รีวิว เจินหลงกลหมากเหนือเมฆ (6 เล่มจบ)
ผู้เขียน จวงจวง
ผู้แปล ห้องสมุด
สำนักพิมพ์ห้องสมุด
เทศกาลบะจ่างมาถึง ความครึกครื้นย่อมตามมาด้วย ที่เมืองหยางโจวก็เช่นกัน ได้มีการเชิญคณะกายกรรมคณะต่างๆ มาแสดงในเมือง หนึ่งในนั้นคือ คณะกายกรรมตระกูลมู่ โดยหัวหน้าคณะมีนามว่า มู่เอียนจือ และนายน้อยของคณะชื่อ มู่หลัน
เมื่ิอมาถึงหยางโจวมู่หลันไม่พลาดที่จะไปบ่อนพนันที่ได้ชื่อว่าเป็นบ่อนที่ยุติธรรม เนื่องจากเจ้าของบ่อนคือตระกูลหลินที่เป็นถึงคหบดีอันดับหนึ่งแห่งหยางโจว และที่นี่ยังมีหอนางโลมที่มีชื่อที่สุดในเมืองหยางโจวชื่ิอว่า ตึกหนิงฮัว เมื่อหมดวันประตูบ่อนจะปิดลง
มู่หลันเข้าไปเล่นพนันในบ่อนเป็นครั้งแรกในชีวิต เงินที่ติดตัวไปมีเพียงสองตำลึงเท่านั้น แต่เมื่อเล่นจนจบวันได้เงินถึงแสนตำลึง ทำให้คนคุมบ่อนคิดว่าเป็นคนดวงขึ้นหรือมีกลโกงใดที่จับไม่ได้ ดังนั้นจึงให้มู่หลันพักที่ตึกหนิงฮัว เพื่อสูบเงินที่เล่นได้ออกมาให้หมด
ในระหว่างที่พักในตึกหนิงฮัว แม่เล้าก็ยัดเยียดหญิงงามที่ค่าตัวแพงที่สุดมาให้ แต่ด้วยความงกและเห็นแก่เงินของมู่หลันจึงพยายามบ่ายเบี่ยง เวลาเดียวกันที่ตึกหนิงฮัวกลับมีตงฉ่างพักอยู่ที่นี่ด้วย
คืนนั้นมู่หลันได้ให้หญิงคณิกานางหนึ่งมาปรนิบัติรับใช้ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อหัวหน้าองครักษ์ตงฉ่างถูกฆ่าตาย และหญิงคณิกานางนั้นกลับกลายเป็นนักฆ่า อีกทั้งที่ศพของหัวหน้าองครักษ์ตงฉ่างยังมีหมากสีดำที่เขียนว่า “เจินหลง” อยู่ด้วย สร้างความตกตะลึงให้แก่องครักษ์ตงฉ่างที่เหลือ เพราะก่อนหน้านี้คนของตงฉ่างถูกฆ่าตายไปแล้วหกคน โดยทุกคนที่ถูกฆ่าจะมีหมากสีดำเจินหลงทิ้งไว้เสมอ และยังจับตัวคนลงมือไม่ได้
เมื่อคนตงฉ่างตายในตึกหนิงฮัวที่เป็นความรับผิดชอบของตระกูลหลิน ทำให้หลินอีชวนที่เป็นคุณชายใหญ่ต้องออกมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง โดยคนที่หลินอีชวนไปหาคนแรกคือ มู่หลัน เพราะมู่หลันคือคนสุดท้ายที่อยู่กับนางคณิกาที่เป็นคนฆ่าหัวหน้าองครักษ์ตงฉ่าง ดังนั้นมู่หลันจึงน่าสงสัยที่สุด
หลินอีชวนได้พูดคุยกับมู่หลัน จึงได้รู้ว่ามู่หลันคือลูกศิษย์คนสุดท้ายของอัจฉริยะแดนใต้ ตู้จือเซียน ผู้มีความรอบรู้ในทุกด้าน รวมถึงด้านการแพทย์
การที่มู่หลันได้เป็นลูกศิษย์ของตู้จือเซียนนั้นเป็นเพราะมู่เอียนจือเคยข่วยชีวิตของตู้จือเซียนไว้ ตู้จือเซียนจึงได้รับมู่หลันเป็นศิษย์สั่งสอนวิชาความรู้มาเป็นเวลาสิบปี และยังมีอาจารย์สวมหน้ากากที่สอนวรยุทธ์ให้แก่มู่หลันด้วย
หลินอีชวนต้องการให้ตู้จือเซียนมารักษาบิดาของตนจึงทำดีกับมู่หลันเพื่อให้พาตนไปพบกับตู้จือเซียน ตู้จือเซียนที่ไม่ยอมออกจากธารไผ่ก็ยอมออกมาเพื่อรักษาบิดาของหลินอีชวน แต่การรักษาครั้งนี้ย่อมแลกด้วยชีวิต เนื่องด้วยตู้จือเซียนก็เจ็บป่วยอยู่แล้ว การฝืนรักษาคนไข้ที่ใกล้ตายเป็นเวลานานย่อมส่งผลต่อสุขภาพของเขาเช่นกัน
ก่อนการรักษาตู้จือเซียนได้ทำข้อตกลงกับหลินอีชวนว่าจะต้องบริจาคเงินสร้างเขื่อนสามแสนตำลึง และในภายภาคหน้าไม่ว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับมู่หลัน ต่อให้ตระกูลหลินสิ้นเนื้อประดาตัวก็ต้องปกป้องมู่หลันให้ได้
มู่หลันไม่เข้าใจว่าทำไมตู้จือเซียนถึงยอมแลกชีวิตตนเองกับเงื่อนไขแบบนี้
ก่อนตู้จือเซียนจะเสียชีวิตได้บอกให้มู่เอียนจือเล่าความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบิดาให้มู่หลันฟังว่าบิดาของมู่หลันเป็นขุนนางขั้นเจ็ดทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจการ และตรวจสอบพบการทุจริตสอบในการคัดเลือกขุนนางส่วนกลาง ทำให้ฮ่องเต้พิโรธปลดขุนนางออกชุดใหญ่ จากนั้นวันรุ่งขึ้นก็ถูกพบว่าแขวนคอตายอยู่กับขื่อในห้องนอน
ตู้จือเซียนจึงบอกให้มู่หลันเข้าไปเรียนที่สำนักราชบัณฑิต เพราะที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายที่สุดในการสืบหาความจริงว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการตายของบิดามู่หลัน
เมื่อตู้จือเซียนตายแล้ว มีคนมาเคารพศพมากมายทำให้มู่หลันเป็นที่รู้จักว่าคือลูกศิษย์คนสุดท้ายของอัจฉริยะแดนใต้ตู้จือเซียน
ฮ่องเต้ถึงกับมีพระราชโองการรับมู่หลันเข้าเรียนที่สำนักราชบัณฑิตในฐานะบัณฑิตพระราชทาน จากที่หวังว่าจะเดินทางไปเรียนอย่างเงียบๆ กลับกลายเป็นว่าทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่ว แล้วการสืบสาเหตุการตายของบิดาอย่างลับๆ คงเป็นเรื่องยากเสียแล้ว
ตามชื่อเรื่องก็บอกแล้วว่าเป็นแนวสืบสวนสอบสวน ใครที่ชอบแนวนี้ไม่ควรพลาด คนเขียนวางโครงเรื่องได้อย่างดี มีความซับซ้อน ตัวละครมีหลายมิติ เป็นการวางหมากชั้นยอดจนถึงหมากตัวสุดท้าย หมากทุกตัวที่ถูกวางจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์นั้นๆ หมากทุกตัวมีความสำคัญหมด แค่จะถูกนำออกมาใช้ตอนไหนเท่านั้นเอง เรื่องนี้เดาไม่ได้เลยว่าใครเป็นพวกใคร ใครดีใครเลว หมากทุกตัวมีเหตุผลในการกระทำของตนเอง
ผู้ที่ก้าวพลาดคือความตาย สุดท้ายใครจะเป็นผู้ชนะในหมากเกมนี้หรือไม่มีใครชนะเลย เพราะเจินหลงคือหมากที่ยังเดินไม่จบกระดาน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
