Blockdit Logo (Mobile)
The Last karuda
•
27 ต.ค. 2023 เวลา 06:15 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

ในวันที่ 20 ของการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลและฮามาส มีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้น

ตั้งแต่เย็นวันที่ 25 ถึงเช้าตรู่ของวันที่ 26 กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล
ได้เปิดฉากการโจมตีภาคพื้นดินขนาดใหญ่ในฉนวนกาซา
ตอนนี้มันเริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว ความสามารถในการรบภาคพื้นดินของฮามาสมีอะไรบ้าง?
กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลประกาศว่า
สมาชิกกองกำลังพิเศษหนึ่งคนถูกสังหารและบาดเจ็บสองคน
ในการสู้รบระหว่างรถถังอิสราเอลกับกองกำลังพิเศษกับกลุ่มฮามาสในข่านยูนิส
นอกจากนี้ กองกำลังภาคพื้นดินของอิสราเอลยังยิงใส่กลุ่มติดอาวุธฮามาสในราฟาห์
โชคไม่ดีที่กระสุนรถถังของอิสราเอลโจมตีที่มั่นของอียิปต์ที่ชายแดน เคเรม
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าความเหนือกว่าทางอากาศของอิสราเอลจะแข็งแกร่งเพียงใด
แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยข้อบกพร่องในการรบภาคพื้นดินได้ แม้ว่าอิสราเอลจะไม่ได้ทำสงครามภาคพื้นดินเต็มรูปแบบ
แต่ก็เห็นได้จากการเผชิญหน้าสองครั้งข้างต้นว่าความแข็งแกร่งในการทำสงครามภาคพื้นดินของฮามาสเป็นปัญหาใหญ่อย่างเห็นได้ชัด
ที่น่าสนใจ คือ ฮามาสไม่ได้ลดการป้องกันลงเลย
1
ท้ายที่สุด ฉนวนกาซาไม่มีความคืบหน้าเลย ดังนั้นกลุ่มฮามาสจึงควรใช้การสกัดกั้นแบบทีละชั้น
กองทัพอิสราเอลต้องเผชิญกับการป้องกันและการซุ่มโจมตีหลายชั้นของฮามาส
และแม้แต่กองกำลังพิเศษก็ทำห่าเหวอะไรไม่ได้ เป็นไปได้ว่าความสูญเสียต่ออิสราเอลเมื่อกองทหารเข้าสู่ฉนวนกาซาจะมีไม่น้อย
สำหรับกลุ่มฮามาส กระสุนสำรองในปัจจุบัน(ของจรวดยิงหนัก)ยังไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด
ตามรายงานของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล กลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลแล้วรวมประมาณ 7,000 ลูกนับตั้งแต่เริ่มสงคราม
1
ซึ่งหมายความว่า หลังจากยิงไปแล้วเกือบ 5,000 ลูก จรวดในวันแรกของการโจมตี ฮามาสยิงจรวดใส่อิสราเอลไปเพียง 3,000 ลูก
เห็นได้ชัดว่าความสามารถในการโจมตีระยะไกล นับเป็น1ในข้อบกพร่องของฮามาส
ด้วยกลุ่มฮามาสยังมีความขัดแย้งภาคพื้นดินกับอิสราเอลน้อยมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
คาดการณ์ได้ว่า ขนาดจำนวนของอาวุธเบาในมือของกลุ่มฮามาสจะมีไม่น้อยเลย(เพราะยังไม่ได้เอาออกมาใช้) ฮาาาา
1
ดังนั้น สงครามภาคพื้นดินของอิสราเอลถือว่าเป็นพื้นที่ที่กลุ่มฮามาสมีกำลังแข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน
ทำไมน่ะหรือครับ กลุ่มฮามาสเตรียมการโจมตีภาคพื้นดินต่ออิสราเอลมาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซุ่มโจมตี การโจมตี หรือการล่าถอย
กลุ่มฮามาสจึงมีทางเลือกมากมาย
1
แม้ว่าอิสราเอลจะประกาศการปิดล้อมฉนวนกาซาโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากมากที่จะกำจัดกลุ่มฮามาสให้หมดสิ้น
ดังคำกล่าวที่ว่า ตะขาบไม่มีวันตาย ไม่ต้องพูดถึงว่านั่นคือดินแดนของฮามาส
ขณะนี้อิสราเอลกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากนานาชาติอย่างมาก และต้องจบการเปิดสงครามภาคพื้นดินได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น
สถานการณ์ปัจจุบันเลวร้ายมากสำหรับอิสราเอล
เนื่องจากกลุ่มฮามาสใช้การปล่อยตัวตัวประกันชาวอเมริกันเพื่อเป็นช่องโจมตีกองทัพอิสราเอล
กล่าวคือ หลังจากที่ฮามาสปล่อยตัวประกัน สังคมตะวันตกก็หวังที่จะชะลอปฏิบัติการภาคพื้นดินด้วยการกดดันอิสราเอล
เพื่อให้ฮามาสปล่อยตัวประกันได้มากขึ้น หลายคนถึงกับหวังว่าอิสราเอลจะหยุดทำสงครามภาคพื้นดินด้วยซ้ำ
ต่อมา ผนวกกับการประท้วงปะทุขึ้นในกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้หยุดยิงและส่งคืนตัวประกันที่กลุ่มฮามาสจับไว้
1
ขณะนี้สำหรับทางการอิสราเอลมีทั้งผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้าม
การเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลในฉนวนกาซาอาจกล่าวได้ว่าเป็น "ปัญหาภายในและภายนอก"
และ หากสงครามภาคพื้นดินทำให้อิสราเอลตกอยู่ในหล่มสงคราม สถานการณ์ที่อิสราเอลเผชิญจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
เพราะยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสที่กองกำลังภายนอกเข้ามาแทรกแซงมากขึ้นเท่านั้น
2
ปัจจุบัน อิสราเอลยังไม่ได้ทำสงครามภาคพื้นดินและตะวันออกกลางก็ดันตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายแล้ว
ไม่เพียงแต่ อิสราเอลตอนเหนือถูกโจมตีโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เท่านั้น
แต่แม้แต่ทรัพย์สินทางทหารของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางยังได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยจรวดหลายครั้งอีกด้วย
เป็นไปได้ว่าหากอิสราเอลและฮามาสทำสงครามภาคพื้นดินในช่วงครึ่งปีแรก ก็ยังยากที่จะบอกว่าตะวันออกกลางจะเกิดความสับสนวุ่นวายแบบใด
แล้วงานนี้ อิสราเอลจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างไรหากเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินล้มเหลว และยืดเยื้อในที่สุด?
นั่นคือ แม้ว่าอิสราเอลจะมีประชากรเกือบ 10 ล้านคน แต่ก็มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2.3 ล้านคนในฉนวนกาซา และ 3 ล้านคนในเขตเวสต์แบงก์
เมื่ออาวุธจำนวนมากไหลเข้าสู่ปาเลสไตน์ อิสราเอลจะเผชิญกับแรงกดดันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ชัยชนะอันน่าสลดใจ เป็นสถานการณ์ที่อิสราเอลไม่ต้องการเห็นอย่างแน่นอน
1
แม้ว่าอิสราเอลจะไม่ได้เผชิญกับสงครามในตะวันออกกลาง แต่ความเสี่ยงที่จะล้นจากสงครามครั้งนี้ก็ยังมีไม่น้อย และนี่ก็ผ่านมา 40 ปีแล้วนับตั้งแต่สงครามตะวันออกกลางครั้งล่าสุด
1
ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ในตะวันออกกลางมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริกามีการปรับปรุงที่ดีขึ้น
แต่ในภูมิภาคนี้อำนาจของอิหร่านไม่อาจประมาทได้
1
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อิหร่านมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านขีปนาวุธและโดรน และมีการผลิตอาวุธจำนวนมากและใช้ในการรบจริง
เมื่ออิหร่านดำเนินการในภูมิภาคนี้ มันจะทำให้อิสราเอลอึดอัดอย่างมาก
เมื่ออิสราเอลถอนทหารอย่างเร่งรีบ อิหร่านก็จะมีโอกาสที่ดีในการยกระดับสถานะของตนในตะวันออกกลางไปในตัว
หากอิสราเอลไม่สามารถบรรลุชัยชนะอย่างเด็ดขาดในฉนวนกาซาได้ ก็จะเปลี่ยนทัศนคติของโลกอาหรับทั้งหมดที่มีต่ออิสราเอลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ อิสราเอลจะมีปัญหามากขึ้นในตะวันออกกลางในอนาคต
ดังนั้น เราสามารถสรุปได้ว่าความเสี่ยงที่อิสราเอลต้องเผชิญหากไม่ทำสงครามภาคพื้นดินนั้นน้อยกว่าความเสี่ยงที่อิสราเอลไม่ทำสงครามภาคพื้นดินมากนัก
ดังนั้นสงครามครั้งนี้จึงเป็นสงครามที่อิสราเอลไม่สามารถที่จะพ่ายแพ้ได้
และมีโอกาสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่อิสราเอลจะพ่ายแพ้ เนื่องจากสหรัฐฯ ก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้นี้เช่นกัน ฮาาาา
ดูจากผลงานของกองกำลังอิหร่านในครั้งนี้ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่รู้สึกรำค๊าน รำคาญ จนรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศจะเพิ่มทรัพย์สินทางทหารของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง
จุดประสงค์คือเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากอิหร่าน นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาสามารถหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าหมายทางทหารโดยการเพิ่มทรัพย์สินทางทหารได้หรือไม่
นี่คือทางตันในตะวันออกกลาง
กองกำลังติดอาวุธบางแห่งจะไม่กล้าโจมตีสหรัฐฯ เพียงเพราะสหรัฐฯ ยังคงรักษากองกำลังทหารที่เข้มแข็งในตะวันออกกลาง
คุณต้องรู้ว่าในตะวันออกกลาง แหล่งที่มาของความขัดแย้งไม่ได้เป็นเพียงการยึดครองดินแดนเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงความขัดแย้งที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างอื่นๆอีกด้วย
และยังเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางศรัทธาและเชื้อชาติเพิ่มเติมเข้าไป
1
โศกนาฏกรรมของมนุษย์กำลังเกิดขึ้นในฉนวนกาซา ความยาวนานนี้...ชาวปาเลสไตน์อาจไม่รู้ว่าความทุกข์ทรมานที่เกิดจากสงครามจะสิ้นสุดลงเมื่อใด
โฆษณา