มนต์รักนักพากย์
สมัยก่อนเวลาดูหนัง ไม่มีเสียงมาพร้อมกับฟิล์มหรอก ต้องมีนักพากย์ให้เสียงกันสด ๆ
นี่คือประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของภาพยนตร์ไทย ที่คนลืมไปแล้ว แม้แต่ผมยังเกิดไม่ทันเลย
คนบ้านนอกสมัยก่อน ไม่มีโรงหนัง ไม่มีทีวี ทางเดียวที่จะได้ดูหนังก็คือมีรถมาเร่ฉายหนังถึงหน้าบ้าน
มีคนถามว่าหนังเรื่องนี้ควรฉายที่โรงถึงจะได้บรรยากาศ ไม่ใช่หรอก มันต้องฉายกลางแปลงถึงหน้าบ้าน ว่าไปมันก็เข้ากับ Netflix เหมือนกันคือบุกเข้าถึงบ้านกันเลย
แต่ยุคนั้นมันไม่มีระบบส่งภาพตามสาย ก็ต้องส่งรถเข้าไป รายได้ของรถเร่มาจากการขายยาของบริษัท
ทีนี้จะเล่าเรื่องไม่ให้เป็นสารคดีจนเกินไป ก็ต้อวมีดราม่าอะไรกันบ้าง มีชิงรักหักสวาท แต่แก่นจริง ๆ ของมันคือความรักในการทำงานด้านเกี่ยวกับหนัง
หนังได้เวียร์ มาเป็นผู้แสดงนำ มีความรักในงานนี้ โดยเฉพาะมีไอดอลส่วนตัวคือมิตร ชัยบัญชาที่เขาได้พากย์เสียงให้ทุกเรื่อง เรียกได้ว่ามิตรในหนัง ครึ่งนึงคือดาราที่ชื่อมิตร อีกครึ่งคือคนพากย์เสียง
ฝ่ายหญิง บทบาทนี้แทบจะนอนมาเลย เพราะหนูนาเป็นทั้งนางเอกหนังและนักพากย์อาชีพ อยู่แล้ว และเธอก็เล่นได้สมบูรณ์แบบจริง ๆ
สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นที่สุดคือ งานสร้างย้อนยุคที่ดูเหมือนจริงที่เป็นเครื่องหมายการค้าของผู้กำกับอย่างนนทรีย์ นิมิบุตร อยู่แล้ว เอาจริงนนทรีย์มีจุดอ่อนที่นักวิจารณ์ค่อนแคะคือ กำกับการแสดงได้ไม่ดีนัก นักแสดงมักจะเล่นแข็ง อาศัยงานสร้างและเนื้อเรื่องแปลกใหม่ทำให้หนังทำเงิน แต่เรื่องนี้เขาลบจุดอ่อนลงได้ ทีมนักแสดงหลักทั้งสี่คนเล่นได้ไหลลื่นเข้าขากันมาก
แต่มีนักแสดงสมทบพิเศษสองท่าน ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูมีเสน่ห์เอามาก ๆ คือ มิตร ชัยบัญชา ที่จะมีบทบาทสองส่วนคือบนจอหนังและส่วนที่ใช้คนแสดง เป็นส่วนที่สร้างความประทับใจให้กับหนังเป็นอย่างมาก
อีแก่
อีกคน เอ๊ย คัน คือเจ้ารถเร่ยี่ห้อ CMP จากแคนาดา มันเป็นรถที่เท่มากและเข้าฉากตลอดเรื่อง การออกแบบก็เก๋ หน้าต่างด้านหน้าเปิดรับลมได้ด้วย เท่ซะไม่มี เด่นซะจนได้ชื่อเป็นหนึ่งในทีมนักแสดง
เราได้เห็นการ Disrupt อะไรหลายอย่างในเรื่อง ไม่ว่าจะการเปลี่ยนจากระบบใช้นักพากย์มาเป็นเสียงในฟิล์ม การที่การใช้เครื่องพิมพ์ดีดเป็นการยกระดับความสามารถในการทำงานไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์สมัยนี้ การเข้ามาของทีวี แต่เราก็เห็นได้ว่าระบบเชย ๆ แบบพากย์กันสด ๆ มันมีเสน่ห์แบบที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็เข้ามาแทนที่ไม่ได้เหมือนกัน
ป.ล. สมัยเด็ก ๆ ไม่เคยดูพากย์สดในโรงหรอก แต่เชื่อมั้ยว่าทีวีก็มีพากย์สด มีทีนึงหนังฉายแล้วถูกคั่นด้วยการเปิดเพลงชาติ แต่พอมาฉายต่อ นักพากย์พูดว่า โอเค เคารพธงชาติแล้วเรามาลุยกันต่อ เลยรู้ว่าพากย์สด แล้วยุคนั้นนักพากย์จะเล่นมุกเข้ากับเหตุการณ์วันนั้นได้จริง ๆ สมัยนี้ไม่มีแล้วมุกวันต่อวัน
ป.ล. 2 การพากย์สด อาจดูเชย แต่ไม่แน่ต่อไปอาจกลับมาก็ได้ เหมือนคนสมัยนี้ที่ชอบดูการแสดงดนตรีสด ๆ ทั้ง ๆ ที่เปิดฟังเพลงที่บันทึกมาแล้วเพราะกว่า ก็เพราะการแสดงสดมันไม่เหมือนกันทุกครั้ง มีอะไรพิเศษเสมอ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
