ถ้าไทยอุ้มพลังงาน พังแน่….
ราคาน้ำมันตลาดโลก ตอนนี้พุ่งขึ้นมามาก เพราะเข้าช่วงหน้าหนาวยุโรปแล้ว และรัสเซียก็ไปรวมหัวกับโอเปก ลดกำลังการผลิตลงมาเรื่อยๆ
ตอนแรกก็ปั่นราคาไม่ขึ้นอะไรนัก
รัสเซียเลยต้องปล่อยข่าวทุบตลาด
ว่าพวกเขาจะไม่ส่งออกเลย จากนี้ไป
ตลาดช็อค พาราคาน้ำมันวิ่ง
แต่เรื่องนี้อาจเป็นแค่ระยะสั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว
จะอย่างไรรัสเซียก็ต้องขายน้ำมันออกมา เพราะเป็นแหล่ง
รายได้หลักของพวกเขา และยังมีสัญญากับพันธมิตรอย่างจีนอยู่ด้วย เรื่องไม่ขายเลย คงเป็นไปไม่ได้
และเชื่อเถอะว่า ที่แอบขายก็ยังต้องขายต่อไปเพื่อหาเงิน
ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อตลาดรับชุดความจริงขัอนี้ น้ำมันก็คงลดลง
บ้างพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อชาติยุโรปได้สต็อกน้ำมันตาม
ที่ต้องการแล้ว…
…แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ชาติใหญ่ ร่ำรวย เพราะเรื่องนี้
ว่ากันตรงๆ ความซวยมันตกอยู่กับชาติเล็กๆที่ไม่รู้เรื่องเลยมากกว่า …
ไม่ใช่บอกว่าชาติรวยไม่เดือดร้อน แต่เขาเดือดร้อนน้อยกว่ามาก ก็เท่านั้นเอง…
…โดยเฉพาะไทยเรา ที่ตอนนี้มาเจอเรื่องดอลลาร์แข็งค่า
บาทอ่อนหนักเบอร์ต้นของภูมิภาคเข้าไปด้วย….
กับรัฐบาลนายกลุงโย่ง ที่ประกาศลดราคาพลังงานนั้น
มันค่อนข้างผิดเวลาไปหน่อย เพราะมาทำในช่วงพีค
ของราคาน้ำมันประจำปีพอดี
ซ้ำร้ายเมื่อรัสเซียเล่นเกมส์กับสหรัฐ
สหรัฐจึงเอาคืนด้วยการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อตีค่าเงินทั่วโลก
และหวังให้กระทบจีน สปอนเซอร์ใหญ่รัสเซียให้ขายของยาก
ทั้งสองขั้วเล่นหนัก ถือว่าตัวเองรอด คนอื่นช่างมัน
และว่ากันตามจริง อุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐก็ถือว่าได้ประโยชน์มากไปด้วย พวกเขาคงไม่เลิกง่ายๆแน่
( ถ้าสังเกตุดีๆ จะเหมือนสหรัฐก็จงใจให้น้ำมันแพง
เพราะพวกเขาไม่เร่งกำลังการผลิต ตามที่เคยทำได้ ทั้งที่เวลาผ่านมาจะสองปีแล้ว ปากไบเดนบอกว่าเร่งเอกชน แต่เอกชนสหรัฐอ้างว่าขาดแรงงาน ก็เลยผลิตได้น้อย ซึ่งนี่แหละทำให้ราคาน้ำมันมันถูกตรึงไว้สูง และสหรัฐก็ได้กำไรมากไปด้วย )
อาวุธทางการเงินทั้งสองอย่างของพวกเขา มันส่งผลไปทั่วโลก
ผลกระทบของน้ำมันนี่ก็รู้ๆกันอยู่ เพราะทุกคนใช้
ในกรณีดอกเบี้ยสหรัฐนั้น มันไปทำให้เงินทุกสกุลในโลกอ่อน
เมื่อเอาไปซื้อน้ำมัน มันจึงยิ่งแพง
จึงกลายเป็นว่า ชาติไหนก็โดนสองเด้งจากราคาพลังงาน
คือ นอกจากราคาน้ำมันขึ้นแล้ว ยังมาโดนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอีก
ในไทยนั้น บาทอ่อนจนน่ากังวล
เราจะเห็นได้ชัดว่า ราคาทองคำไทยยังปรับขึ้น
สวนทางกับตลาดโลก นั่นชัดเจนถึงการด้อยค่าลงของเงินบาท
ต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ
กับน้ำมัน ก็จะเป็นแบบนี้เช่นกัน และเป็นเรื่องใหญ่มาก
ในขณะที่รัฐบาลไทยพยามลดราคาพลังงานเอาใจประชาชน
จึงต้องนำเงินไปอุดหนุนราคา หรือตัดรายได้เข้ารัฐบางส่วนออกจากกลไกราคาพลังงาน
ในขณะที่ราคาพลังงานโลกอยู่ในขาขึ้น และค่าเงินอ่อน
นั่น หมายความว่า รัฐบาลไทยจะต้องใช้เงินมากขึ้น
กว่าที่พรรคแกนนำรัฐบาล เคยคิดไว้เมื่อตอนหาเสียงมาก
เพื่อทำนโยบายอุ้มราคาพลังงาน เอาใจชาวบ้าน
จากเดิมกองทุนน้ำมันเรา ก็มีหนี้บักโกรกอยู่แล้ว
เศรษฐกิจก็โตไม่ตามเป้า นักท่องเที่ยวก็หายไปเยอะ
ยังจะต้องกันไว้แจกตามโครงการหาเสียงอีกห้าแสนกว่าล้าน
…แล้วจะอุ้มพลังงานเอาใจชาวบ้านแบบนี้ มันจะไหวเหรอ….
สงครามน่าจะอยู่อีกนาน และพวกเขาก็ทำอะไรกันไม่ได้สนใจ
ชาติที่ยากจนหรือชาติเล็กๆอะไรนัก การสาดอาวุธทางเศรษฐกิจใส่กันแบบนี้ จะยังอยู่กับเราไปอีกนาน
และบางที มันอาจนานกว่าตัวสงครามในยูเครนด้วยซ้ำ
เพราะโลกได้ถูกแบ่งเป็นสองขั้วโดยสมบูรณ์ไปเรียบร้อยแล้ว
แถมตอนนี้มีเรื่อง โคโซโว , นากาโน-คาราบัค ที่อาจ
กลายเป็นชนวนใหม่ แทรกเข้ามาอีก
ความขัดแย้งในโลก มันคงอีกยาวนาน และรุนแรงขึ้นแน่
เราไม่มีทางรู้ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจเลยในอนาคต
เพราะกติกาปัจจุบันอย่าง WTO มันอาจหายไปได้
ซึ่งนั่น แย่กับไทยอย่างมาก เพราะเราพึ่งเงินตรา
ต่างประเทศเยอะมาก ทั้งการนำเข้า และส่งออก
หากรัฐบาลไทย ใช้นโยบายอุ้มแบบนี้ไปนานๆ
มันจะสร้างความเสียหายมากกว่าผลดี
และไม่มีเงินพอจะรองรับความเสี่ยงในอนาคตได้
กับนโยบายพลังงานที่ถูกต้อง
รัฐบาลไทยควรเลือกอุ้มเฉพาะส่วนน่าจะเหมาะสมกว่า
เช่น อุ้มบริษัทขนส่งโดยตรงเท่านั้น โดยไม่ต้องอุ้มชาวบ้าน
หรือการอุ้มชาวบ้าน ก็ควรเฉพาะเจาะจง ให้เป็นคนจนจริงๆ
หรือเกษตรกรรายย่อย ที่ใช้พลังงานเป็นต้นทุน
เพื่อให้ราคาต้นทุนสินค้ากระทบน้อยที่สุด
และรัฐใช้เงินน้อยที่สุด
กับชาวบ้านที่พอจะมีฐานะ มันอาจโหดร้าย
ที่เราต้องยอมรับความจริงว่า
เราจำเป็นต้องบีบให้คนของเราเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน เพื่อรักษาความมั่นคงส่วนนี้ในระยะยาว
ผมเชื่อว่าคนชั้นกลางในเมืองส่วนมาก รับได้ กับการปรับตัว
บ่น ด่า น่ะมีแน่ แต่เชื่อเถอะว่าคนกลุ่มนี้ไม่อดตายหรอก
เดี๋ยวเขาก็ปรับตัวกันเอง เช่น น้ำมันแพง
ก็อาจซื้อมอเตอร์ไซค์มาใช้แทนรถยนต์กันบ้าง
อะไรทำนองนี้เป็นต้น…
การให้ราคาพลังงานสะท้อนต้นทุนจริงๆ
มันดีกว่าสำหรับประเทศโดยรวม
การตัดอะไรที่มันแพงในกลไกราคาพลังงาน
มันเป็นเรื่องที่ควรทำ และต้องทำ
แต่ไม่ใช่เอาเงินภาษีคนทั้งประเทศไปอุ้มคนใช้ทุกคน
แบบรายใหญ่ก็ได้ด้วย มันไม่ถูกต้อง และสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
รัฐสามารถทำเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว
แต่ปัญหามีแค่อย่างเดียว ก็คือนักการเมือง
จะยอมเสียคะแนนนิยมหรือไม่ ก็เท่านั้นเอง…
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
