ย้อนรอยประวัติศาสตร์ หญ้าฝรั่น หรือ Saffron เครื่องเทศที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
หญ้าฝรั่น หรือ Saffron เครื่องเทศสมุนไพรจากประเทศตะวันตกที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก เป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่ได้มาจากดอกแซฟฟรอน โครคัส (saffron crocus)
มีลักษณะเป็นดอกไม้สีม่วง มีเกสรดอกไม้สีแดงและสีเหลืองทองตรงกลาง มีการเพาะปลูกมาตั้งสมัยกรีกและโรมันโบราณ ราว 3,500 ปีมาแล้ว โดยในปัจจุบันมีราคากิโลกรัมละเกือบ 1 แสนบาท ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยกันอยู่ไม่น้อยว่าทำไมหญ้าฝรั่นถึงมีราคาแพง
ทำไมหญ้าฝรั่นถึงมีราคาแพงที่สุดในโลก
สาเหตุที่ทำให้หญ้าฝรั่นเป็นเครื่องเทศที่มีราคาแพงนั่นก็เป็นเพราะว่า หญ้าฝรั่นสามารถเติบโตได้ดีแค่ในบางพื้นที่เท่านั้น เนื่องจากต้องอาศัยสภาพอากาศที่เหมาะสมและต้องได้รับแสงแดดที่เพียงพอในแต่ละวัน อีกทั้งดอกแซฟฟรอน 1 ดอก จะมีเกสรสีแดงเพศเมียเพียงแค่ 3 เส้นเท่านั้น ซึ่งเกสรเพศเมียเหล่านี้แหละค่ะ ที่เรียกว่า Saffron
ดังนั้นการที่จะเก็บ Saffron แห้งให้ได้น้ำหนัก 1 ปอนด์ (0.45 ก.ก.) ก็จะต้องใช้ดอกแซฟฟรอน มากถึง 50,000-75,000 ดอก เลยทีเดียว นอกจากนี้การเก็บ Saffron ต้องรีบเก็บให้หมดภายในวันเดียวก่อนที่ดอกจะร่วงโรยลงมาจากต้น และต้องรีบนำมาคั่วให้แห้งทันที ซึ่งกระบวนการนี้ต้องใช้แรงงานคนจำนวนมากเท่านั้น จะใช้เครื่องจักรแทนไม่ได้อีกด้วย
ประเทศที่ปลูกหญ้าฝรั่นเพื่อการส่งออก
สภาพภูมิประเทศเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณการผลิตของหญ้าฝรั่น ดังนั้นผลผลิตที่ปลูกต่างพื้นที่ จึงมีคุณสมบัติและสรรพคุณที่แตกต่างกัน โดยประเทศที่ปลูกหญ้าฝรั่นเพื่อส่งออก ได้แก่ สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส อินเดีย และอิหร่าน โดยอิหร่านเป็นประเทศที่สามารถผลิตหญ้าฝรั่นที่มีคุณภาพ และมีปริมาณการผลิตมากที่สุดในโลก
benefit of saffron
หญ้าฝรั่นถือเป็นเครื่องเทศที่มีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก มีกลิ่นหอมแรงติดทนนาน คนส่วนใหญ่นิยมนำหญ้าฝรั่นมาใช้แต่งกลิ่นอาหาร บำรุงร่างกาย เพราะช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดได้ ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เสริมอายุให้ยืนยาว ช่วยทำให้เจริญอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และยังนิยมนำมาแต่งกลิ่นเครื่องหอม น้ำหอม หรือใช้ย้อมผ้าสำหรับภูษาอาภรณ์ของกษัตริย์ ในหลายวัฒนธรรมอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีประวัติการใช้หญ้าฝรั่นในการแพทย์แผนโบราณมาอย่างยาวนาน ในตำราแพทย์แผนโบราณของจีนยุคศตวรรษที่ 16 เรียกหญ้าฝรั่นว่า “ซีหงฮวา” แปลว่า ดอกไม้สีแดงจากตะวันตก
และการศึกษาในปี ค.ศ. 1995 ชี้ให้เห็นว่า ยอดเกสรเพศเมียและกลีบดอกของหญ้าฝรั่น มีประโยชน์ในการรักษาภาวะซึมเศร้า และหากรับประทานหญ้าฝรั่นทุกวันจะช่วยถนอมสายตาไม่ให้เสื่อมสภาพเมื่ออายุมากขึ้น ช่วยถนอมเซลล์ในดวงตาให้สามารถใช้งานได้นานและทนทานกับโรคได้ดี ป้องกันเซลล์ไม่ให้ตายเพราะมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เข้มแข็ง ช่วยป้องกันดวงตาจากแสงแดด และป้องกันไม่ให้เป็นโรคจอตาเสื่อมได้อีกด้วยค่ะ
วิธีการเก็บรักษาหญ้าฝรั่น
เนื่องจากหญ้าฝรั่นมีคุณสมบัติที่ระเหยได้ง่าย โดยเฉพาะหญ้าฝรั่นที่เป็นผงหรือเป็นฝอย ดังนั้นจึงควรเก็บให้พ้นแสงแดดและในที่ที่ปราศจากความชื้น โดยเก็บไว้ในขวดโหลแก้วที่มีฝาปิดมิดชิด หรือจะเป็นขวดโลหะก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของรสชาติและสรรพคุณของหญ้าฝรั่นนั่นเอง และที่สำคัญอย่างมากคือไม่ควรนำหญ้าฝรั่นมาบดเป็นผงหากยังไม่ได้ใช้งาน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
