19 ก.ย. 2023 เวลา 09:56 • ประวัติศาสตร์

"เด็กชายปูยี The Last Emperor"

เด็กชายปูยีเกิดมาในฐานะเจ้าชายแห่งราชวงศ์ชิง ฟังแล้วดูเหมือนว่าเขาควรจะมีชีวิตที่สุขสบาย แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปหลายร้อยปีก่อนในปี 1633 สมัยที่ชาวแมนจูบุกมายึดครองแผ่นดินจีนและสถาปนาประเทศต้าชิง ในช่วงต้นของการปกครองของต้าชิง ชาวฮั่นที่เป็นคนจีนส่วนใหญ่ไม่ค่อยยอมรับผู้ปกครองต่างชาติ ชาวแมนจูจึงใช้มาตรการณ์ขั้นเด็ดขาดในการปราบปรามชาวฮั่น หนึ่งในนั้นคือการไว้ผมเปียแบบแมนจูภายใต้นโยบาย "ไม่มีเปีย ไม่มีหัว" ชาวฮั่นจำนวนมากต้องสังเวยชีวิตให้กับนโยบายนี้
ต่อมาชาวแมนจูมีฮ่องเต้ระดับอัจฉริยะที่สามารถปราบปรามกลุ่มผู้ก่อความวุ่นวายที่ยังหลงเหลือมาตั้งแต่ต้นราชวงศ์และทำให้ต้าชิงเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ในยุคทองของราชวงศ์ชิงนี้เรียกว่ายุค คัง-หย่ง-เฉียน ตั้งชื่อตามรัชกาลของฮ่องเต้ 3 พระองค์คือ คังซี หย่งเจิ้น และ เฉียนหลง ตลอดระยะเวลาร้อยกว่าปีภายใต้ 3 รัชกาลนี้ชาวจีนต่างอยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองประชาชนอิ่มท้องกันถ้วนหน้า
สัจธรรมของโลกคือการเปลี่ยนแปลงอะไรที่เคยรุ่งเรืองก็เสื่อมถอยได้ราชวงศ์ชิงก็เช่นกัน การครองอำนาจอย่างยาวนานถึง 60 ปีก็ทำให้คนเก่งอย่างเฉียนหลงมาเสียคนตอนแก่เพราะมีการคอรัปชั่นแบบใหญ่โตมโหฬารโดยคนใกล้ชิดของเฉียนหลงเอง แถมในดินแดนตะวันตกชาวยุโรปเริ่มเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมจนทำให้การค้าและการทหารเจริญก้าวหน้าไปไกลในขณะที่คนจีนยังยึดติดกับความเชื่อว่าแผ่นดินจีนคือศูนย์กลางของโลก (จงกั๋ว=แผ่นดินกลาง) ส่วนชนชาติอื่นๆ เป็นแค่คนป่าไร้การศึกษา
ต้าชิงมาถูกสั่งสอนครั้งใหญ่ในสงครามฝิ่นระหว่างจีนกับอังกฤษ ผลก็คือต้าชิงแพ้อย่างหมดรูปต่อคนป่าหัวทองไร้การศึกษา นับตั้งแต่นั้นมากราฟของต้าชิงก็เริ่มถอยหลังลงคลอง เพราะฝรั่งชาติอื่นๆ ก็เข้ามารุมหาผลประโยชน์จากแผ่นดินจีนแบบที่ผู้ปกครองไร้ทางสู้ ในช่วงที่คนท้องอิ่มใครจะมาปกครองก็ได้แต่ตอนนี้ชาวจีนกำลังจะเจอกับวิกฤตทางการเมืองและปากท้องครั้งใหญ่
1
แม้จะมีความพยายามจะปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยแต่ด้วยการเมืองภายในราชสำนักของซูสีไทเฮาก็ทำให้ต้าชิงยังไปได้ไม่ไกลเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น และก็เป็นญี่ปุ่นนี่เองที่มาทำให้ชะตาของราชวงศ์ชิงถึงจุดวิกฤตหลังจากกองทัพเรือญี่ปุ่นปราบกองทัพเรือจีนอย่างราบคาบ ชาวญี่ปุ่นที่คนจีนเรียกชื่อเล่นว่า "โจรแคระ" มาหลายร้อยปี มาจนถึงวันนี้ก้าวหน้าไปไกลขนาดที่บังคับศูนย์กลางของโลกให้เซ็นสัญญายอมแพ้อย่างไร้สง่าราศีของมหาอำนาจ
ราชสำนักชิงถูกฟันธงว่าเป็นต้นเหตุแห่งความตกต่ำของประเทศจีนการจะพัฒนาประเทศได้ต้องเริ่มที่การขับไล่ชาวแมนจูออกไป ในตอนนี้กระแสการปฏิวัติภายใต้การนำของซุนยัดเซนได้เริ่มแพร่หลายไปในหมู่ชาวจีนแล้ว
ถ้าสถานการณ์ภายนอกว่าหายนะแล้วในราชสำนักเองก็หนักหนากว่านั้นมาก ซูสีไทเฮายึดอำนาจฮ่องเต้กวางสีและจัดการประหารขุนนางหัวก้าวหน้า ต่อมามีข่าวซุบซิบว่านางแอบวางยาฮ่องเต้จนสวรรคต และในช่วงใกล้สิ้นใจของไทเฮาเอง เด็กชายปูยีวัย 3 ขวบก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮ่องเต่แห่งต้าชิงท่ามกลางไฟของการปฏิวัติที่ระอุขึ้นทั่วแผ่นดิน
เด็กชายปูยีเติบโตมาในฐานะโอรสสวรรค์และก็ยึดติดอยู่กับหัวโขนนี้ไปเกือบชั่วชีวิต แม้จะมีอำนาจจากสรรค์แต่เขากลับอาศัยอยู่ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และก็กลายเป็นจักรพรรดิคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ 4000 ปีเมื่อถูกบังคับให้สละบัลลังค์ในปี 1912 เพื่อเปลี่ยนประเทศจีนเป็นสาธารณรัฐท่ามกลางเสียงเรียกร้องของประชาชน เด็กชายปูยีวัยหกขวบคงจะไม่รู้การเปลี่ยนของโลกเพราะทุกคนในวังต้องห้ามยังปฏิบัติต่อเขาราวกับเทพเจ้าเช่นเดิม
หัวโขนในตำแหน่งฮ่องเต่ยังติดตัวปูยีและเขาก็กลายเป็นสัญลักษณ์ที่กลุ่มการเมืองเชิญตัวมาเป็นไอคอนอยู่หลายครั้ง ก่อนจะกลายเป็นหุ่นเชิดของญี่ปุ่นที่ต้องการยึดครองดินแดนแมนจูเรียบ้านเกิดของราชวงศ์ชิง ปูยีแต่งตั้งตนเองเป็นฮ่องเต้แห่งแมนจูเรียภายใต้การสนับสนุนของญี่ปุ่นด้วยความหวังที่จะฟื้นฟูความศักดิ์สิทธิ์ของต้าชิงให้กลับมาอีกครั้งแต่ความเป็นจริงญี่ปุ่นต้องการทรัพยากรของแมนจูเรียเท่านั้น
แม้จะกลับมาเป็นฮ่องเต้อีกครั้งแต่สวรรค์ของปูยีก็ไม่สามารถช่วยหยุดยั้งให้โลกต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ยิ่งใหญ่อย่างสงครามโลกครั้งที่สองได้ และก็เป็นสงครามครั้งนี้เองที่เปลี่ยนชีวิตของปูยีจากจักรพรรดิไปเป็นนักโทษในฐานะอาชญากรสงครามร่วมกับญี่ปุ่น
ในพื้นที่ที่มีอิสรภาพน้อยที่สุดอย่างเรือนจำกลับทำให้เขามีอิสรภาพอย่างแท้จริงเมื่อปลดพันธนาการของตำแหน่งฮ่องเต้ที่แบกมาทั้งชีวิต ปูยีค่อยๆ ยอมรับความเป็นจริงของโลกที่เปลี่ยนแปลงและใช้ชีวิตร่วมกับคนทั่วไปโดยสละหัวโขนของฮ่องเต้อย่างวมบูรณ์และนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขอย่างแท้จริง
ภาพหลังจากได้รับการปลดปล่อยปูยีก็กลายเป็นชาวบ้านคนหนึ่งในแผ่นดินจีนและใช้ชีวิตอยู่ในโลกตามสภาพความเป็นจริง ปราศจากหัวโขนหรือหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ของสวรรค์ก่อนจะจากไปอย่างสงบโดยทิ้งหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองเอาไว้เป็นมรดกแก่ช่วยโลกในชื่อหนังสือว่า "จากจักรพรรดิสู่สามัญชน"
1
The Last Emperor เป็นภาพยนตร์ที่สร้างโดยอ้างอิงจากหนังสือเล่มนี้ก่อนจะโด่งดังไปทั่วโลกจนได้รับรางวัลออสการ์ในปี 1987
โฆษณา