Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เหลาจนคม
•
ติดตาม
16 พ.ย. 2023 เวลา 19:22 • ประวัติศาสตร์
ไข่เจียว เมนูเบสิค แต่ก็มีประวัติศาสตร์นะ
ไข่เจียว เมนูอาหารง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ทุกคน ไข่เจียวเป็นอาหารที่ทำง่าย วัตถุดิบก็หาง่าย ขึ้นอยู่กับสูตรการทำของแต่ละคน
ไข่เจียวของบ้านเราก็ยังเป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยเฉพาะเมนูไข่เจียวที่คนทั่วโลกที่กำลังมาเที่ยวไทยจะต้องมาทานให้ได้สักครั้งนึงในชีวิต นั่นก็คือ "ไข่เจียวปู" ของ "เจ๊ไฝ" ซึ่งร้านของเจ๊ไฝอยู่ย่านประตูผี ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว
ลิซ่า BLACKPINK ก็ยังโชว์เล่นใหญ่ ด้วยการทอดไข่เจียว โปะข้าวสวยร้อนๆ บนโล่เงินที่ได้รับมอบจากแอพฟังเพลงชื่อดังอย่าง "Spotify" หรือแม่พุตตานในละครพรหมลิขิต ทำไข่เจียวป้อนให้พ่อริดกิน ฟินกันทั้งเมือง
แต่รู้หรือไม่ว่า ไข่เจียว เมนูง่ายๆ ก็มีประวัติศาสตร์ มีที่ไปที่มา เช่นกันครับ
แม้ที่มาของไข่เจียวจะเชื่อมโยงกับหลายคน เชื่อมโยงกับอาหารหลายจาน ทว่ามีหลักฐานและตำนานมากมายล้วนเชื่อมโยงไปที่ชาวฝรั่งเศส โดยเชื่อกันว่าชาวโรมันเป็นคนแรกที่ทำไข่เจียวขึ้น เนื่องจากชาวโรมันโบราณเริ่มนำไข่กับน้ำผึ้งหวานผสมเข้ากัน และเรียกไข่ที่ทำขึ้นนี้ว่า "ovemele" ซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกับคำว่า omelet ในปัจจุบัน
ต่อมา Charles Ranhofer พ่อครัวของ Delmonico ได้เริ่มทำไข่เจียวและเรียกอาหารจานนี้ว่า "Alaska, Florida" ในปี 1894 ความแตกต่างระหว่างองค์ประกอบเย็นและร้อนในการปรุงอาหารเริ่มเป็นที่นิยม ไข่เจียวจานนี้จึงถูกเรียกว่า Omelet à la norvégienne หรือ "ไข่เจียวนอร์เวย์" ซึ่งหมายถึงสภาพอากาศหนาวเย็นของนอร์เวย์
ในทำนองเดียวกันเรื่องเล่ายอดนิยมเรื่องหนึ่งได้เล่าขานต่อ ๆ กันมาว่า ประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของไข่เจียว (และในตำนาน) เกิดจาก นโปเลียน โบนาปาร์ต และกองทัพของเขา ระหว่างเดินทางผ่านเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง นโปเลียน ได้ตัดสินใจเข้าพักในโรงเตี๊ยมท้องถิ่น ที่นั่นเสิร์ฟไข่เจียวเป็นอาหารเช้าให้เขา ทันที่ได้ชิม นโปเลียน จึงประทับใจมาก และสั่งให้รวบรวมไข่ทั้งหมดในเมืองเพื่อนำมาทำไข่เจียวยักษ์ให้กับทหารในกองทัพของเขาได้กินในวันรุ่งขึ้น
และเรื่องนี้ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลประจำปีในเมือง Bessieres ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทุก ๆ ปีจะมีการทำไข่เจียวขนาดยักษ์ให้ชาวเมืองทุกคนได้ลิ้มลอง
นายพลในกองทัพชื่อ Tomás de Zumalacárregui เป็นหนึ่งในผู้คิดค้นและทำให้ไข่เจียวกลายเป็นอาหารที่ทำได้ง่าย ๆ เนื่องจากเขาได้เริ่มทำไข่เจียวให้แก่ทหารของเขาได้กินระหว่างการบุกโจมตีเมืองบิลเบา และอีกเรื่องหนึ่งระบุว่าที่จริงแล้วแม่บ้านชาวไร่ยากจน คือผู้คิดค้นอาหารจานนี้ เนื่องจากเธอทำไข่เจียวให้นายพลที่เดินทางผ่านฟาร์มได้กิน ไข่เจียวจึงกลายเป็นที่รู้จัก
ในปี ค.ศ. 1804 นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน Benjamin Thompson Rumford ผู้คิดค้นอุปกรณ์ทำอาหาร อาทิหม้อต้มน้ำสองชั้นและเครื่องต้มกาแฟ ได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความทนทานของไข่ขาวที่มีต่อความร้อน ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ค้นพบขนมชนิดใหม่ และตั้งชื่อว่า 'omelette surprise'
ข้ามทวีปมาที่ประเทศจีน พ่อครัวชาวจีนที่ทำงานบนทางรถไฟได้เริ่มนำไข่เจียวมาคั่นระหว่างขนมปัง 2 แผ่น เพื่อให้คนเดินทาง พนักงาน หรือคนงานกินได้ง่ายขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปไข่เจียวที่เสิร์ฟพร้อมขนมปังก็พัฒนาเป็นไข่เจียวที่เสิร์ฟโดยไม่มีขนมปัง
ในประเทศไทย “จดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวี” ระบุว่า ไข่เจียวเป็นอาหารชนิดหนึ่ง ที่จัดเป็นสำรับไว้ในพระราชพิธีสมโภชพระแก้วมรกต และฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในสมัยรัชกาลที่ 1
สันนิษฐานว่า ไข่เจียวน่าจะมีมาก่อนหน้านั้น อาจจะมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในช่วงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่เริ่มติดต่อค้าขายกับฝรั่งเศส (ออมเล็ตเป็นอาหารยอดนิยมของฝรั่งเศส) เมนูออมเล็ตจึงน่าจะเข้ามาพร้อมกับชาวคณะราชทูตนั่นเอง ประกอบกับสยามก็มีการใช้กระทะเหล็กจากจีนมานานแล้ว การทำเมนูออมเล็ตจึงไม่ใช่เรื่องยาก วัตถุดิบในบ้านเราก็มากมี
เริ่มจากเป็นอาหารชาววัง และเผยแพร่กรรมวิธีการทำไข่เจียวสู่สาธารณะชนในภายหลัง อย่างสูตรไข่เจียวชาววังจากหนังสือ "ตำรับสายเยาวภา" นั้น ระบุว่าทำโดย “ตี (ไข่) ให้ฟูก่อนจึงค่อยเจียว เวลาเจียวไม่ควรกลับ ใช้จ่าหลิว(ตะหลิว)แซะข้างกระทะ เพื่อให้ไข่ที่ยังไม่สุกจะได้ไหลออก ทิ้งไว้ให้เหลือง จึงพับสอง ตักใส่จาน…”
ในขณะที่การทำ ออมเล็ต ก็ใช้วิธีคล้ายๆ กันคือ ตีไข่ให้ฟู ใส่นม เนย หรือวัตถุดิบอื่นที่อยากรับประทาน ลงในกระทะ ทอดจนพองสุกพองามแล้วแซะจากข้างกระทะแล้วพับครึ่งยกเสิร์ฟ แต่ที่นิยมกันในโรงแรมมักทำให้เป็นแบบออมเล็ตไข่ม้วน ดูอวบกลมกลึงน่ารับประทาน
ปัจจุบันไข่เจียวทั่วไปที่ทำกันจะไม่มีการพับเหมือนกับตำรับชาววังแล้ว เน้นเรียบง่าย สะดวกสบาย แต่ยังคงรสชาติความอร่อยไว้เหมือนเดิม และ ไข่เจียว น่าจะเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่เชื่อว่าทุกคนในโลกสามารถทำกินเองได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาฝีมือประกอบอาหารมากนัก รับประทานคู่กับแกงส้ม ต้มจืด ผัดกะเพรา หรือรับประทานคู่กับน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากันก็อร่อย
ทั้งนี้ คำว่า "เจียว" จากเว็บไซต์ของชุมชนชาวฮากกา ซึ่งอ้างอิงถึงข้อมูลใน จดหมายข่าว อาศรมสยาม-จีนวิทยา ฉบับที่ 28 (ธันวาคม พ.ศ. 2547) อธิบายว่า “เจียว” (焦) เป็นคำภาษาจีนแต้จิ๋ว หมายถึง ความกรอบและไหม้ของอาหารหรือของทั่วไป ซึ่งทำด้วยการใช้น้ำมันร้อนในปริมาณที่ไม่มาก
คำว่า “เจียว” จึงน่าจะเป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ใช้ในบริบทการทอดอาหารให้สุกในน้ำมันร้อน ๆ
แน่นอนอยู่แล้ว คำว่า "เจียว" รับมาจากภาษาจีน และ "กระทะเหล็ก" เครื่องครัวที่คนไทยเราใช้กันประจำ ก็รับมาจากจีน มีหลักฐานปรากฎว่ากระทะเหล็กแบบจีนนี้เคยพบที่แหล่งเรือสำเภาจมในอ่าวไทย ใกล้เกาะคราม อำเภอสัตหีบ ชลบุรี ตั้งแต่ พ.ศ. 2518 กำหนดอายุได้ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 20 เป็นสินค้าที่กรุงศรีอยุธยานำเข้าจากจีน เพื่อจะส่งไปขายต่อยังแหล่งรับซื้ออื่นๆ การค้นพบนี้ยืนยันอิทธิพลวัฒนธรรมอาหารและการครัวแบบจีน ที่น่าจะส่งผลให้เกิดโลกาภิวัตน์ด้านอาหารระลอกแรกๆ ในดินแดนอุษาคเนย์
แหล่งที่มาและเรียบเรียง :
https://creator.kapook.com/view261230.html
https://www.readspread.com/read-knowledge/omelett/
https://www.silpa-mag.com/culture/article_121903
https://www.silpa-mag.com/from-the-fingertip/article_11364
ประวัติศาสตร์
อาหาร
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย