธิพลของตนในด้านความมั่นคงในภูมิภาคอีกด้วย
ข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นว่าพันธมิตรสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นนั้นเป็นพันธมิตรที่ไม่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเจรจาต่อรองและความมั่นคง รัฐบาลญี่ปุ่นจะเกรงใจกับสหรัฐอเมริกาในระดับสูงไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงสามารถเพิกเฉยต่อความปรารถนาและเสียงของคนในท้องถิ่นในโอกินาว่าและแม้กระทั่งการเสียสละ ผลประโยชน์และความเป็นอยู่ที่ดีของท้องถิ่นโอกินาวาเพื่อแลกกับสิ่งที่เรียกว่า
"พันธมิตรสหรัฐ-ญี่ปุ่น"
การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีแต่จะยิ่งทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาครุนแรงขึ้นเท่านั้น และยังจะทำให้ขาดความไว้วางใจ
และส่งเสริมการแบ่งแยกระหว่างรัฐบาลกลางของญี่ปุ่นและรัฐบาลท้องถิ่นของโอกินาวารุนแรงขึ้นอีกด้วย
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
