Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Daily Good
•
ติดตาม
18 ต.ค. 2023 เวลา 13:56 • หนังสือ
Proactive vs. Reactive ทำไมแนวคิดนี้จึงสำคัญต่อการพัฒนาชีวิตในทุกเรื่อง
คงไม่มีใครบนโลกนี้ใช้ชีวิตโดยปราศจากปัญหา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณจะเจอปัญหาโผล่เข้ามาในชีวิตเรื่อยๆ
เพื่อที่จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นและไม่รู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังถาโถมเข้ามา มีสิ่งหนึ่งที่ช่วยคุณได้มากทีเดียว นั่นคือ กรอบแนวคิดต่อปัญหาที่ถูกต้อง
แต่ก่อนอื่น เรามีดูว่าคุณมีกรอบแนวคิดอย่างไร
กรอบแนวคิด Proactive เป็นของคนที่มีสติรู้ทันต่อปัญหาที่จะเกิดขึ้น และพร้อมจะทุ่มเทพลังเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาก่อนที่ปัญหานั้นจะเกิดขึ้น ในขณะที่แนวคิด Reactive เป็นของคนที่เฝ้ารอให้ปัญหาเกิดก่อน แล้วจึงค่อยคิดหาทางแก้และมักตกเป็นเหยื่อสถานการณ์
ถ้าคุณอยากควบคุมชีวิตตัวเองได้ดีขึ้น คุณต้องเปลี่ยนแนวคิด “รอเจอปัญหาก่อน” (Reactive) เป็น ”หาวิธีแก้สิ่งที่จะเป็นปัญหาในอนาคต“ (Proactive)
เมื่อคุณมองไปรอบๆ คุณจะสังเกตว่ามีคน 3 กลุ่ม คือ คนที่บ่นถึงปัญหา คนที่บอกได้ว่าปัญหาคืออะไร(แต่ก็ไม่ทำอะไร) และ คนที่ลงมือแก้ไขปัญหา
โดยธรรมชาติแล้ว การบ่นและจมอยู่กับปัญหา เป็นเรื่องปกติ นั่นเพราะ มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ต้องการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ดังนั้น การแก้ปัญหาจึงดูเป็นงานที่ท้าทาย จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหาจะเลือกอยู่เฉยๆและบ่นแทนที่จะลงมือแก้ปัญหา
คนที่มีกรอบความคิด Reactive จะเลือกใช้ชีวิตให้ง่ายที่สุด (เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา) วิธีการรับมือกับปัญหาคือ พวกเขาจะรอให้ปัญหาเกิดก่อน แล้วค่อยหาวิธีแก้ไข ซึ่งนั่นอาจช้าไปหน่อย เพราะไม่มีแผนรับมือกับปัญหา และมักลงเอยด้วยการตกเป็นเหยื่อสถานการณ์
แน่นอนว่ากรอบความคิดแบบ Reactive จะนำไปสู่ความเครียดและรู้สึกว่าปัญหาเข้ามาถาโถม เพราะคุณควบคุมชีวิตไม่ได้
ในทางกลับกัน คนที่มีกรอบความคิด Proactive จะรู้สึกควบคุมชีวิตไดั เขาทำนายได้ว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นคืออะไร และวางแผนจัดการปัญหาไว้ล่วงหน้า วิธีจัดการปัญหาแบบนี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่างมั่นใจมากขึ้น เมื่อคุณวางแผนรับมือก่อนปัญหาจะเกิด คุณพร้อมจะเผชิญหน้ากับปัญหา และจะไม่ตกเป็นเหยื่อสถานการณ์
มี 3 วิธีที่ช่วยปลูกฝังกรอบแนวคิดแบบ Proactive เพื่อให้คุณควบคุมชีวิตได้ดีขึ้น
1.สะท้อนตัวตนสม่ำเสมอ
การคิดทบทวนการกระทำและการตัดสินใจที่ผ่านมา จะช่วยให้คุณตระหนักถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง คุณจะรู้ว่ามีอะไรต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น คุณจะมองเห็นตัวเองและรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเองมากขึ้น เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต คุณจะรู้ว่าควรทำอะไรและการตัดสินใจไหนที่พาคุณออกจากปัญหาไดั
2.หาวิธีเพื่อป้องกันปัญหาก่อนจะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งต่างๆเพื่อจัดการปัญหาล่วงหน้า แทนที่จะนั่งรอให้มันเกิดขึ้น คุณจะมีเวลาเตรียมพร้อมมากขึ้น คุณจะสร้างอารมณ์เชิงบวกกับตัวเอง เพราะคุณควบคุมชีวิตตัวเองได้ คุณไม่ปล่อยให้ปัญหามามีอิทธิพลเหนือคุณ
3.มองปัญหาให้เป็นโอกาส
เมื่อชีวิตโยนปัญหาเข้ามา อย่าเพิ่งท้อใจ มองความท้าทายเหล่านั้นให้เป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้และเติบโต ทุกปัญหามักเข้ามาเพื่อมอบโอกาสบางอย่างให้แก่เรา อย่างน้อยมันคือการเรียนรู้และการเตรียมพร้อมในอนาคต ยิ่งมีความท้าทายที่เข้ามาและคุณเอาชนะมันได้มากเท่าไหร่ คุณจะมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเท่านั้น คิดบวกเข้าไว้และหาวิธีจัดการกับมัน
ความท้าทายและปัญหาคือส่วนประกอบของชีวิต ไม่มีใครมีเวทย์มนต์ที่เสกให้ปัญหาหายไปได้ ปัญหาทำให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง เมื่อคุณเป็นคน Proactive คุณจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นเหยื่อสถานการณ์ แต่คุณกลายเป็นคนที่จัดการปัญหาให้ผ่านไปได้ในที่สุด
ขอบคุณสำหรับการอ่านบทความ Daily Good
ขอบคุณเนื้อหาอ้างอิงจาก Dr.Roopleen ด้วยครับ บนเว็บไซต์ tealfeed หากเพื่อนๆสนใจสามารถหาได้ในชื่อ
Why a Proactive Mindset Matters and How to Develop it.
ช่องทางการติดตาม
YouTube: Daily Good (Podcast and Article)
Facebook: Daily Good
YouTube: Daily Good
หนังสือ
พัฒนาตัวเอง
แนวคิด
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย