31 ต.ค. 2023 เวลา 08:39 • ไลฟ์สไตล์

_ต้องสู้แม้จะไม่ชนะ_EP10

ผ่านมาจะหนึ่งสัปดาห์หลังจากเงินเดือนออก ตอนนี้ก็จัดแจงเงินใช้จ่ายออกมาแล้วเรียบร้อย พร้อมเงินใช้หนี้เงินต่าง ๆ ก็เสร็จสมหมดแล้วเช่นกัน โดยเดือนนี้เคาะแล้วจะใช้เงินทั้งหมดต้องไม่เกินห้าพันบาท จากยอดคำนวณที่ตั้งไว้จริงที่ห้าพันสองร้อยบาทตามการคำนวณวันใช้จริง ซึ่งแม้จะเป็นแค่การจัดการเบื้องต้น แต่ก็จะพยายามทำให้รัดกุมที่สุด แต่ก็วางให้รู้สึกว่าแน่นจนหายใจไม่ออก
ตารางการคำนวณจริงของค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของแต่ละเดือนซึ่งจะไม่ซ้ำกัน
หลังจากเงินออก การแบ่งเงินก็แบ่งออกตามกฏที่ตั้งไว้กับตัวเองเลย คือ วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ใช้จ่ายวันละหนึ่งร้อยบาท แต่จะมีเฉพาะวันจันทร์ และ วันศุกร์ ที่จะมีการเพิ่มค่าน้ำมันรถไปอีก หนึ่งร้อยบาท ซึ่งจะได้เติมหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าสัปดาห์นั้นได้ใช้รถบ่อยแค่ไหน (มอเตอร์ไซต์) ถ้าอาทิตย์ไหนอยู่บนดอยไม่ได้ลงไปบ้านในเมือง ก็จะประหยัดค่าน้ำมันจุดนี้ไปถึงสองร้อยบาทจากวันจันทร์และวันศุกร์ ละในส่วนของวันเสาร์ และ อาทิตย์ ก็จะใช้วันละสองร้อยบาท ซึ่งหากใช้ชีวิตบนดอยก็จะเสียไม่เยอะ
ส่วนตัวคิดว่าการบริหารแบบเผื่อออมแบบนี้มีผลดีกับสุขภาพจิตตัวเองมากกว่าการหักออมออกจากยอดก้อนเงินแล้วใช้จ่ายแบบเพียว ๆ มากกว่า เพราะแบบนี้เรายังพอจะลดความตึงเครียสทางความคิดลงได้บ้าง เนื่องจากเงินจะค่อนข้างขยับไปมาได้ แต่ถ้าเป็นแบบหักเงินออมออกจากก้อนเงินหลักไปเลย แบบนั้นอาจจะมีความรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะตึงไปสำหรับเราที่เป็นคนมีนิสัยแพนิคอ่อน ๆ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ถ้าเราใช้เงินตึง ๆ มือไปเลยเวลาเราต้องออกหน้างานฉุกเฉินเราจะมีเงินพอสำรองจ่ายไหม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเงินหลังจากหักค่าใช้จ่ายห้าพันบาทไปแล้วจะยังเหลืออีกประมาณ สองพันบาท ซึ่งเงินตรงนี้จะเป็นกองทุนในการใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจจะนอกเหนือของนอกเหนือของเงินอีกที เป็นเหมือนจุดรับแรงปะทะชั้นนอกสุดก่อนที่จะมาเอาเงินออมออกไปใช้จ่ายสำรองในเดือนนั้น ๆ โดยจะอธิบายง่าย ๆ คือ
1) เงินเดือน[1] - หนี้สิ้น = เงินที่จะเอามาใช้จ่ายในเดือนนั้นหรือ เงินใช้-[2]
2) เงินใช้[2] - เงินรายวัน 5,000 บาท = เงินเก็บ -[3]
3) เงินรายวัน - ใช้จ่ายจริงในวันนั้น ๆ = เงินออม -[4]
ในแต่ละวันก็จะมีการหยิบเงินออกมาจากซองเก็บใส่กระเป๋าหนึ่งร้อยบาท
เงินรายวัน - คือเงิน ที่ใช้วันละ หนึ่งร้อยบาทไม่ขาดไม่เกิน ถ้าวันนั้นกินข้าวหกสิบบาท ก็จะเหลือเงิน สี่สิบบาท ยกไปเป็นเงินออมของวันนั้น ๆ ไป แต่หากวันไหนไม่ได้ใช้ หรือที่ทำงานมีงานประชุมหรืองานที่ต้องเลี้ยงอาหารรับรอง เราก็จะประหยัดวันนั้น ๆ ไปเลยหนึ่งร้อยบาท หรือไม่ก็จากการที่พ่อทำกับข้าวฝากมาให้เราก็จะเหลือเงินจากตรงนี้ไปเลยเพราะไม่ต้องซื้อข้าวกินตอนกลางวัน(เป็นคนกินข้าววันละมื้อ) ซึ่งในกรณีวัน เสาร์ และ อาทิตย์ ที่ลงไปอยู่บ้านในเมือง สองวันนั้นก็จะมีการอัพค่าเงินให้เป็นสองร้อยบาทต่อวัน
เงินออมที่เหลือจากเงินใช้รายวันที่บางวันก็ไม่ได้ใช้เลยสักบาท
เงินออม - คือเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายรายวัน ซึ่งจะเหลือมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการใช้เงินในวันนั้น ๆ ว่าฟุ่มเฟือยหรือประหยัดมากน้อยแค่ไหน หากโดยปกติแล้วจะเหลือประมาณสี่สิบบาทต่อวัน เพราะข้าวร้านอาหารตามสั่งจะขายในราคาหกสิบบาทต่อจาน ฉะนั้นเลยมีเงินเหลือพอประมาณเพื่อเก็บออมไว้ใช้ในการโปะหนี้บัตรตอนช่วงสิ้นเดือนอีกทางเช่นกัน ซึ่งเงินก้อนนี้จะเป็นเหมือนกันชนชั้นที่สองต่อจากเงินเก็บ ในกรณีที่เดือนนั้น ๆ ใช้เงินจากภาวะฉุกเฉินจนเงินเก็บหมด แล้วยังต้องใช้เงินอีกก็จะมีการดึงเงินออมส่วนนี้ออกไปช่วยจ่าย
วันไหนที่มีการตั้งยอดเติมน้ำมัน จะมีการพับแบงค์ร้อยใส่ไปช่องของวันนั้น ๆ เพิ่มอีก
เงินใช้จ่ายหมวดค่าน้ำมัน - ซึ่งจะมีให้ในวัน ศุกร์ และวันจันทร์ ในกรณีต้องเดินทางเพื่อที่ว่าเงินส่วนนี้จะไม่ไปกระทบเงินรายวันหากเกิดการเติมน้ำมันเกิดขึ้น แต่ก็สามารถโยกไปมาในระหว่างของอาทิตย์ได้ในกรณีที่ว่ามีการเติมน้ำมันเกิดขึ้นวันใดวันหนึ่งในอาทิตย์นั้น ๆ เช่นต้องเติมวันพุธ ก็จะทำการดึงค่าน้ำมันจากวัน ศุกร์มาเติมให้วันพุธแทน และหากว่าวันศุกร์ต้องเติมอีกก็จะดึงเงินน้ำมันในส่วนของวันจันทร์ถัดไปใช้แทน แต่หากกรณีเงินค่าน้ำมันก้อนนี้มีการดึงใช้ขยับจนสิ้นเดือนไม่พอก็จะดึงเอาเงินเก็บออกมาใช้จ่ายแทน
เงินเก็บ -คือเงินเดือนหลังจ่ายหนี้หมดหักด้วยเงินใช้จ่ายรายวันไปแล้ว เงินส่วนนี้จะเป็นเงินที่มีไว้เพื่อเป็นกันชนค่าใช้จ่ายแรกในกรณีต้องมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการกินใช้รายวัน เช่นเงินเลี้ยงข้าวลูกน้อง เงินค่าสั่งของออนไลน์ หรือเงินซื้อข้าวสารอาหารแห้ง ก็จะใช้เงินก้อนนี้ออกไปก่อน เช่นเดือนนี้มีการเปลี่ยน สเตอร์พร้อมโซ่รถมอเตอร์ไซค์ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตรงนี้ก็จะหักออกจากเงินเก็บตรงนี้ไปก่อน ซึ่งหากเงินเก็บไม่พอจ่ายฉุกเฉิน ก็จะมีการดึงเอาเงินออมเดือนนั้น ๆ ออกมาใช้จ่ายเสริมเข้าไป
กรณีสิ้นเดือนมาถึง จะมีการรวมเอาเงินทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันแล้วจ่ายโป๊ะหนี้ไปเรื่อย ๆ โดยจะมีการยืนค่าเงินหลักจ่ายหนี้ไว้ที่สามพันบาท แล้วรวมเข้ากับเงินออมตลอดทั้งเดือน และเงินเก็บที่เหลือจากค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของตลอดทั้งเดือน ฉะนั้นในเดือน หนึ่ง ๆ เราจะมีเงินจ่ายหนี้ไม่ต่ำกว่า สี่พันบาท ซึ่งอันนี้ก็ต้องปรับไปตามแต่สถานการณ์อีกที
เก็บ ๆ ออม ๆ ไปเถอะดีกว่าไม่ทำไร ห้าบาทสิบบาทก็ออมไป
บอกตัวเองในวันที่ใช้เงินเกินหกสิบบาทแต่ยังไม่ถึงร้อย
โฆษณา