8 ต.ค. 2023 เวลา 09:36 • ไลฟ์สไตล์

บ่มเพาะคุณธรรม...เสมอไป EP จบ

คุณธรรมโดยปราศจากคุณธรรมเสริมกันคือความจริงเพียงครึ่งเดียว ความจริงเพียงครึ่งเดียวชักนําให้เข้าใจผิดเพราะเป็นความจริงเพียงบางส่วนหรืออาจเป็นจริงทั้งหมดแต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความจริงทั้งหมด ตัวอย่างบางข้อของความจริงเพียงครึ่งเดียวกับคุณธรรม:
สิทธิ์เสรีที่ปราศจากความรับผิดชอบ คือสิ่งที่คอริฮอร์สอน: “ว่ามนุษย์ทุกคนมีชัยชนะตามกําลังของตน; และอะไรก็ตามที่มนุษย์ทําไปย่อมไม่เป็นความผิด” (แอลมา 30:17)
ศรัทธาที่ปราศจากงาน และ ความเมตตาที่ปราศจากความยุติธรรม เป็นแบบอย่างของสิ่งที่นีฮอร์สอน: “ว่ามนุษยชาติทั้งปวงจะได้รับการช่วยให้รอด … ; เพราะพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ทั้งปวง, และทรงไถ่คนทั้งปวงด้วย; และในที่สุดมนุษย์ทั้งปวงจะมีชีวิตนิรันดร์” (แอลมา 1:4)
ความยุติธรรมที่ปราศจากความเมตตา บรรยายไว้ในผลงานชิ้นเอกของวิกตอร์ อูว์โก เล มีเซราบล์ ในตัวละครชื่อชาแวร์ ความยุติธรรมเป็นคุณธรรมก็ต่อเมื่อได้รับการกลั่นกรองด้วยความเมตตา มิฉะนั้นจะกลายเป็นความอยุติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งตรงกันข้าม
ความรักและความเมตตาที่ปราศจากการพึ่งพาตนเอง มีให้เห็นในชีวิตของเฮเลน เคลเลอร์ บิดามารดาของเธอมีความคาดหวังเพียงน้อยนิดจากลูกสาวที่ตาบอดและหูหนวก แอนน์ ซัลลิแวนครูสอนคนตาบอดและคนหูหนวกผู้แนะนําคุณธรรมเสริมของการพึ่งพาตนเองและช่วยให้เฮเลนเพิ่มพูนศักยภาพที่แท้จริงของเธอ
ความอดกลั้นที่ปราศจากความจริง และ ความรักที่ปราศจากกฎ ลดคุณค่า ประนีประนอม ทําให้มาตรฐานของพระเจ้าเสื่อมลงและส่งผลให้เกิดการละทิ้งความเชื่อโดยการหลอกลวงตนเอง (ดู 4 นีไฟ 1:27)
ในทางตรงกันข้าม กฎที่ปราศจากความรัก และ ความจริงที่ปราศจากความอดกลั้น เป็นแบบอย่างที่ชัดเจนจากพวกฟาริสีและส่งผลให้เกิดการละทิ้งความเชื่อเนื่องด้วยความจองหอง
การเป็นคนชอบธรรมโดยไม่กีดกัน (ดู ลูกา 15:1–7) จะนําไปสู่การยกยอความชอบธรรมของตนเอง อคติ และความหน้าซื่อใจคด
ศรัทธาและความหวังที่ปราศจากความอดทน (พระเจ้า “ย่อมประทานพรให้ท่านโดยทันที” [โมไซยาห์ 2:24] ทว่า “พระองค์ทรงทดลองความอดทนของพวกเขา” [โมไซยาห์ 23:21]) จะนําไปสู่ความสงสัยตนเองและการสูญเสียศรัทธาได้
คุณธรรมทุกอย่างเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวเว้นแต่จะถูกหักล้างด้วยคุณธรรมเสริมกันซึ่งจําเป็นต่อการเกื้อหนุนหลักคําสอน
พลังและความสำคัญของ และ ในฐานะ “บิดาแห่งความขัดแย้ง” (3 นีไฟ 11:29) ซาตานใช้เล่ห์เพทุบายยั่วยุให้โกรธโดยทำให้คุณธรรมขัดแย้งกันด้วยความคิดแบบ “ตรงข้ามกับ” เช่น ความยุติธรรมตรงข้ามกับความเมตตา แต่พระเจ้าทรง “ให้คำปรึกษา … ด้วยความยุติธรรม, และ ด้วยพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้” (เจคอบ 4:10; เน้นตัวเอน) คุณธรรมสองข้อนี้ไม่ใช่สิ่งตรงกันข้ามแต่เสริมกัน เพื่อให้ได้ ความสมดุลที่สมบูรณ์ หลักคําสอนจึงถูกต้องและฉลาดกว่าที่จะกล่าวว่า:
ความยุติธรรม และ ความเมตตา (ตรงข้ามกับความยุติธรรมกับความอยุติธรรม)
สิทธิ์เสรี และ ความรับผิดชอบ
ศรัทธา และ งาน
การรักษาพันธสัญญา/ทางศาสนา (ภายนอก) และ การเป็นสานุศิษย์/ทางวิญญาณ (ภายใน)
ความเหมือนกัน และ ความยืดหยุ่น
ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และ ความหลากหลาย
ตัวบทกฎหมาย และ เจตนารมณ์ของกฎหมาย
ความคารวะ/ความเคร่งขรึม และ ปีติ/การเข้าสังคม
ความองอาจ และ ความอ่อนโยน
ความกล้าหาญ และ ดุลพินิจ
วินัย และ ความรักความเมตตา
ความยุติธรรมสําหรับคนทั้งปวง และ การไม่ประนีประนอม
ความสุภาพอ่อนน้อม และ ความหนักแน่น
“จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง” (มัทธิว 5:16) และ ไม่ “แสวงหาเกียรติจากมนุษย์” (หลักคําสอนและพันธสัญญา 121:35)
และอื่นๆ
การบ่มเพาะคุณธรรมให้สำเร็จต้องสร้างสมดุลระหว่างศรัทธาในพระเยซูคริสต์ การสวดอ้อนวอน และ “ทําสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในอํานาจของเราอย่างรื่นเริง” (หลักคําสอนและพันธสัญญา 123:17)
โมโรไนสอนเราว่าความหวังของเราในการเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มีศูนย์กลางอยู่ในพระองค์: “จงมาหาพระคริสต์, และได้รับการทําให้ดีพร้อมในพระองค์, และปฏิเสธตนจากความไม่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าทุกอย่าง; และหากท่านจะ … รักพระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดพลัง, ความนึกคิด, และพละกําลังของท่าน, เมื่อนั้นพระคุณของพระองค์จึงเพียงพอสําหรับท่าน, เพื่อโดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์” (โมโรไน 10:32)
ขอให้ คําเทศนาแห่งพระชนม์ชีพ ของพระเจ้าเป็นการสวดอ้อนวอนและภารกิจของเรา เมื่อเรา “บ่มเพาะคุณธรรม … เสมอไป” (หลักคําสอนและพันธสัญญา 46:33; เน้นตัวเอน) “คุณธรรม [จะ] ประดับความนึกคิด [ของเรา] ไม่เสื่อมคลาย; เมื่อนั้นความมั่นใจของท่านจะแข็งแกร่งขึ้นในการประทับอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า
โฆษณา