24 ก.ย. 2023 เวลา 09:53 • ดนตรี เพลง
Union Hall Thailand

SLUR REUNION CONCERT

สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากห่างหายไปนานจากการรีวิวคอนเสิร์ต ล่าสุดพวกเรา The Transmitter ได้มีโอกาสเข้าไปมันส์ในคอนเสิร์ต SLUR REUNION Concert ณ​ Union Hall @ Union Mall กันมาครับ จะเป็นอย่างไรนั้นเราไปลุยกันเลยครับ!
ก่อนอื่นคอนเสิร์ตครั้งนี้นับว่าเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวง Slur วงอินดี้รุ่นเก๋าสุดเท่ จากค่าย Smallroom โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้ความพิเศษอยู่ตรงที่ทางวงเลือกหยิบเพลงจากทุกอัลบั้มมาเล่นรวมกันถึง 41 เพลง เรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ท้าทายทั้งพี่ ๆ วง Slur รวมถึงคนดูอย่างเรา ๆ ด้วย (ฮ่าๆ) ด้วยความที่เพลงรวม ๆ ของ Slur จังหวะค่อนข้างเร็ว และ โดดได้เกือบทุกเพลง ทำให้การจัดเรียง Setlist ในครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และแอบทำให้ผู้เขียนแอบกังวลก่อนที่จะได้ไปดูอยู่เหมือนกันว่าจะมันส์กับวงไหวหรือเปล่า
โดยเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 4 ของ Union Hall แล้ว ก่อนเข้าไปที่งานเราจะต้องลงทะเบียนเพื่อรับ Wristband และบัตรแข็งกันก่อน เอาจริง ๆ ความประทับใจแรกคือบัตรแข็ง เพราะหลาย ๆ คอนเสิร์ตช่วงหลัง ๆ ที่ผ่านมาเนื่องจากการซื้อบัตรจะเปลี่ยนเป็นแอพพลิเคชั่นกันซะเยอะทำให้สายสะสมความทรงจำอย่างผู้เขียนไม่ค่อยได้มีอะไรติดไม้ติดมือกลับมาเก็บสะสมไว้ แต่งานนี้เราได้บัตรแข็งลายเดียวกันกับโปสเตอร์ของงานมาด้วยซึ่งเป็นอะไรที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ
หลังจากได้รับ Wristband เราก็จะสามารถเข้ามาในบริเวณหน้า Hall โดยในโซนนี้จะมีบูธของทาง Smallroom ซึ่งจะมีซีดีอัลบั้มของทางวงรวมถึงโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นให้แฟน ๆ ได้เลือกซื้อ รวมถึงข้าง ๆ จะมีบูธของทาง Salmon Book ที่จะมีหนังสือ SLUR: BOOK ให้แฟน ๆ ได้ซื้อเก็บสะสมกันอีกด้วย
ถัดมาอีกหน่อยเราจะเจอกับ Backdrop ไซส์ใหญ่ที่ทางงานเตรียมไว้ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ แฟนคลับของทางวงมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ภายในงานจะมีบูธเครื่องดื่มกระจายอยู่ประมาณ 3 - 4 จุดทั้งในและนอก Hall โดยจะมีการจำหน่ายแอลกอฮอลล์และน้ำดื่มทั่วไป สิ่งนึงที่เราแอบไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่คือเรื่องของการรอคิวที่ค่อนข้างนานพอสมควร ทำให้บางช่วงหากเราอยากจะซื้อเครื่องดื่มระหว่างโชว์อาจจะต้องยืนรอคิวค่อนข้างนานและทำให้พลาดบางโมเมนท์พิเศษไปนั่นเอง
ต้องขอเกริ่นของว่าจริง ๆ แล้ววง Slur เป็นวงที่มีอิทธิพลต่อผู้เขียนมากพอสมควรทำให้ความตื่นเต้นและความคาดหวังมีอยู่เยอะจนล้น ก่อนเริ่มโชว์ทางผู้เขียนโชคดีได้เข้ามารอตั้งแต่ประตูเปิดได้ไม่นาน บรรยากาศด้านในเย็นสบาย โอ่อ่า กว้างขวาง ไม่อึดอัด
สิ่งแรกที่ประทับใจสุด ๆ คือความตรงเวลาของโชว์ พอใกล้ถึงช่วงเวลา 19:00 มีการเริ่มฉายวีดีโอเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยรวมถึงช่องทาง Emergency Exit ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เมื่อวีดีโอจบลงโชว์ที่ทุก ๆ คนรอก็เริ่มขึ้น
หลังจากเปิดม่านมานั้นเราได้พบกับวง Slur พร้อมด้วยพี่ ๆ จากวง Summer Stop ที่มาช่วยเสริมทัพให้ซาวนด์ยิ่งแน่นขึ้นไปอีก ในพาร์ทแรกทางวงออกมาพร้อมธีมชุดขาวล้วน และ เริ่มโชว์ด้วยเพลง “คำเหล่านั้นที่ทำให้ฉันสุขใจ”
ในพาร์ทแรกผู้เขียนชอบตรงที่เราสัมผัสได้ถึงความเป๊ะของคิวทุกอย่าง ได้ตั้งแต่เริ่มโชว์ ทุกอย่างลงตัว, สนุก และ ลื่นไหลตั้งแต่เริ่มโดยไม่มีตะกุกตะกัก ที่สำคัญสิ่งที่เราแอบประทับใจมาก ๆ อีกเรื่องคือความไวของการต่อเพลงแต่ละเพลงรวมถึงการเปลี่ยนกีต้าร์ของพี่เฮาส์ในแต่ละเพลงที่ทำได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทำให้โชว์สะดุด
เอาจริง ๆ ผู้เขียนต้องขอสารภาพอย่างตรงไปตรงมาอย่างนึงว่า ตอนแรกด้วยคอนเสปต์ของการ Reunion ทำให้ผู้เขียนเข้าใจ และ แอบคาดหวังว่าจะได้เห็นพี่ ๆ Slur ในทุกเจนกลับมารวมอีกครั้งในตลอดทั้งโชว์ ทำให้ในพาร์ทแรกเราก็แอบเสียใจนิด ๆ (ฮ่าๆ) แต่หลังจากพาร์ทแรกจบลง มีการขึ้นจอ Intermission และพักโชว์เป็นเวลา 15 นาที
หลังจาก Intermission 15 นาทีจบลง ตัวเลขถูกหยุดที่ปี 2006 ม่านก็ถูกเปิดออก และใช่ครับ พี่เป้ และ พี่แบงค์ ก็กลับขึ้นมายืนบนเวที เป็นการรวมตัว Slur ครบทุกเจนอีกครั้ง ต้องบอกว่าภาพนี้เป็นภาพที่แฟน ๆ Slur ทุกคนรอคอยอย่างแน่นอน โดยในพาร์ทนี้ทางวงได้กลับมาพร้อมลุคโคตรเท่ในชุดเสื้อหนังและกางเกงขาเดฟ พร้อมเปิดฉากความมันส์ด้วยเพลง “เธอรู้”
ตลอดทั้งพาร์ทสอง มันเป็นช่วงเวลาที่ตราตรึงใจมาก ๆ เสียงกรี๊ดของแฟน ๆ ลั่นฮอลล์ทันทีตั้งแต่พาร์ทสองได้เริ่มต้นขึ้น ทุกคนพร้อมใจกันโดดและตะโกนเนื้อร้องเพลง Slur กันอย่างพร้อมเพรียง โดยในพาร์ทนี้ทางวงก็ได้หยิบยกเพลง “ร้าย”, “อุตุนิยม”, “เดิน” รวมถึงเพลงเก่า ๆ ที่เราคิดถึงออกมาเล่นกันแบบไม่ยั้ง รัวกันไปยาว ๆ แบบไม่กลัวเหนื่อย นอกจากนี้ทางวงมีการเว้นช่วงเวลาสั้น ๆ ให้ทางพี่เป้ และ พี่แบงค์ Slur ได้พูดคุยให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงอีกด้วย
หลังจากมันส์กันแบบดุเดือด ใส่สุดกันแบบไม่ยั่ง ทางวงก็ได้มีการเปลี่ยน Costume อีกหนึ่งเซ็ตโดยก่อนเริ่มจะมี VTR บทสัมภาษณ์ของทางวงสั้น ๆ ให้แฟน ๆ ได้หยุดพักเหนื่อยจากสองพาร์ทแรกและยืนดูระหว่างรอทางวง
เมื่อ VTR จบลงทางวงก็กลับมาขึ้นมาเปิดฉากความมันส์กันต่อ โดยในพาร์ทนี้จะกลับมาเป็น Lineup ปัจจุบัน พร้อมพี่ ๆ Summer Stop กลับมาเสริมทัพอีกครั้ง โดยในพาร์ทสามและสี่มีการหยิบยกเพลงจังหวะสนุก ๆ อย่าง “เซโรงัง”, “ไม่ใช่มนุษย์” และ “ว่าแล้ว” มาเล่นให้แฟน ๆ ได้เต้นและสนุกไปพร้อม ๆ กันรวมถึงยังมีเพลงช้าให้เราได้ร้องตามอย่างเพลง “ขอบคุณ” อีกด้วย เรียกได้ว่าตั้งแต่เริ่มโชว์มาจนถึงตอนนี้ร่างกายขยับไปกับจังหวะเพลงของ Slur ไปแบบไม่ได้หยุดพักกันเลยทีเดียว
โชว์ครั้งนี้ต้องบอกว่าทางวงและทีม Production ใส่ใจในทุกรายละเอียดมาก ๆ ทั้ง Visual ที่มีการทำออกมาประกอบในหลาย ๆ เพลง รวมถึง Lighting ที่เท่ และ ไม่น่ารำคาญ ทำให้การเสพโชว์ตรงหน้ายิ่งฟินขึ้นไปอีกขั้น อีกหนึ่งสิ่งที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ คือการจัดเวทีที่ค่อนข้างรวดเร็ว รวมถึงการรันคิวต่าง ๆ ที่ทำให้เรามีความสุข และ ไม่รู้สึกสะดุดระหว่างจากดูโชว์ รวมถึงทำให้เราสัมผัสได้ว่าทางวงและทีม Production มีการเตรียมตัวกันมาแบบเป๊ะมาก ๆ จริง ๆ
คอนเสิร์ต SLUR REUNION เป็นคอนเสิร์ตที่ครบเครื่องมาก ๆ ความสุข สนุก ประทับใจ คิดถึง ความรู้สึกเหล่านี้ถูกถ่ายทอดและร้อยเรียงออกมาผ่านทุก ๆ บทเพลงในโชว์ สิ่งที่เราแอบประหลาดใจคือด้วยเวลาของโชว์ที่ค่อนข้างนานมาก ๆ สำหรับคอนเสิร์ต แต่เรากลับเอนจอย และ ไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้เห็นว่าทางวงวางโชว์ทุกอย่างไว้อย่างรอบคอบ และ ใส่ใจในรายละเอียดมาก ๆ จริง ๆ
ในฐานะแฟนเพลงวง Slur ตัวเล็ก ๆ หนึ่งคน อยากจะบอกทางวงว่า ขอบคุณ ที่ทางวงทำโชว์ดี ๆ แบบนี้ออกมา, ขอบคุณ ที่ทำเพลงเท่ ๆ ออกมาให้เราฟังนานนับสิบกว่าปี ขอบคุณจริง ๆ ครับ นอกจากบทความนี้แล้วยังไงฝากเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ติดตามอ่านกันในบทความถัดไปด้วยนะครับ แล้วเจอกันในคอนเสิร์ตหน้าครับ : )
จดหมายจากผู้เขียน
โฆษณา