Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
1 ธ.ค. 2023 เวลา 12:41 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 46
ซ่งเจียง ฝนยามแล้ง (4) จูถงปกป้องฝน
เจ้าพนักงานจากอำเภอมาถึงหมู่บ้านสกุลซ่งนำหนังสือส่งให้ซ่งไท่กง
ซ่งไท่กงจึงให้การว่า “ผู้เฒ่าทำไร่ไถนาหาเลี้ยงชีพอยู่ที่นี่มาแต่ครั้งบรรพบุรุษ ซ่งเจียงอกตัญญูไม่เชื่อฟังพ่อแม่มาแต่เล็ก ไม่ยอมช่วยงานช่วยการคิดแต่จะเข้ารับราชการ หลายปีก่อน ผู้เฒ่าจึงไปแจ้งทางอำเภอขอให้คัดชื่อออกจากทะเบียน เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่คนในบ้านนี้แล้ว เขาอยู่ของเขาที่บ้านพักของอำเภอ ข้าอยู่กับลูกชายซ่งชิงทำนาทำไร่อยู่ที่หมู่บ้านนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป ผู้เฒ่าก็กลัวอยู่เช่นกันว่าเขาจะไปก่อเรื่องเข้าสักวัน จึงทำหนังสือไว้เป็นหลักฐาน เดี๋ยวจะเอามาให้ดู”
พวกเจ้าพนักงานล้วนเป็นใจกับซ่งเจียง รู้ว่าเป็นการเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้แต่แรก จึงบอกว่า
“เมื่อไท่กงมีหลักฐานก็นำมาดู พวกข้าจะได้คัดลอกไปส่งอำเภอ”
ซ่งไท่กงให้จัดสุราอาหารมาเลี้ยงดู มอบเงินให้ไปสิบกว่าตำลึงแล้วนำหนังสือมาให้คัดลอกนำกลับไปรายงานต่อนายอำเภอว่า ซ่งไท่กงได้ตัดขาดกับซ่งเจียงมาแล้วสามปี
นายอำเภอมีใจจะช่วยซ่งเจียงอยู่แล้วจึงว่า “เมื่อมีหนังสือเป็นหลักฐาน อีกทั้งไม่มีญาติที่ไหนอื่นอีก ให้ออกประกาศจับตั้งเงินรางวัลหนึ่งพันก้วน แจ้งไปยังเมืองและท้องที่อื่นๆ ด้วย”
ทางด้านจางซานยุยายหยันเจ้าทุกข์ให้ปล่อยผมกระเซอะกระเซิงมาร้องเรียนว่า “ซ่งเจียงยังซ่อนตัวอยู่ในบ้านซ่งชิง เหตุใดไม่ให้เจ้าหน้าที่ไปจับ”
นายอำเภอดุว่า “เหลวไหล หลักฐานเป็นหนังสือก็มีว่าเขาตัดพ่อตัดลูกกันแล้วสามปี จะให้ไปจับพ่อกับน้องเขามาได้อย่างไรอีก”
ยายหยันว่า “ใครต่างก็รู้จักฉายา พี่มืดผู้กตัญญูคนที่สาม 孝义黑三郎 หลักฐานนั่นป็นของปลอม”
“เหลวไหล เอกสารราชการเป็นของปลอมได้อย่างไร”
ยายหยันว่า “ชีวิตคนเป็นเรื่องใหญ่ หากท่านไม่ยอมเป็นธุระ ข้าจะไปฟ้องท่านเจ้าเมือง”
จางซานจึงเสนอหน้ามาสนับสนุนยายหยันอีกเสียงหนึ่งว่า หากปล่อยให้ยายหยันไปยื่นฟ้องท่านเจ้าเมืองเรื่องคงบานปลายไปกว่านี้ นายอำเภอจึงจำต้องสั่งให้สองนายกอง จูถง เหลยเหิง นำกำลังไปตรวจค้นที่หมู่บ้านสกุลซ่ง หาตัวซ่งเจียงที่อาจหลบซ่อนอยู่
不关心事总由他,路上何人怨折花?
为惜如花婆惜死,俏冤家做恶冤家。
ไม่กังวลห่วงใยตามใจเขา
ใครเล่าหักมาลีหว่างทางเสียหาย
เสียดายผอซีดังบุปผาต้องมาตาย
จากชู้รักกลับกลายคนชั่วร้าย
จูถง เหลยเหิงนำกำลังมาถึงบ้านสกุลซ่ง ซ่งไท่กงยังคงยืนกรานว่าได้ตัดขาดกับซ่งเจียงโดยมีหนังสือเป็นหลักฐานแล้ว จูถงก็ยืนยันเช่นกันว่าเป็นคำสั่งจากเบื้องบนต้องขอตรวจค้นบ้าน จึงให้ทหารเข้าล้อมบ้านไว้
1
จูงถงกล่าวกับเหลยเหิงว่า “ข้าจะเฝ้าประตูไว้ นายกองเหลยท่านเข้าไปค้นดูก่อน”
เหลยเหิงพาคนค้นดูรอบบ้านแล้วก็ไม่พบ จึงกลับมาแจ้งแก่จูถง
จูถงจึงว่า “ยังวางใจไม่ได้ นายกองเหลยท่านเฝ้าประตูแล้วล้อมบ้านไว้ ข้าเข้าไปค้นดูอีกเที่ยว”
จูถงเข้าไปในบ้าน เอาดาบพิงฝาบ้านไว้ ใส่กลอนประตูแล้วเข้าไปในห้องพระ ย้ายโต๊ะบูชาไปด้านข้าง ยกไม้กระดานแผ่นหนึ่งขึ้นมา เห็นมีเชือกเส้นหนึ่ง จูถงดึงเชือกเส้นนั้น มีเสียงกระดิ่งดังขึ้น ซ่งเจียงอยู่ในห้องใต้ดินได้ยินเสียงกระดิ่งจึงโผล่ขึ้นมา พอเห็นหน้าจูถงก็ตกใจ
จูถงจึงว่า “พี่กงหมิง ผู้น้องไม่ได้มาจับตัวท่าน พวกเรานั้นคบหากันสนิทสนม วันหนึ่งตอนดื่มเหล้า พี่ท่านเมาแล้วบอกข้าเรื่องห้องลับใต้ดินในห้องพระแห่งนี้ ผู้น้องจึงได้รู้ นายอำเภอท่านก็อยากช่วยพี่ท่านเช่นกัน แต่จางซานกับยายหยันเจ้าทุกข์ขู่ว่าหากทางอำเภอไม่ทำคดีนี้ให้ดีจะไปฟ้องท่านเจ้าเมือง นายอำเภอจึงต้องให้ข้ากับเหลยเหิงมาค้นบ้าน
ข้ากลัวว่าเหลยเหิงจะไม่รอบคอบจึงไม่บอกอะไรให้รู้ แต่หาโอกาสมาแจ้งแก่พี่ท่านเอง ที่นี่ไม่เหมาะที่จะใช้เป็นที่ซ่อนตัว ถ้ามีคนระแคะระคาย คงมีการตรวจค้นอีก จะเอาอย่างไรดี”
ซ่งเจียงว่า “ข้าเองก็คิดอยู่ ดีที่น้องเราก็รอบคอบ มิเช่นนั้นซ่งเจียงคงถูกจับเสียแล้ว”
จูถงว่า “อย่ากล่าวเช่นนั้น แล้วพี่ท่านคิดว่าจะหนีไปที่ไหน”
ซ่งเจียงว่า “ข้าคิดเอาไว้แล้วสามแห่ง หนึ่งคือบ้านท่านพายุหมุนน้อยไฉจิ้นที่ชางโจวเหิงไห่ สองคือป้อมชิงเฟิง 清风寨 เมืองชิงโจว 青州 ที่หลีกว่างน้อยฮวาหยง 小李广花荣 รักษาการอยู่ สามคือบ้านท่านข่งไท่กงที่เขาพยัคฆ์ขาว 白虎山孔太公 ไท่กงท่านมีบุตรสองคน คนโตคือ ดาวหางข่งหมิง 毛头星孔明 คนรองคือ ดาวเพลิงข่งเลี่ยง 独火星孔亮 เคยพบกันที่อำเภอ สามแห่งนี้ข้ายังลังเลตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปที่ใด”
จูถงว่า “พี่ท่านรีบคิด แล้วต้องรีบออกเดินทางเสียคืนนี้อย่าได้รอช้า”
ซ่งเจียงว่า “เรื่องเจ้าหน้าที่ด่านทางคงต้องรบกวนน้องเราช่วยเป็นธุระ ส่วนเรื่องเงินทองที่ต้องใช้สอย ข้าจะจัดการเอง”
จูถงว่า “เรื่องนั้นพี่ท่านโปรดวางใจ พี่ท่านตรองให้ดีเถิดว่าจะไปที่ใด”
ซ่งเจียงขอบคุณจูถงแล้วก็กลับลงไปยังห้องใต้ดิน
จูถงปิดไม้กระดานและยกโต๊ะมาตั้งที่เดิมแล้วออกมาบอกว่าหาซ่งเจียงไม่พบเช่นกัน แล้วว่า “นายกองเหลย พวกเราจับซ่งไท่กงกลับไปแทนก็แล้วกัน”
1
เหลยเหิงคิดในใจว่า “จูถงกับซ่งเจียงสนิทกันมาก กลับมาบอกว่าจะจับซ่งไท่กง ถ้าพูดอีกที ข้าคงต้องแสดงน้ำใจบ้างละ”
จูถง เหลยเหิงนำทหารเข้ามายังห้องโถง ซ่งไท่กงสั่งให้เตรียมสุราอาหาร
จูถงว่า “ไม่ต้องเตรียมสุราอาหารหรอก ขอเชิญไท่กงกับชายสี่ 四郎 (ซ่งชิง) ไปที่อำเภอสักเที่ยว”
เหลยเหิงถามว่า “ชายสี่ไปที่ใด”
ซ่งไท่กงว่า “ไม่อยู่ ผู้เฒ่าให้ไปซื้อเครื่องมือเกษตรที่ต่างหมู่บ้าน ส่วนเจ้าซ่งเจียงนั่น สามปีก่อนเราก็ตัดขาดกันแล้ว มีเอกสารอยู่ที่นี่”
จูถงว่า “พวกข้าได้รับคำสั่งให้นำตัวท่านทั้งสองไปสอบสวนที่อำเภอ”
เหลยเหิงว่า “นายกองจู ท่านฟังข้า ซ่งยาซือทำความผิดย่อมต้องสอบสวนสาเหตุ แต่ยังไม่ใช่โทษประหาร ในเมื่อไท่กงมีเอกสารราชการฉบับจริงไม่ใช่ของปลอม เห็นแก่ที่เคยคบหากับซ่งยาซือกันมาก่อน พวกเราคัดไปก็พอ”
จูถงต้องการให้เหลยเหิงกล่าวเช่นนั้นอยู่แล้วจึงว่า “ข้าก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ก็เอาตามที่ท่านว่า”
ซ่งไท่กงกล่าวขอบคุณแล้วให้จัดอาหารมาเลี้ยงนายกองและเหล่าทหาร และนำเงินยี่สิบตำลึงมอบให้แก่จูถงและเหลยเหิง แต่ทั้งสองไม่รับ ให้มอบให้แก่เหล่าทหารนำไปแบ่งกัน
จูถง เหลยเหิงคัดลอกหนังสือแล้วนำทหารเดินทางกลับมายังอำเภอรายงานว่า “ได้ทำการค้นหาทั้งในบ้านและบริเวณโดยรอบอย่างละเอียดถึงสองเที่ยวแล้วแต่ไม่พบผู้ต้องหา ส่วนซ่งไท่กงนั้นนอนป่วยอยู่ลุกไม่ขึ้น ซ่งชิงนั้นเดินทางออกจากหมู่บ้านไปตั้งแต่เดือนก่อนยังไม่กลับ จึงคัดหนังสือตัดความสัมพันธ์กันมาเป็นหลักฐาน” นายอำเภอจึงให้พักเรื่องไว้
พวกเจ้าหน้าที่ในอำเภอล้วนสนิทสนมกับซ่งเจียงจึงช่วยกันพูดกับจางซาน จางซานเห็นคนมาช่วยพูดกันมาก ซ่งเจียงก็เคยดีกับตน อีกทั้งนางผอซีก็ตายไปแล้ว จึงยอมไม่เอาความ
จูถงรวบรวมเงินก้อนหนึ่งมอบให้ยายหยันเพื่อไม่ให้ไปฟ้องร้องยังตัวเมือง ยายหยันพอได้เงินมากพอก็ยินยอม จูถงใช้คนนำเงินไปวิ่งเต้นที่เมืองจี้โจวไม่ให้ติดตามคดีนี้ มีแต่เพียงออกประกาศจับตั้งเงินรางวัลหนึ่งพันก้วน (ซึ่งนับแต่ต้นเรื่องมา ไม่เคยเห็นจับใครได้สักที)
สำหรับถังหนิวเอ๋อให้แก้สำนวนเป็น “เจตนาช่วยคนร้ายหลบหนี” ลงโทษโบยยี่สิบที สักตราหน้าเนรเทศไปไกลห้าร้อยลี้
一身狼狈为烟花,地窨藏身亦可拿。
临别叮咛好趋避,髯公端不愧朱家。
เหตุยุ่งยากหากปะทุดั่งพลุไฟ
แม้นซ่อนในห้องลับคงจับได้
ลอบเตือนมาว่าให้หลบหนีไป
สมแล้วไซร้เจ้าเครางามสกุลจู
(จูถงมีฉายา เจ้าเครางาม 美髯公 (เหม่ยหยันกง) เช่นเดียวกับกวนอู ผู้สัตย์ซื่อถือคุณธรรม)
หมู่บ้านสกุลซ่งนั้นทำไร่ไถนา เหตุใดจึงต้องมีห้องลับใต้ดิน ?
ในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้นมีคำกล่าวว่า
为官容易,做吏最难。
เป็นขุนนางสบายดี
เป็นเจ้าหน้าที่ลำบาก
ดังที่เคยกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างขุนนาง 官(กวน) และ เจ้าหน้าที่ 吏(ลี่) มาก่อนหน้านี้แล้ว
ขุนนาง (กวน) ในราชสำนักนั้นประจบประแจงเล่นพรรคเล่นพวก ช่วยกันในหมู่ญาติมิตรและคนรู้จัก เรียกรับสินบน อยู่กันสุขสบายดี ส่วนพวกเจ้าหน้าที่ (ลี่) นั้น พวกขุนนางว่าจ้างมาอีกที เป็นพวกที่ทำงานจริง หากเกิดข้อผิดพลาดต้องรับไปเต็มๆ จึงว่า เป็นเจ้าหน้าที่ (ลี่) นั้นยากลำบาก
เจ้าหน้าที่รับผิด ขุนนางรับชอบ
พวกลี่ จึงอาจถูกลงโทษ เนรเทศ ริบทรัพย์ หรือกระทั่งประหาร
ดังนั้น พวกนี้มักจะหาทางหนีทีไล่กันเอาไว้ล่วงหน้า อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้ถูกลงโทษไปถึงครอบครัว จึงมักทำหนังสือตัดความสัมพันธ์ และแยกบ้านไปต่างหากไม่อยู่ร่วมกับครอบครัวใหญ่ ไม่ไปมาหาสู่ ที่ซ่อนตัวเช่นห้องลับ ก็มีการวางแผนจัดเตรียมกันไว้ก่อน
กล่าวถึงซ่งเจียงที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องลับใต้ดิน ออกมาปรึกษากับบิดาและน้องชายว่า “ครั้งนี้หากไม่ได้จูถงช่วยไว้ คงไม่แคล้วต้องถูกจับ นับเป็นพระคุณของจูถง ตอนนี้เราพี่น้องคงต้องหนีแล้ว หากสวรรค์เมตตา วันใดมีการอภัยโทษคงได้กลับมาพบกันใหม่ ท่านพ่อก็ช่วยส่งเงินให้จูถงใช้สอยวิ่งเต้น รวมทั้งให้ยายหยันเพื่อไม่ให้นำเรื่องไปฟ้องร้องต่อ”
ซ่งไท่กงให้ซ่งชิงร่วมทางไปกับซ่งเจียง และกำชับว่าเมื่อไปถึงที่ใดถ้ามีโอกาสก็ให้แจ้งข่าวกลับมาด้วย
ยามสี่เช้าวันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงและซ่งชิงออกเดินทางจากบ้านสกุลซ่ง เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงต่อต้นฤดูหนาว ทั้งสองหารือกันว่าควรเดินทางไปที่ใด
ซ่งชิงว่า “ข้าฟังเขาเล่าลือกันถึงท่านขุนนางใหญ่ไฉเมืองชางโจวเหิงไห่ ผู้สืบเชื้อพระวงศ์อดีตราชวงศ์โจวว่ามีจิตใจกว้างขวาง ชอบคบหาเหล่าผู้กล้าทั่วหล้า ยังไม่เคยมีโอกาสได้กราบคารวะทำความรู้จัก เราสองน่าจะไปขออาศัยท่าน”
ซ่งเจียงว่า “ข้าก็คิดไว้เช่นกัน”
柄柄芰荷枯,叶叶梧桐坠。
蛩吟腐草中,雁落平沙地。
细雨湿枫林,霜重寒天气。
不是路行人,怎谙秋滋味。
ก้านใบบัวเหี่ยวเฉา
อู๋ถงเหงาห้อยใบล้า
หรีดหริ่งกลางพงหญ้า
ห่านป่าร่อนลงทรายดอน
ดงเฟิงฉ่ำฝนโปรย
ฟ้าหนาวโรยคะนิ้งสลอน
ไม่ใช่ผู้สัญจร
ฤาอาวรณ์สารท-ฤดู
(เฟิง 枫 คือ เมเปิล)
สองพี่น้องเดินทางรอนแรมมาเมืองชางโจว ถามทางจนมาถึงคฤหาสน์ท่านไฉจิ้น คนเฝ้าบ้านแจ้งว่า
“ท่านขุนนางใหญ่ไฉไม่อยู่ ท่านไปเก็บค่าเช่าที่หมู่บ้านตะวันออก”
ซ่งเจียงถามว่า “จากที่นี่ไปยังบ้านตะวันออกระยะทางเท่าใด”
“ราวสี่สิบลี้”
“ไปทางไหน”
“รบกวนถามนามท่านทั้งสอง”
“ข้าคือซ่งเจียงจากอำเภอวิ่นเฉิง”
“คงไม่ใช่ฝนยามแล้งซ่งยาซือกระมัง”
“ข้าเอง”
“ท่านขุนนางใหญ่กล่าวถึงท่านบ่อยครั้งว่า ยังไม่มีโอกาสได้พบหน้า เมื่อเป็นท่านซ่งยาซือ ข้าน้อยนำทางไปเอง”
เดินทางกันมาได้ไม่ถึงสามชั่วยามดี ก็มาถึงหมู่บ้านตะวันออก คนนำทางจึงให้ซ่งเจียงพี่น้องรอที่ศาลา ส่วนตนเข้าไปแจ้งข่าว ไม่นานนักไฉจิ้นพร้อมผู้ติดตามห้าคนก็ออกมาคารวะต้อนรับซ่งเจียงยังศาลา แล้วพากันเข้าไปในคฤหาสน์
ถึงห้องโถงนั่งลงตามลำดับเจ้าบ้านและแขกแล้ว ไฉจิ้นว่า “พี่ท่านรับราชการอยู่ที่อำเภอวิ่นเฉิง วันนี้เหตุใดจึงว่างมายังบ้านป่าแห่งนี้”
ซ่งเจียงว่า “ได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของท่านขุนนางใหญ่มานาน แม้เคยได้โต้ตอบหนังสือของท่านบ้าง แต่ไม่อาจหาโอกาสว่างมาพบ วันนี้ซ่งเจียงโชคไม่ดี ก่อเรื่องขึ้นมา สองพี่น้องเราขาดที่พำนัก นึกถึงท่านขุนนางใหญ่ว่ามีคุณธรรมน้ำใจ จึงหวังมาพึ่งพา”
ไฉจิ้นหัวเราะแล้วว่า “พี่ท่านวางใจ ผิดมหันต์ปานใด มาถึงที่บ้านนี้ก็ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่ไฉจิ้นโอ้อวด ทหารหลวงตามมาจับโจรยังต้องเกรงใจ”
ซ่งเจียงจึงเล่าเรื่องนางหยันผอซีให้ฟังโดยละเอียด
ไฉจิ้นว่า “พี่ท่านวางใจ ต่อให้สังหารขุนนางราชสำนัก ชิงทรัพย์คลังหลวง ไฉจิ้นก็กล้าให้ซ่อนตัวในบ้าน”
จากนั้นไฉจิ้นจึงเชิญสองพี่น้องพักผ่อนอาบน้ำผัดผ้าแล้วค่อยมาร่วมรับประทานอาหาร
ตอนก่อนหน้า : สังหารผอซี
https://www.blockdit.com/posts/6567265812710c6946487e59
ตอนถัดไป : สามชามไม่ข้ามเนิน
https://www.blockdit.com/posts/656dc0a2c53170ed6ff3a8d3
บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน ภาคต้น
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย