Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เหลาจนคม
•
ติดตาม
13 พ.ย. 2023 เวลา 14:55 • ประวัติศาสตร์
เปิดประวัติการแปรอักษรในประเทศไทย
การแปรอักษร เป็นลำดับการปฏิบัติมีการวางแผนและประสานงานที่ผู้ชมแสดง โดยมีสมาชิกยกป้ายซึ่งเมื่อรวมกันแล้วสร้างเป็นภาพที่รับรู้ได้ ภาพที่สร้างนั้นมีได้หลากหลายและด้วยการวางแผนอย่างระวัง ป้ายเดียวกันสามารถสร้างภาพต่าง ๆ กันได้โดยเปลี่ยนวิธีการยกป้ายอย่างเป็นระบบ
แม้ปัจจุบันมีการแสดงการแปรอักษรในหลายงานตั้งแต่กีฬาไปจนการชุมนุมทางการเมือง การแปรอักษรมักสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอเมริกันฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอลวิทยาลัย ตลอดจนฟุตบอล ทว่า เทศกาลอารีรังของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกที่ขยายการแปรอักษรเป็นรูปแบบศิลปะ โดยใช้ป้ายสมุดพลิกเพื่อสร้างลำดับแอนิเมชันมหึมานานนับชั่วโมง
บุคคลสำคัญที่เป็นผู้ริเริ่มการแปรอักษรในประเทศไทยคือ เฉิด สุดารา ครูโรงเรียนอัสสัมชัญ (ในขณะนั้น) หรือเด็กอัสสัมชัญจะเรียกท่านว่า "มาสเตอร์เฉิด สุดารา"
ในปี พ.ศ. 2485 มีการแปรอักษรเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในการแข่งขันฟุตบอลรุ่นกลางชิงชนะเลิศระหว่างทีมโรงเรียนอัสสัมชัญกับทีมโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ความเป็นผู้มีพรสวรรค์ในทางศิลปะ ทำให้มาสเตอร์เฉิด สุดารา สามารถมองสิ่งต่าง ๆ ออกมาไม่เหมือนคนอื่น ๆ และนี้ก็คือต้นเหตุของการเกิดความคิดในการแปรอักษรขึ้น ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงแห่งสงคราม ผ้าหายากมาก เสื้อที่ใส่กันส่วนมากจึงมีอยู่ไม่กี่สี
วันหนึ่ง มาสเตอร์เฉิดสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่ง แต่งตัวด้วยเสื้อสีฟ้านั่งกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ จึงเกิดความคิดว่า ถ้านำเอาคนที่แต่งตัวเหมือน ๆ กัน มานั่งเป็นกลุ่มและจัดให้เป็นสัญลักษณ์อะไรก็คงจะทำได้ เวลานั้นโรงเรียนอัสสัมชัญมีการแต่งกายของนักเรียนอยู่ 2 แบบ คือ พวกเป็น “ยุวชนทหาร” จะแต่งเครื่องแบบยุวชนทหาร ส่วนพวกที่ไม่เป็นยุวชนทหารก็จะแต่งตัวด้วย “เสื้อราชประแตนสีขาว” และใส่หมวกกะโล่สีขาวด้วย
มาสเตอร์เฉิดจึงได้จัดตัวอักษรขึ้นเป็นครั้งแรก โดยการนำเอานักเรียนที่แต่งสีขาวไปรวมกันไว้ตอนบนของอัฒจันทร์ก่อน แล้วนำนักเรียนลงมาทีละกลุ่ม ค่อย ๆ จัดให้นั่งเรียงกันขึ้นเป็นตัวอักษร “อสช” แล้วจึงให้พวกแต่งยุวชนทหารเข้านั่งในที่ว่างให้เต็มจึงทำให้ออกมาเป็นตัวอักษร “อสช” ที่สวยและชัดมาก
1
ในเวลาต่อมา ก็ยังไม่มีโรงเรียนอื่นจัดทำเรื่องการแปรอักษร เมื่อเครื่องแบบนักเรียนเปลี่ยนไปเป็นสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน การแปรอักษรจึงจัดโดยการให้นักเรียนที่นั่งเป็นตัวอักษรใส่เสื้อยืดสีแดงสน และได้เริ่มมีการแปรอักษรมากกว่า 1 ตัว โดยทำเป็นตัวอักษร “AC และ อสช”
ปี พ.ศ. 2489 มีการแข่งขันชิงชนะเลิศฟุตบอลรุ่นกลางระหว่าง โรงเรียนอัสสัมชัญ กับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ตอนนั้นเสื้อยืดมีราคาแพงมาก โรงเรียนจึงได้จัดการแปรอักษรโดยใช้การใช้กระดาษสีแดงกลัดติดหน้าอกเสื้อนักเรียนนั่งเป็นตัวอักษร จึงทำให้ได้ตัวอักษรออกมาไม่สู้ชัดเจนนัก
วิวัฒนาการของการจัดตัวอักษรก้าวต่อไปอีก มาสเตอร์เฉิดจัดให้มีการเคลื่อนไหวขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง โดยการแปรอักษร “อสช” และ “ACC”เมื่อใกล้จะจบการแข่งขัน ยังได้มีการนำผู้นั่งเป็นตัวอักษรทั้งหมดขึ้นไปยังอัฒจันทร์ชั้นสูงสุด ส่วนผู้ที่นั่งเป็นสีพื้นนั้นก็เคลื่อนที่เข้ามานั่งจนเต็ม
เมื่อถึงเวลาที่ก่อนจะจบการแข่งขัน ก็จะขยับเลื่อนออกเป็นช่วงแล้วให้ผู้ใส่เสื้อที่เป็นตัวอักษร วิ่งลงมาในช่วงที่แยกออกนั้นเป็นตัวอักษร “V” (Victory) โดยนำมาจากสัญลักษณ์ชูสองนิ้วที่ท่านเชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษขณะนั้น ได้แสดงถึงชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาได้มีโรงเรียนอื่น ๆ เช่น โรงเรียนช่างกลปทุมวัน โรงเรียนศิริศาสตร์ ก็ได้จัดการแปรอักษรร่วมกัน
ปี พ.ศ. 2495 มีการแข่งขันชิงชนะเลิศฟุตบอลรุ่นเล็กระหว่างโรงเรียนอัสสัมชัญกับโรงเรียนช่างอากาศอำรุง มาสเตอร์เฉิดได้จัดการแปรอักษร โดยทำให้มีลักษณะเหมือนการเขียนตัวหนังสือ
โดยให้นักเรียนที่นั่งเป็นตัวอักษรใส่เสื้อยืดสีแดง แต่เอาเสื้อนักเรียนสีขาวคลุมไว้ข้างนอก โดยปิดไม่ให้สีแดงลอดออกมา เทคนิคอยู่ที่การให้ใส่เสื้อสีขาวนั้นกลับจากหน้าไปหลัง ซึ่งนอกจากปิดได้มิดถึงคอแล้ว เวลาถอดเสื้อยังดึงออกได้ง่ายอีกด้วย เวลาเปิดตัวอักษร จะค่อย ๆ ถอดเสื้อข่าวออกไล่กันไปตามลักษณะการเขียนตัวอักษร ซึ่งจะทำให้ดูเหมือนการเขียนตัวอักษรเลยทีเดียว
การแปรอักษรเป็นลักษณะที่มีรูปประกอบนอกเหนือไปจากตัวหนังสือเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2496 โดยการแข่งขันฟุตบอลชิงชนะเลิศรุ่นใหญ่ระหว่างโรงเรียนอัสสัมชัญกับโรงเรียนช่างกลปทุมวัน โดยโรงเรียนช่างกลฯ จัดเป็น “รูปเกียร์” และมีอักษร “ชก” อยู่ตรงกลาง ขณะที่โรงเรียนอัสสัมชัญจัดเป็นตัวอักษรโดยให้มีการเคลื่อนไหวแบบเขียนอยู่เช่นเดิม และการแปรอักษรในระดับโรงเรียนคงรูปแบบเดิม ๆ ต่อมาอีกเป็นเวลานาน
ต่อมาการแปรอักษรในประเทศไทยได้มีวิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ เช่นการแปรอักษรในการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจตุรมิตรสามัคคี การแปรอักษรในการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ มาสเตอร์เฉิด สุดารา จึงได้รับการยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งการแปรอักษรของไทย"
แหล่งที่มาและเรียบเรียง
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3
http://bellzuyu.blogspot.com/2012/11/blog-post_26.html
ประวัติศาสตร์
ไทย
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย