16 ก.ย. 2023 เวลา 12:27 • ประวัติศาสตร์

‘พริกไทยไถ่กรุงโรม’ เมื่อพริกไทยมีค่าจนใคร ๆ ก็อยากได้!

หากพูดถึงของมีค่าในประวัติศาสตร์นอกจากแร่เงินทอง ก็ต้องพูดถึง ‘เครื่องเทศ’ เพราะความขัดแย้งของมนุษย์จนแบ่งฝักฝ่ายก็มาจากการแย่งเครื่องเทศกันนี่แล
ย้อนไปในศตวรรษที่ 17 ยุคล่าอาณานิคมระหว่างโปรตุเกสและดัตซ์ก็ต่างขวนขวายจนถึงขั้นรบราฆ่าฟันเพื่อแย่งชิงเครื่องเทศจากโลกตะวันออก
และหากย้อนประวัติศาสตร์ไปไกลอีกสักหน่อยในศตวรรษที่ 5 เมื่อ ‘พริกไทย’ ช่วยกรุงโรมให้รอดพ้นจากศัตรูได้! ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกว่า พริกไทยมีค่าไม่ต่างจากทองคำหรือแร่เงินจนเปรียบดังกับ ‘ทองคำสีดำ’ เลยทีเดียว
1
ย้อนกลับไปปี ค.ศ. 408 เมื่อชนเผ่าเยอรมานิกชื่อ Visigoths นำโดยพระเจ้าอลาริกที่ 1 ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกรุงโรมอยู่เป็นเนือง ๆ ได้เดินทางปิดล้อมกรุงโรม ซึ่งการปิดล้อมครั้งนี้ถือเป็นฝันร้ายของชาวโรมันอย่างที่สุด ถือเป็นการเข้าปิดล้อมกรุงโรมหลังจากอยู่อย่างสงบสุขมา 700 ปี
ขณะนั้น ถนนกรุงโรมเต็มไปด้วยความระส่ำระส่าย กองทัพป่าเถื่อนของอลาริกที่ 1 ได้เข้าครอบครองแม่น้ำไทเบอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสำคัญของชาวโรม
วุฒิสภาโรมันไม่ได้นิ่งเฉยและส่งทูตเจรจากับอลาริก ซึ่งในบทสนทนาก็มีความน่าสนใจไม่น้อย
ช่วงแรก คณะทูตโรมันได้ตอบโต้อย่างแข็งขันว่าชาวโรมันทำการฝึกฝนมาอย่างดีและพร้อมสู้ในสมรภูมิครั้งนี้
อลาริกที่ 1 จึงตอบกลับว่า “หญ้าที่กระจุกตัวเยอะ ๆ ย่อมตัดง่ายกว่าหญ้าที่ขึ้นน้อยหรอมแหรม” แปลให้ง่ายกว่านั้นคือ ดีเสียอีกที่กองทัพโรมันมากันทีละเยอะๆ ก็ดีเพราะจัดการได้ง่ายกว่าการไล่ฆ่าทีละคนเหมือนกับกอหญ้าหนาๆที่ง่ายต่อการตัดนั่นเอง พร้อมเรียกร้องทองคำ เงิน และยอมปล่อยทาสที่ยึดมาจึงจะถอนกองทัพออกจากกรุงโรม
ในที่สุดข้อตกลงก็บรรลุ ในครั้งนั้นกรุงโรมถูกไถ่ด้วยทองคำ 5,000 ปอนด์ เงิน 30,000 ปอนด์ เสื้อไหม 4,000 ตัว และพริกไทย 3,000 ปอนด์!!
จากการแลกเปลี่ยนครั้งนั้น ทำให้พริกไทยถูกให้ความสำคัญไปทั่วดินแดนจนถึงขั้นได้รับสมญานามว่า ‘ทองคำสีดำ’
1
เมื่อยุโรปเข้าสู่ยุคกลาง พริกไทยก็ยังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ พริกไทยดำถุงเล็กๆ สามารถแลกเป็นแกะได้
3
และในศตวรรษที่ 16-17 พริกไทยถูกขายให้กับชาวตะวันตกซึ่งมีมูลค่ามากถึง 600 เท่าเมื่อเทียบกับราคาในอินเดียซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดพริกไทยนั่นเอง
1
เมื่อมองย้อนประวัติศาสตร์ คำกล่าวที่ว่า ‘พริกไทยเป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์’ ไม่เกินจริงเท่าใดนัก จากการค้นพบตำราอาหารสมัยโรมันพบว่าชาวโรมันใช้พริกไทยเป็นส่วนผสมในอาหารถึง 468 สูตร!! คิดเป็น 75% ของสูตรอาหารที่มีทั้งหมดเลยทีเดียว
1
โดยส่วนใหญ่ก็จะถูกนำมาใช้ผสมเป็นซอสหมูย่าง กระต่ายป่า ผักบด และใส่ลงในไวน์อีกด้วย แตกต่างจากชาวกรีกที่ไม่ได้นิยมใส่พริกไทยในทุกโอกาส หากแต่ค้นพบว่าใส่พริกไทยเฉพาะประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น
1
ผู้เขียน: ขัตติยาภรณ์ ด้วงแก้ว Political Analyst, Bnomics
Sources :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา