23 ต.ค. 2023 เวลา 15:44 • ท่องเที่ยว

มาชมเมืองเก่าโรมันฟอรัมกันต่อ

หลังจากคนเล่าเหนื่อยนัก ก็ขอพักสักหน่อย แล้วเราก็มาเดินชมโรมันฟอรัมกันต่อ
เสากรีกแบบโครินเทียนสามต้นสูงชะลูดเรียง แบกชิ้นส่วนเล็กๆของคานนี้แหละ เป็นตัวแทนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่เคยมีความสำคัญมาก่อน ชื่อว่าวิหารแห่ง Castor and Pollux มีคนตั้งชื่อเสาทั้งสามว่า Three Sisters แล้วคนอื่นๆก็เลยเรียกตามกันไป (ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เราเรียกเสาสามอนงค์ก็ดีนะ)
ภาพโดย Karin Karintasut
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของซากวิหารนี้กลับเป็นเรื่องของสองพี่น้องบุรุษคู่แฝดมากกว่า ชวนสับสนดีเหมือนกัน บุรุษแฝดนี้มีนามว่า Castor คนนึง และ Pollux อีกคนนึง ว่าไปแล้วคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะคุ้นหูและก็คาดว่าท่านผู้อ่านก็คงจะไม่รู้จักหรอก แต่ถ้าบอกว่าสองคนนี้ก็คือคู่แฝดในราศีเมถุน (Gemini) ก็คงจะร้องอ๋อกันเป็นแถวทิว
ประติมากรรม Castor และ Pollux ฝีมือโรมัน (แต่ไปอยู่นิวยอร์คแล้ว) https://en.wikipedia.org/
แล้วทำไมหนุ่ม ๆ ราศีเมถุนถึงได้มาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ ขอเล่าว่าในการสู้รบครั้งหนึ่งประมาณ 98 ปีก่อนคริสตกาล ขุนพลโรมันนามว่า Aulus Postumius ได้อธิษฐานขอพรจากสองเทพบุตรว่าถ้ารบชนะจะสร้างวิหารให้ หลังจากนั้นก็มีผู้พบชายหนุ่มแปลกหน้าสองคนขี่ม้าอยู่ในสนามรบและมาช่วยรบจนชนะสงคราม หลังจากนั้นก็หายตัวไป
แล้วในอีกเวลาไม่นาน ก็มีผู้พบเทพบุตรม้าขาวกำลังให้น้ำม้าที่น้ำพุ Juturna ตรงนี้เองได้กลายมาเป็นที่ตั้งของวิหารของเทพคู่นี้ไป แต่แล้วในเวลาอีกประมาณ 500 ปีต่อจากนั้น ก็มีการสร้างวิหารใหม่ในศตวรรษที่ 1 ซึ่งก็มีชิ้นส่วนดังที่เห็น และถ้าเราได้มาชมโรมันฟอรัมในวันที่ 15 กรกฏาคม ก็จะได้เห็นขบวนพาเรดทหารม้าโรมัน 5,000 นายที่จัดขึ้นเป็นที่ระลึก และแน่นอนว่าต้องมีชายคู่หนึ่งสวมบทบาทเป็น Castor และ Pollux ซึ่งเป็นดาราของงาน
แต่ถ้าใครมาเยือนวิหารในวันอื่นๆก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ คุณจะไม่ได้เจอสองหนุ่มที่นี่ แต่ไม่เป็นไรนักดอก แค่เดินไปยังพิพิธภัณฑ์ Capitoline ใกล้ๆกัน ก็จะได้ไปเจอพวกเขารออยู่ตรงทางเข้า เดี๋ยวเราจะได้ไปกันด้วย แต่ตอนนี้มาชมโรมันฟอรัมให้ครบกันก่อน
สิ่งหนึ่งที่ดูโดดเด่น (และเป็นสง่าด้วย) ในโรมันฟอรัมก็คือประตูชัย (Triumphal arch) คงไม่น่าแปลกใจที่พวกเราพบว่ามันช่างเหมือนประตูชัยในปารีสเหลือเกิน ก็แน่นอนเพราะประตูชัยแห่งปารีสที่สร้างโดยจักรพรรดินโปเลียนซึ่งมีรสนิยมคลั่งไคล้จักรวรรดิโรมันโบราณในหลายเรื่อง (เดี๋ยวตอนเขียนพาเที่ยวฝรั่งเศสจะเล่าเรื่องนี้ต่อ ตามไปนะจ๊ะ) นอกจากนั้น ยังมีประตูชัยอื่นๆในโลกนี้สร้างขึ้นโดยนำต้นแบบมาจากโรมันฟอรัมอีกเช่นกัน
อันที่จริงที่โรมันฟอรัมเคยมีประตูชัยทั้งหมด 5 ประตู แต่ตอนนี้เหลือ 3 ประตู (ซึ่งก็ดีแล้วเพราะคนเขียนจะได้ไม่ต้องบรรยายเยอะ เริ่มเหนื่อย) ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นประตูชัย ก็ต้องสร้างเพื่อฉลองชัยชนะน่ะสิ แต่ละประตูก็ฉลองชัยของจักรพรรดิคนละคน
ประตูชัยของติตัส (Arch of Titus)
ประตูแรกที่จะขอเชิญชมได้แก่ประตูชัยของติตัส (Arch of Titus) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงจักรพรรดิติตัส (Titus) ที่เข้าไปทำสงครามปราบกบฏที่เยรูซาเล็ม ในปี ค.ศ. 66 (เยรูซาเล็มถูกปกครองโดยโรมันมาตั้งแต่ก่อนนั้นแล้ว ใครยังไม่ทราบก็ลองนึกถึงประวัติพระเยซูที่ถูกโรมันจับตัวไปอยู่บนไม้กางเขน) เมื่อปราบได้ก็กวาดต้อนชาวยิวมาเป็นเชลยมาเป็นทาสจำนวนหกหมื่นคน ทาสเหล่านั้นได้มีส่วนร่วมในการสร้างโคลอสเซียมอันยิ่งใหญ่ต่อมา จนบางคนก็บอกว่ามันเกิดขึ้นได้เพราะเทคโนโลยีของชาวยิวด้วยซ้ำ
ณ ที่นี้เราจะได้เห็นเหตุการณ์ดังว่าที่เกิดขึ้นเกือบสองพันปีมาแล้ว บนภาพสลักที่อยู่บนประตูชัย ภาพหนึ่งแสดงขบวนของชาวยิวที่ถูกนำเข้ามาในโรมพร้อมกับเชิงเทียนมีค่า 7 เล่มและอีกภาพเป็นขบวนแห่ของโรมัน มีจักรพรรดินั่งอยู่โดยมีเทพี Victory ประทับด้านหลัง
เห็นความภาคภูมิในของชาวโรมันแล้วก็หันมาเสียใจ เห็นใจ และสงสารชาวยิวอีกทางหนึ่ง
By Paolo Villa - Own work, CC BY-SA 4.0, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=117815327
ประตูชัยบานต่อไป คือประตูชัย เซปติมิอุสเซเวรัส (Arch of Septimius Severus)
จุดประสงค์ก็แบบเดียวกับบานที่แล้ว ก็คือรำลึกถึงชัยชนะของโรมัน คราวนี้เป็นการแสดงชัยชนะของจักรพรรดิเซปติมิอุสเซเวรัส (Septimius Severus) ที่มีต่อจักรวรรดิปาร์เธียน (Parthian) ซึ่งเป็นอาณาจักรโบราณอยู่แถวๆอิหร่านในปัจจุบัน
https://commons.wikimedia.org/
และก็เช่นเดียวกันกับประตูชัยอื่นๆ เราจะเห็นภาพประติมากรรมชัยชนะซึ่งอยู่บนความทุกข์ยากของชาวปาร์เธียน
เมื่อดูแล้วก็สงสัยไปพลางว่าคนโรมันเวลาเขาสร้างประตูชัยเขาได้แอบสงสารพวกเชลยบ้างมะเนี่ย เพราะลักษณะเชลยก็จะเป็นแบบเดียวกัน ถูกจับเอามือไพล่หลัง หน้าเศร้าๆ แล้วก็มีเกวียนที่เต็มไปด้วยข้าวของมีค่าที่ขโมยมาอีกแล้ว
https://en.wikipedia.org/wiki/Arch_of_Septimius_Severus
ภาพต่อมาในอีกแถวแสดงการปิดล้อมเมืองเพื่อที่จะโจมตี (แบบเดียวกับพม่ามาตีกรุงศรีฯมั้ง) และอีกแถวก็เป็นการก่อจลาจลของเมืองเอเดสซาซึ่งก็เป็นเมืองในเมโสโปเตเมีย แต่บางคนเป็นบอกว่าเป็นการยอมจำนนของกษัตริย์ Abgrus ต่อจักรพรรดิโรมัน และอีกภาพก็เป็นชาวโรมันที่กำลังโจมตีเมืองเซลูเซียและพลเมืองที่กำลังพ่ายแพ้ อีกภาพคือเหตุการณ์ที่ชาวโรมันเข้ายึดเมืองCtesiphonซึ่งเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของสงครามปาร์เธียน
ว่าไปแล้วถ้าไปยืนดูเราก็ไม่ค่อยจะมองออกหรอกเพราะมันพังแล้วแถมยังอยู่ไกลสายตา แต่พวกนักประวัติศาสตร์ศิลป์เขาก็ดูออกตีความได้ มาถ่ายทอดให้เราได้ทราบกันเช่นนี้ และเราก็ย่อมาจากวิกิพีเดียอีกที เช่นเดียวกับรูปภาพที่ได้รับความอนุเคราะห์มา
อ่อ แล้วตรงซ้ายขวาของโค้งด้านบนเป็นรูปเทพีวิกตอเรียซึ่งเป็นตัวแทนของฤดูกาลทั้งสี่ ดูสภาพยังดีพอเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้อยู่
เทพีมีปิกบิน เห็นมะ ถืออะไรที่ดูเหมือนศพคน ฉันก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ต่อไปก็คือประตูชัยแห่งคอนสแตนติน (Constantine I) เป็นประตูชัยที่มีซุ้มโค้งสามซุ้ม มีขนาดใหญ่ที่สุดในโรมันฟอรัม สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิ คอนสแตนติน (Constantine I) ซึ่งเป็นคนสำคัญมาก (จำชื่อไว้นะ เดี๋ยวเราจะได้คุยถึงเขาอีก) และก็มีเรื่องราวของจักรพรรดิองค์อื่นๆอีกที่ได้จารึกภาพไว้ในนี้ เช่น จักรพรรดิมากัส (Marcus Aurelius) เฮเดรียน (Hadrian) และ ทราจัน (Trajan) ซึ่งถ้าจะเล่าถึงก็มีเรื่องอีกเยอะเช่นกัน แต่ไม่ขอเล่าดีกว่า จะขอเก็บไว้เล่าตอนอื่นๆ
ประตูชัยนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะของคอนสแตนตินเหนือแม็กเซนติอุสในยุทธการที่สะพานมิลเวียน แต่ภาพประติมากรรมกลับมีวีรกรรมของจักรพรรดิคนอื่นๆมากกว่า อ้าว ภาพประติมากรรมบนประตูนี้ดูรู้เรื่องมากสุด พังน้อยกว่าประตูที่แล้ว แต่ขอไม่บรรยายนะ วันนี้ขึ้เกียจแล้ว ไปดูเอาจาก wiki ละกัน เพราะตรงนี้ก็ลอก wiki มาอยู่ดี (คริคริ)
https://commons.wikimedia.org/wiki/Arch_of_Constantine
และต่อไปนี้ก็ถึงคราวของวิหารแสนสวย Santi Luca e Martina เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยสุดในโรมันฟอรัมเลยแหละ ก็เพราะมันยังมีสภาพที่ดูดีสุดเสียหายไม่มากเท่าอันอื่น ซึ่งก็แน่นอนเพราะว่าอันนี้เป็นของใหม่สุด เกิดขึ้นในยุคที่ชาวโรมรับเอาศาสนาคริสต์มาแล้ว โดยอุทิศให้กับนักบุญมาร์ตินา ในรัชสมัยของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ เซเวรุส ในปี 625 (นี่ขนาดใหม่มากแล้วนะ ยังเก่าขนาดนั้นเลย)
ภาพโดย Karin Karintasut
แต่ที่เราเห็นอยู่มันเกิดจากการบูรณะเรื่อยๆมา จนมีรูปร่างดังที่เห็น และมันก็เคยเป็นสถาบันศิลปะสำหรับจิตรกร ประติมากร และสถาปนิกในกรุงโรม (Accademia di San Luca) ในปี ค.ศ. 1577 อีกด้วย
ภาพโดย Karin Karintasut
ไปดูวิหารเทพเจ้าและนักบุญมาหลายต่อหลายแล้ว มาเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเยือนคุกมาเมอร์ทีน (Mamertine Prison) กันเถอะ อยู่ไม่ไกลจากฟอรัม
https://www.bibleplaces.com/wp-content/uploads/2021/01/Mamertine-Prison-building-tb111905237.jpg
เดิมถูกเรียกว่าคุกทูลิอานัม Tullianum Carcer เรือนจำ Mamertine Prison สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 เป็นเรือนจำที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงโรม เพราะว่ามันเป็นอาคารที่มีแคบและมืด เลยเป็นที่กักขังศัตรูของกรุงโรมไว้หลายท่าน อย่างเช่นกษัตริย์ที่ถูกจับเป็นเชลยก่อนที่จะทำการประหาร นักโทษที่สำคัญและโด่งดังที่สุดก็คือนักบุญเปโตร ซึ่งถูกนำมาขังก่อนที่จะถูกประหารบนไม้กางเขนแบบเดียวกับพระเยซู
ตามตำนานเล่าว่ามีน้ำพุเล็กๆอยู่ในคุกนี้เพื่อให้นักบุญเปโตรสามารถให้บัพติศมาผู้มาเยี่ยมได้ หลังจากที่สถานที่ดังกล่าวหยุดเป็นเรือนจำแล้ว ก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของวิสุทธิชนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในพระคัมภีร์นักท่องเที่ยวหลายคนมายืนหยุดดูและสะกดใจรำลึกถึงท่านนักบุญองค์นี้ครู่หนึ่ง
ห้องที่กล่าวกันว่าเป็นที่คุมขังของนักบุญ เซนต์ปีเตอร์ และเซนต์พอล
และแล้วก็มาถึงเรื่องราวของโรมันฟอรัมหลังยุคโรมัน
เมื่ออาณาจักรโรมันล่มสลายลง โรมันฟอรัมก็เสื่อมโทรมลง แต่ก็ได้ถูกฟื้นฟูขึ้นใหม่ในฐานะของศาสนสถานของคริสเตียน พอถึงตอนนั้น โรมันฟอรัม ก็ถูกดัดแปลงรูปแบบไปใช้งานในอีกแบบหนึ่ง ดังนั้นเวลาเราที่นี่ก็เหมือนได้ชมโบราณสถานแบบทูอินวัน บางอาคารก็มีทั้งโรมันและศิลปะคริสเตียนยุคต่าง ๆ ผสมกันกับงานของโรมันที่เหลืออยู่ หลายชิ้นก็ได้รูปแบบมาจากกรีกซะอีก ช่วงนี้โรมันฟอรัมก็ยังพอมีความสำคัญอยู่ มีนักแสวงบุญเข้ามาเคารพต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้บ้าง
Bernardo Bellotto - Ruins of the Forum, Rome - Google Art Project
และเมื่อเวลาผ่านไป ผ่านไป
โรมันฟอรัม ก็ถูกละเลยละทิ้งไปตามธรรมดาโลก แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มหนึ่งเข้าไปใช้พื้นที่ซึ่งปรักหักพังร้างโดยนำมาเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์
นี่คือเรื่องจริงนะ และก็มีคนบันทึกช่วงเวลาของโรมันฟอรัมในช่วงนี้ไว้ด้วย เป็นภาพสวย ๆ โรแมนติก มีฝูงวัวอยู่ตรงโน้นตรงนี้ มีซากงาม ๆ เป็นฉาก ดูงามดีแต่ก็เป็นความเศร้าสลดสำหรับช่วงเวลาตกต่ำสุดขีดของโบราณสถานแห่งนี้
ภาพด้านล่าง สังเกตดีๆจะเห็นว่ามันเป็นฝูงแกะ
https://smarthistory.org/forum-romanum-the-roman-forum/
https://en.wikipedia.org/wiki/Roman_Forum
ในศตวรรษนี้ โรมันฟอรัมได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลกเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ไปแล้ว แต่ก็ต้องทำใจนะเพราะตอนนี้มันกลายเป็นซากของซาก มาถึงแล้วจงจินตนาการเอาเยอะๆ ท่านก็จะได้เห็นชาวเมือง จักรพรรดิ นักบวช หรือฝูงวัว แล้วแต่ใจจะพาเพริดไกลไปยุคไหน
หวังว่าท่านคงจะสำราญใจกับบทความนี้ แล้วมาเจอกันอีกตอนต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา