20 พ.ย. 2023 เวลา 09:17 • ธุรกิจ

Sirisoft บริษัทไอทีที่ไม่ได้โตแค่กำไร ให้ทุกคนมี Learning Path ไปด้วยกัน

“คนทุกคนคือคน คนทุกคนอยากสำเร็จ คนทุกคนอยากเติบโต”
คำข้างต้นคือประโยคจากบทสนทนาของ คุณอิฏฐ์ - สิริวัฒน์ ธนุรเวท ผู้ที่เชื่อว่าทุกคนล้วนต้องการที่จะประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเรื่องงานหรือการใช้ชีวิต อีกทั้งเขายังมองว่าสิ่งแวดล้อมที่ดีจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ทุกคนเติบโตและประสบความสำเร็จได้ สิ่งเหล่านี้จึงได้กลายเป็นกุญแจสำคัญในการเริ่มต้นสร้างธุรกิจในอุตสาหกรรมไอที ที่มีชื่อว่า ‘สิริซอฟต์ (Sirisoft)’
คุณสิริวัฒน์ เผยถึงความตั้งใจในการก่อตั้ง ‘สิริซอฟต์’ ว่าอยากให้เป็นพื้นที่ที่มอบโอกาสให้กับผู้คนได้เติบโตจึงมีความมุ่งมั่นพัฒนาคน รวมถึงการพัฒนาสังคมของประเทศไทยให้ดีขึ้น ตั้งแต่การคิดค้นและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดีให้ทุกคนใช้ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับพนักงาน จนไปถึงการหมุนเวียนสิ่งที่ดีกลับคืนสังคม
ก้าวแรกของการเติบโตกับเทคโนโลยีที่ชื่อว่า DevOps
คุณสิริวัฒน์เล่าถึงจุดเริ่มต้นของสิริซอฟต์ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 โดยเกิดจากทีมพัฒนามารวมตัวกันแล้วตั้งคำถามด้วยกันว่า จะทำอย่างไร ให้สามารถผลิตซอฟต์แวร์ที่ดีมีคุณภาพให้ออกมาได้ไวในยุคที่ความต้องการการผลิตซอฟต์แวร์สูงขนาดนี้ จึงได้พบกับเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า DevOps เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Development และ Operations โดยทำให้ทีมพัฒนาสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
“ในช่วงนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงของยุคดิจิทัลหรือที่เรียกว่า Digital Transformation ซึ่งได้เปลี่ยนจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ใหญ่ๆ กลายเป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่รวดเร็วและถี่มากยิ่งขึ้น คล้ายกับแอปพลิเคชันของไอโฟนที่มีการเปลี่ยนเวอร์ชันใหม่ตลอดเวลา”
“เราอยากเห็นความแปลกใหม่ตลอดเวลา ทุกคนอยากมีไลฟ์สไตล์ที่ดีขึ้น ทุกคนอยากโอนเงินในแอปฯ ทุกคนอยากช้อปปิ้งในแอปฯ ภาพที่เราเห็นคือทุกคนต้องการความสะดวกสบาย ซึ่งซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยทำให้ไลฟ์สไตล์ของทุกคนสะดวกสบายขึ้น สิริซอฟต์เราจึงทำซอฟต์แวร์เหล่านี้ให้มันใช้งานได้เร็วขึ้นและดีขึ้น จึงกลายเป็นไอเดียตั้งต้นของการเปิดบริษัทสิริซอฟต์”
พัฒนาธุรกิจลูกค้าเติบโตให้ไปด้วยกัน
หากเรามองภาพการเติบโตของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ก็คงยากที่ปฏิเสธว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้นแทบทุกมิติ อีกทั้งหลายธุรกิจก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคต
ด้วยบทบาทสำคัญของสิริซอฟต์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีให้กับธุรกิจที่หลากหลาย เราจึงได้ถามคุณสิริวัฒน์ ถึงการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ที่มอบให้กับลูกค้าว่าเป็นแบบไหนและกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร
คุณสิริวัฒน์ตอบว่า ลูกค้ากลุ่มแรกๆ ของสิริซอฟต์จะเป็นกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพที่ต้องการซอฟต์แวร์ที่รวดเร็ว และเมื่อสิริซอฟต์สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า จึงมีลูกค้าบางเจ้าอยากทราบแนวคิดและวิธีการในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ทำให้การให้บริการของสิริซอฟต์ขยายกว้างเพื่อครอบคลุมความต้องการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้ให้คำปรึกษาในด้านไอที รวมถึงการขายอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
“ที่สำคัญคือ เราแบ่งปันความรู้ของเราให้ลูกค้าหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น เทมเพลตเอกสาร เทมเพลตการพัฒนา ไปจนถึงวิธีคิดต่างๆ เรายกให้ลูกค้าเราหมดเลย พอเกิดภาพแบบนี้ ธุรกิจหลักของสิริซอฟต์ได้กลายเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ถ้าหากลูกค้ามีทีมพัฒนาเอง เราก็จะเป็นคนช่วยซัพพอร์ตลูกค้า หรือถ้าอยากให้เราช่วยพัฒนาด้วย ก็สามารถพัฒนาร่วมกันได้”
“ลองนึกภาพตามนะครับว่า สิริซอฟต์ไปพัฒนาซอฟต์แวร์ในบริษัทของลูกค้า แล้วลูกค้ามี framework ที่ใกล้เคียงกับสิริซอฟต์หมดแล้ว เราไม่จำเป็นต้องถอยไปนับหนึ่งใหม่ เราสามารถทำไปข้างหน้าได้เลย ลูกค้าก็เติบโตเร็ว เราก็เติบโตเร็วเช่นกัน”
เราถามต่อว่า แล้วความสนุกของการอยู่ในแวดวงไอทีคืออะไร?
“หากมองภาพสิริซอฟต์ในปัจจุบัน ความท้าทายของเราคือเมื่อได้ยินโจทย์จากลูกค้าแล้ว เราต้องทำให้มันเกิดขึ้นจริง รวดเร็ว เชื่อมต่อกันได้แบบคอมเพล็กซ์ได้ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า ผสานรวมกันได้หมดเลย นี่แหละคือความสุขของสิริซอฟต์ ยิ่งไปกว่านั้นคือพอเราเห็นธุรกิจของลูกค้าประสบความสำเร็จ มันเป็นความสุขบวกความภูมิใจเลยครับว่าเราได้ทำซอฟต์แวร์ดีๆ ให้กับลูกค้า”
สร้างพื้นที่ให้ทุกคนเติบโตในเส้นทางอาชีพ
ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปไหนแค่ไหน ‘คน’ ก็ยังหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรอยู่เสมอ
ในบทสนทนานี้ เราจึงได้พูดคุยกับคุณสิริวัฒน์ในบทบาทผู้บริหารคนในองค์กร ทั้งในเรื่องของการสร้างวัฒนธรรมองค์กร การสนับสนุนพนักงานที่มีศักยภาพ ไปจนถึงการสร้างเป้าหมายให้ทุกคนเติบโตอาชีพได้อย่างมีความสุข
คุณสิริวัฒน์อธิบายว่า วิสัยทัศน์และโครงสร้างองค์กรเป็นข้อแรกที่สิริซอฟต์ให้ความสำคัญ โดยวัฒนธรรมองค์กรของสิริซอฟต์ได้กำหนดไว้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. DevOps Culture ให้ความสำคัญกับธุรกิจลูกค้ามาเป็นอันดับแรก 2. Professional Culture รักษาข้อตกลงและส่งมอบได้ตามไทม์ไลน์ที่กำหนด และ 3. Thai Culture มีน้ำใจช่วยเหลือกันและกัน
“ส่วนการพัฒนาคน เราอยากให้สิริซอฟต์เป็นพื้นที่ที่ให้โอกาสคนมากๆ เลย”
“ผมอาจจะไม่ใช่ซีอีโอที่โตมาจากนักบริหารแบบเต็มตัว จริงๆ ผมก็เป็นเหมือนน้องคนหนึ่งที่ถือกระเป๋าเข้ามาเรียนในกรุงเทพ ถ้าถอยกลับไป เราจบมหาลัยมาพร้อมเพื่อน ใครอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า ใครมีคนส่งเสริมที่ดีกว่า คนนั้นก็มักจะเดินได้ไกลกว่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทุกคนต้องการคือโอกาส โอกาสในการเรียนรู้หรือโอกาสในการพัฒนา สิริซอฟต์เลยมีไอเดียว่าเราอยากเป็นองค์กรที่ให้ความรู้พนักงานมากๆ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพนักงานได้เติบโต”
คุณสิริวัฒน์อธิบายว่า ที่สิริซอฟต์มีการใช้ระบบ Career Path Training ซึ่งเป็นการติดตามผลงานตั้งแต่ตอนสมัครงาน เริ่มจากการให้แคนดิเดตได้ทำข้อสอบก่อนทำงานจริง เพื่อสำรวจว่าแต่ละคนมีจุดแข็งและจุดอ่อนในเรื่องไหนบ้าง และหากว่าได้ร่วมงานกัน ก็จะมีระบบที่เป็น Learning Path ให้ทุกคนได้เรียนรู้และเติบโตในการทำงานที่นี่
“สมมติว่า ณ วันสัมภาษณ์เขามี 10 คะแนน ถ้าอยากกระโดดไป 20 30 40 เราจะมี Learning Path ให้เลยครับ มีทั้งคลาสที่พี่มาสอนและคลาสที่เรียนออนไลน์ แล้วข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวบรวมว่าพนักงานคนนั้นได้เรียนคลาสไหนไปแล้วบ้าง ได้ทำโปรเจกต์หรือใช้เทคโนโลยีแบบไหนไปแล้วบ้าง พอถึงเวลาประเมิน เราก็จะประเมินเป็นรายบุคคล แล้วดูว่าคนนี้พร้อมที่จะได้รับการโปรโมตกับสิริซอฟต์แล้วหรือยัง”
นอกจากนั้น เมื่อมองไปยังบรรยากาศโดยรอบในออฟฟิศสิริซอฟต์ ทำให้เราได้เห็นภาพความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานของคนรุ่นใหม่มากหน้าหลายตา เราจึงอดไม่ได้ที่จะถามคุณสิริวัฒน์ว่า คนทำงานที่นี่เน้นรับเด็กจบใหม่หรือเปล่า
“จริงๆ ด้วยความที่เรามีโครงสร้างของเราเอง ก็จะต้องรับน้องมาพัฒนาด้วยความที่สอนใหม่หมด เราก็ให้โอกาสพนักงานที่จบใหม่ค่อนข้างเยอะ ส่วนพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้วบางท่านก็มีโอกาสได้ร่วมงานด้วย”
“แต่ถ้าอยากให้ดูเหมือนหนังจีนกำลังภายใน บางทีมันอาจจะต้องทำลายวรยุทธนิดนึง เพราะว่าแนวคิดในการออกแบบในการพัฒนาเป็นโครงสร้างที่ค่อนข้างใหม่ นั่นคือเหตุผลที่สิริซอฟต์ก็เลยวัยรุ่นค่อนข้างเยอะ แต่พอวัยรุ่นค่อนข้างเยอะก็จะได้ความกระปรี้กระเปร่ามีพลังในการพัฒนาค่อนข้างเยอะเหมือนกัน”
เราถามต่อถึงมุมมองที่เปลี่ยนไปจากการทำงานกับคนรุ่นใหม่ คุณสิริวัฒน์กล่าวว่า มุมมองที่เปลี่ยนไปมีสองเรื่องคือ ช่องว่างระหว่างวัย กับ ประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม เขามองว่าความต้องการพื้นฐานของการเป็นพนักงานยังคงเหมือนกัน เพราะทุกคนต่างต้องการอยู่ในองค์กรที่ให้ความใส่ใจ องค์กรที่ให้ความรู้ องค์กรที่มีโครงสร้างที่ดี องค์กรที่มีผลตอบแทนที่ดี และพร้อมที่จะสร้างอนาคตไปด้วยกัน
เราถามต่อว่า แล้วคิดยังไงกับบางมุมในสังคมที่กังวลว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่อดทน?
“ที่สิริซอฟต์ไม่ค่อยเจอปัญหานี้นะครับ ผมว่าภาพที่ไม่ชัดเจนทำให้คนไม่ทน ลองนึกภาพเหมือนเอาฉลามใส่ลงไปในแทงค์แล้วให้คนว่ายหนีแบบไม่เห็นเส้นชัย คนก็จะว่ายๆ ไปแล้วไม่มีความอดทน วันหนึ่งก็จะรู้สึกว่าเขาจะว่ายไปทำไม”
“การเซตเป้าหมายให้พนักงาน การเซตผลตอบแทนที่เหมาะสม ทำให้คนทุกคนรู้สึกว่าฉันจับได้ ฉันประสบความสำเร็จ ภาพพวกนี้ต่างหากครับคือคีย์สำคัญ ดังนั้นสิริซอฟต์เราเลยไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะมันเป็นภาพที่เกิดขึ้นจริงว่าเราทำให้บริษัทรองรับเขาในการพัฒนาไปข้างหน้า เพื่อให้เขาเติบโตไปพร้อมกับเราน่ะครับ”
แบ่งปันความรู้สู่การพัฒนาสังคมให้เติบโต
เมื่อมองภาพใหญ่ของการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับกำไรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญอีกหนึ่งกลุ่มก็คือ ‘สังคม’ ฉะนั้นการส่งต่อคุณค่าที่ดีในการพัฒนาสังคมจึงเป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจต้องให้ความสำคัญ หนึ่งในนั้นก็คือ สิริซอฟต์
“ในโลกไอทีเราจะมีกลุ่ม open source ที่แชร์ซอฟต์แวร์ออกไปในที่ต่างๆ ทั้งความรู้จากมหาลัย ความรู้จากผู้จำหน่ายสินค้า หรือความรู้จากรุ่นพี่ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ความรู้ที่เราเสิร์ชเจอแล้วใช้งานได้จริงมันมีค่อนข้างจำกัด”
“สิริซอฟต์เราก็เลยมีความรู้ที่เผยแพร่ได้เลยว่า สิ่งที่เรารีเสิร์ชเจอคืออะไร เพื่อกลับคืนให้กับสังคม เราพัฒนาให้เป็นภาษาไทย รวมถึงมีชุดคำสั่งที่สามารถใช้งานได้จริง”
“เพราะอยากให้คนในสังคมเก่งขึ้น ยิ่งเราพัฒนาซอฟต์แวร์ได้เร็ว ประเทศไทยก็จะนำหน้าประเทศอื่น นี่คือภาพที่สิริซอฟต์โฟกัสและให้ความช่วยเหลือสังคม นอกจากนั้นก็มีเรื่องของการมีส่วนในการดูแลสังคมรอบๆ ให้ดีด้วย อันนี้เป็นเป้าหมายที่สิริซอฟต์ให้ความสำคัญตั้งแต่เปิดบริษัทเลยครับ”
“สิริซอฟต์พยายามจะทำตัวเองให้เป็นภาพที่ทุกๆ คนเดินไปพร้อมกันทุกฟันเฟืองในการพัฒนาครับ ตั้งแต่สิริซอฟต์ ลูกค้า พาร์ตเนอร์ พนักงาน จนไปถึงสังคมเลย” คุณสิริวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
เรื่อง : นิธิกาญจน์ ชัยณรงค์
กราฟิก : กานต์ ราชวรรณดี
โฆษณา