แนวคิดพัฒนาสมุนไพรเป็นยารักษา นำไปสู่การพัฒนาและต่อยอดตำรับยาสมัยใหม่ เป็นงานที่ต้องใช้เวลาและต้นทุนสูง เนื่องด้วยพื้นฐานของยาสมุนไพรมีความซับซ้อน ทั้งการใช้และส่วนผสม สูตรยาประกอบด้วยพืชสมุนไพรตัวยาหลายชนิด ต่างจากยาฝรั่งที่ส่วนใหญ่เป็นการวิจัยเชิงลึกของสารสำคัญเดี่ยวๆ
ความยากของวงการสมุนไพร คือการสร้างความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องพิสูจน์และยืนยันตามการอ้างอิงผลงานวิจัยในหลายหัวข้อ เป็นปัจจัยหลักทำให้คัมภีร์ยาไทยที่ใช้สมุนไพรหลายชนิดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมถูกละเลยไป ทั้งที่องค์ความรู้เก่าแก่เหล่านี้ล้วนผ่านการใช้มาอย่างยาวนาน การสืบทอดตำรับยา ร่วม 300 ปี ตัวอย่าง เช่น ตำราการแพทย์แผนไทยของวัดโพธิ์ สูตรยาที่ปรากฎในตำราโอสถพระนารายณ์
แม้จะยากแต่ด้วยความพยายามผสมผสาน ทั้งศาสตร์ความรู้แบบตะวันตกและตะวันออก จึงยังมุ่งพัฒนาและวิจัยตำรับยาแผนโบราณให้มีงานวิจัย และมาตรฐานการผลิตที่ดีในระดับสากล เพื่อตอบโจทย์ผู้คนยุคปัจจุบัน บ้านหมอชอนมุ่งมั่นในการสืบสานและต่อยอดการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรม และรองรับการตลาดสมัยใหม่ อาทิ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสังคมผู้สูงอายุ จากตัวอย่างของ บริษัท อินโนเวทีฟ ฟาร์ม่า เฮิร์บส์ จำกัด ธุรกิจครอบครัว (Family Business) ผู้สานต่อตำนาน ‘หมอชอน’ หมอเทวดา-พ่อพระเมืองเพชร
เภสัชกรหญิงนวรรณ พวงมาลัย หรือ คุณต่าย เภสัชกรรุ่น 5 ผู้สืบทอดองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย และตำรับยาสมุนไพร เล่าว่า ครอบครัวเป็นหมอแผนไทยมาทุกรุ่น โดยรุ่น 3 คือ หมอชอน (ปู่) เป็นรุ่นที่มีคนไข้มารักษาจำนวนมาก ทำให้คลินิกหมอชอนมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในจังหวัดเพชรบุรี
ต่อมา คุณหมอฉัตร์วนิชย์ พวงมาลัย ทายาทรุ่น 4 ที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ได้ขยายสู่ธุรกิจให้บริการรักษา รวมถึงต่อยอดเป็นโรงงานแปรรูปสมุนไพร เน้นรับจ้างผลิต OEM สินค้ากลุ่มสมุนไพรแบบครบวงจร ภายใต้ บริษัท กรีนฉัตร เนเจอรัล เฮิร์บส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยการนำความเชี่ยวชาญด้านตำรับยาและสมุนไพรให้บริการผลิตตามแบรนด์ลูกค้าทั้งในรูปแบบ ยา อาหาร อาหารเสริม และเครื่องสำอาง
โดยได้นำตำรับยาไทยที่เป็นองค์ความรู้ของตระกูลขึ้นทะเบียนตํารับยาแผนโบราณ กับทางสำนักงานอาหารและยา (อย.), การรองรับมาตรฐาน GHP, HACCP, HALAL เพื่อให้ถูกต้องตามมาตรฐานการรับรองด้านการแพทย์และสาธารณสุขในระดับสากล เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้า OEM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌รับไม้ต่อ ปั้นสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง
เภสัชกรหญิงนวรรณ เล่าว่า ช่วงที่ผ่านมามีการพัฒนาโรงงานผลิตยา และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ที่มีรากฐานของธุรกิจครอบครัวไว้อย่างมั่นคงในระดับหนึ่ง ในฐานะทายาทธุรกิจ เธอจึงมุ่งพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง
จากพื้นฐานความรู้ และประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานในบริษัทพัฒนาวิจัยยาแผนปัจจุบัน จึงเข้าใจแผนผังการคิดค้นสูตรตำรับยา ผสานกับปริญญาโทด้านเทคโนโลยีการนำส่งยา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและด้านบริหารธุรกิจ (การตลาด) จากวิทยาลัยการจัดการมหิดล จึงนำความรู้ที่มีเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวตั้งแต่ ปี 2555 เป็นต้นมา
1
“ฐานหลักของธุรกิจครอบครัวเน้น OEM เป็นหลัก โดยให้ความสำคัญในการรักษาความลับของลูกค้า ไม่ผลิตสินค้าแทรกแซงแข่งขันในตลาดเดียวกับลูกค้า ดังนั้น จึงมีแนวคิดพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ของเราเองเพื่อตอบโจทย์ด้านการพัฒนาธุรกิจครอบครัว รวมทั้งสร้างแบรนด์ในอีกด้านหนึ่ง เพื่อทำการตลาดเอง โดยสินค้าที่ผลิตเน้นลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เป็นหลัก เช่น ตลาดสินค้าออร์แกนิก นักท่องเที่ยว แม่และเด็ก ผู้สูงอายุ ภายใต้แบรนด์ต่างๆ เช่น หมอชอน, มอสกีโตส, เนเจอบลูม ฯลฯ
📌เพิ่มช่องทางจำหน่ายในร้านขายยาและโมเดิร์นเทรด
สำหรับวงจรของการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด มีขั้นตอนมากมาย ตั้งแต่การวิจัย พัฒนา สร้างการรับรู้แก่ลูกค้า ขยายช่องทางจำหน่าย และเพิ่มสินค้าให้หลากหลายตอบโจทย์ลูกค้า โดยเฉพาะการพัฒนาตลาดเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ระหว่างทำวิจัยเพื่อพัฒนาสินค้า ต้องทำแบรนด์ควบคู่ไปด้วยเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการจดจำ
รวมทั้งปีที่ผ่านมามีการเจรจากับ Distributor ตัวแทนจำหน่ายยารายใหญ่ ภายใต้โมเดลธุรกิจการวิจัยและพัฒนาสินค้าร่วมกัน โดยให้ Distributor ไปวางกระจายในโรงพยาบาล และร้านขายยา ตามเป้าหมายทางการตลาดที่วางไว้นำสินค้ากลุ่มสมุนไพร ทั้งยาและอาหารเสริมเพื่อกระจายตามช่องทางต่าง ๆ ทั้งสินค้าที่พัฒนาร่วมกัน ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างรอจดทะเบียนใหม่ และกระบวนการออกสินค้าใหม่
เภสัชกรหญิงนวรรณ มองว่า กระแสความนิยมสินค้าที่ผลิตจากสมุนไพรยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ และอยากพัฒนาสินค้าสมุนไพรที่ใช้สำหรับชีวิตประจำวัน โดยนำตำรายาสูตรโบราณที่ตกทอดมาปรับปรุงและพัฒนา จุดเด่นของธุรกิจ คือ เรามีทะเบียนยาแผนโบราณที่ขึ้นทะเบียนยาไว้แล้วหลายตำรับ ส่วนแรกจะเน้นที่ยาสามัญประจำบ้านทั่วไป เช่น กลุ่มยาแก้ปวดเมื่อย ยาหม่อง ยาดม ยาหอม ยาอม ที่พัฒนาจากสมุนไพร
รวมถึง ‘สเปรย์น้ำมันไพลดำ’ สินค้าที่มีสรรพคุณแก้ปวดเมื่อย พัฒนาจากตำรับยาสมุนไพรของครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเข้าไปส่งเสริมการปลูกไพลดำ แบบอินทรีย์ เพื่อเป็นแหล่งวัตถุดิบคุณภาพ โดยตั้งเป้าหมายเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด แม้จะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่ความร่วมมือกับ Distributor จะช่วยให้สินค้าถูกนำไปวางไว้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น
📌‘Natur Bloom’ เนเจอบลูม นวัตกรรมอาหารผู้สูงวัย และคนไข้พักฟื้น
นอกจากกลุ่มยาแก้ปวดเมื่อยแล้ว ยังมีการทำวิจัยอาหารสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพ แต่ปัจจุบันมีตัวเลือกน้อย จึงมีแนวคิดพัฒนา ‘นวัตกรรมอาหารแบบไทย’ ที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ โดยนำข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยมาวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อยอดเป็นอาหารเสริมทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุ หรือกลุ่มอาหารทางการแพทย์สำหรับผู้พักฟื้นที่ยังกินอาหารปกติไม่ได้ และรองรับกลุ่มผู้มีปัญหาโรคไม่ติดต่อแต่เรื้อรัง (NCDs)
‘Natur Bloom’ คือ ซุปข้าวและซีเรียลที่มีส่วนผสมของธัญพืชนานาชนิด แต่มีรสชาติแบบไทย มีดัชนีน้ําตาลต่ำ สามารถคอนโทรลบาลานซ์น้ำตาลในเลือดได้ดี เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ทั้งยังเป็นสินค้าที่ชนะเลิศรางวัลนวัตกรรม RICE PLUS AWARD 2018 และได้รับรางวัลที่ 1 ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
จากการพัฒนาแนวคิดอาหารเป็นยาสู่ผลิตภัณฑ์อาหารทางเลือกเพื่อผู้สูงวัยและคนไข้พักฟื้น ขณะนี้กำลังพัฒนาต่อยอดในนาม บริษัท อินโนเวทีฟ ฟาร์ม่า เฮิร์บส์ จำกัด ที่จัดตั้งเพื่อรองรับธุรกิจนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งกลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ น้ำข้าว งาดำ มะพร้าว
เภสัชกรหญิงนวรรณ บอกว่า งานวิจัยหลัก ๆ เน้นพัฒนาตำรับยา กลุ่มยาสามัญ และกลุ่มอาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ อาหารทางการแพทย์ รวมทั้งโปรเจคต์ที่ผสานความร่วมมือกันกับกลุ่มผู้ประกอบการ Health & Wellness ในโรงแรม ที่มีการพัฒนา สปา หรือร้านนวดแผนไทย ให้เป็นเวลเนส สหคลินิก
เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) อาทิ คอร์สฟื้นฟูสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาการหลังติดเชื้อโควิด 19 และหลังได้รับวัคซีน ซึ่งมีอาการเหมือนติดโควิดเรื้อรัง โดยจะมีคอร์สบำบัด ร่วมกับการใช้สมุนไพรกลุ่มยาแก้ไข้ตักศิลา ที่มีสรรพคุณในการล้างพิษในเลือดได้ดี ร่วมกับการรับประทานอาหารตามธาตุ การบำบัดแบบองค์รวมจากแพทย์แผนไทย เพื่อปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันในนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ด้วย
📌Medical Wellness Clinic บริการบำบัดและรักษาด้วยสมุนไพร
การพัฒนาวิจัยเพื่อยกระดับตำรับยาไทย เพื่อพัฒนาในโปรเจคต์ต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาสมุนไพร และตำรับยาแผนไทยเพื่อรองรับบริการตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในจังหวัดเพชรบุรี ในลักษณะคู่ค้า กับโรงแรม รีสอร์ทและสถานบริการด้านท่องเที่ยว ถือเป็นจุดเริ่มต้นการทำ Wellness Clinic ภายใต้แบรนด์ หมอชอน ที่เพิ่มเติมเรื่องบริการบำบัดและรักษา เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
รวมถึงบริการท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงวัย ในรูปแบบ ‘ทริปสุขภาพ’ เน้นการบำบัดและรักษาด้วยตำรายาสมุนไพรไว้ในบริการ ทั้งยังสามารถนำสินค้าของเราไปจำหน่าย ทั้งแบรนด์ ‘หมอชอน’ และ ‘Natur Bloom’ ได้ด้วย
“การบำบัดรักษาที่หลากหลาย และฟังก์ชันการทำงานของร่างกายที่ต้องการเยียวยา ทำให้เกิดเป็นลูกเล่นในรูปแบบบริการสุขภาพและการฟื้นฟูร่างกายต่าง ๆ มากมาย เพื่อสร้างความน่าสนใจให้ลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้สูงวัย”
เภสัชกรหญิงนวรรณ กล่าวว่า สำหรับทิศทางของธุรกิจครอบครัว ในส่วนโรงงาน มีการจัดการเรื่องแหล่งวัตถุดิบและการบริหารจัดการให้มีคุณภาพ ทั้งรูปแบบการทำงานร่วมกับกลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีไทย(Earthsafe) และกลุ่มเกษตรพื้นที่ สปก.ที่เป็นแหล่งวัตถุดิบคุณภาพจากธรรมชาติ เป็นสิ่งที่สะท้อนว่าธุรกิจเรา วางรากฐานเรื่องการจัดการวัตถุดิบสมุนไพรด้วยการมีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน และส่งเสริมศักยภาพเกษตรกรให้มีผลผลิตสมุนไพรเกรดการแพทย์ได้อย่างมีคุณภาพ
สำหรับการพัฒนาธุรกิจครอบครับที่ประกอบด้วย คลินิกที่ให้บริการทางการแพทย์ โรงงานแปรรูปสมุนไพรที่เน้น OEM งานวิจัยและพัฒนาแบรนด์ใหม่ของ บริษัท อินโนเวทีฟ ฟาร์ม่า เฮิร์บส์ จำกัด และธุรกิจตลาดยา คือ บริษัท เมดิเวย์ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ที่เน้นขายสินค้าเวชภัณฑ์ อาหารเสริม เครื่องสำอาง ยาสมุนไพรผ่านช่องทางออนไลน์ และสร้างโอกาสต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ‘Telepharmacy’ ให้เป็นธุรกิจสมุนไพรที่ก้าวล้ำไปในทุกกาลเวลา
โดยจะเน้นพัฒนาและสร้างการรับรู้ในแบรนด์ หมอชอน และคลินิกหมอชอน เพื่อให้ผู้คนได้รู้จัก ผ่านการทำตลาด และความร่วมมือกับคู่ค้าในรูปแบบต่าง ๆ ไปจนถึงการให้ข้อมูลแบรนด์ Nature Bloom เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเป็นโอกาสของธุรกิจในอนาคต
📌ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่:
line@: @baanmorchon
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
    โฆษณา