Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
4 ธ.ค. 2023 เวลา 12:05 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 47
อู่ซง ผู้จาริก (1) สามชามไม่ข้ามเนิน
ซ่งเจียงและซ่งชิงร่วมโต๊ะกับไฉจิ้น สนทนาจนกระทั่งฟ้าค่ำ บ่าวไพร่ออกมาจุดตะเกียง ซ่งเจียงจึงคิดจะขอตัว แต่ไฉจิ้นไม่ยินยอมชวนดื่มและคุยกันต่อจนล่วงเข้ายามหนึ่ง ซ่งเจียงจึงลุกขึ้นขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ไฉจิ้นให้บ่าวถือตะเกียงนำทาง ซ่งเจียงเมาได้สักแปดส่วน เดินไม่ค่อยตรงได้แต่ก้าวเท้าตามมาทางระเบียงตะวันออก
ข้างระเบียงมีชายผู้หนึ่งท่าทางเป็นไข้จับสั่นนั่งผิงถ่านไฟคุแดงอยู่ในพลั่ว ซ่งเจียงเดินเงยหน้าไม่ทันระวังเหยียบเอาด้ามพลั่วกระดก ถ่านไฟกระเด็นใส่หน้าชายผู้นั้นจนตกใจเหงื่อกาฬโทรมกาย ลุกขึ้นมาคว้าอกเสื้อซ่งเจียง ตวาดด่าว่า “แกเป็นนกเขาไร กล้ามาแหย่ข้า”
ซ่งเจียงตกใจพูดอะไรไม่ออก บ่าวถือตะเกียงรีบตะโกนบอกมาว่า “อย่าเสียมารยาท นี่เป็นแขกสำคัญของท่านขุนนางใหญ่”
ชายนั้นว่า “แขกสำคัญ แขกสำคัญ ตอนข้ามาใหม่ๆ ก็เป็นแขกสำคัญ ต้อนรับอย่างดี ตอนนี้ฟังพวกบ่าวปากพล่อย ไม่สนใจข้าแล้ว เขาถึงว่า คนไม่ได้ดีตลอดกาล ดอกไม้ไม่บานตลอดเวลา 人无千日好,花无百日红”
แล้วก็ตั้งท่าจะชกซ่งเจียง
บ่าวทิ้งตะเกียงแล้วรีบเข้ามาห้าม แต่ห้ามไม่ฟัง พลันมีตะเกียงถูกขว้างลอยมาสามดวง
ท่านขุนนางใหญ่ไฉวิ่งตามมาว่า “ข้าตามยาซือมาไม่ทัน มีอะไรกันที่นี่” บ่าวจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
ไฉจิ้นหัวเราะแล้วว่า “ไอ้หนุ่ม ไม่รู้จักยาซือผู้โด่งดังท่านนี้หรือ”
ชายหนุ่มว่า “โด่งดัง ดังแค่ไหน ได้เท่าซ่งยาซือแห่งวิ่นเฉิงไหม”
ไฉจิ้นหัวเราะว่า “ไอ้หนุ่ม รู้จักซ่งยาซือไหม”
“แม้ข้าจะไม่รู้จัก แต่ได้ยินชื่อในวงนักเลงมานาน ฝนยามแล้งซ่งกงหมิงผู้มีคุณธรรมน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ชายชาตรีมีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วหล้า”
1
ไฉจิ้นถามว่า “พบแล้วรู้ได้อย่างไรว่าเป็นชายชาตรีมีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วหล้า”
“ก็คือชายชาตรี เสมอต้นเสมอปลาย ข้าหายไข้เที่ยวนี้ว่าจะไปขอพึ่งท่านอยู่”
(เสมอต้นเสมอปลาย 有头有尾 คำนี้อู่ซงแอบกระแนะกระแหนไฉจิ้นว่า ตอนต้นดีกับตน ตอนปลายแม้ตนป่วยยังไม่ไยดี)
ไฉจิ้นถามว่า “ท่านอยากพบไหมล่ะ”
“ข้าย่อมอยากพบท่าน”
ไฉจิ้นว่า “ไอ้หนุ่ม ไกลสุดขอบฟ้า ใกล้อยู่แค่ตา” แล้วชี้มายังซ่งเจียง “ท่านนี้แหละ ฝนยามแล้งซ่งกงหมิง”
ชายนั้นว่า “เป็นเรื่องจริงหรือ”
ซ่งเจียงตอบว่า “ข้าน้อยเองซ่งเจียง”
ชายนั้นเพ่งตามองแล้วคุกเข่าคารวะกล่าวว่า “ข้าไม่ได้ฝันไปกระมัง ได้พบพี่ท่าน ต้องขออภัยที่เมื่อครู่เสียมารยาท มีตาหามีแววไม่”
ซ่งเจียงประคองให้ลุกขึ้นถามว่า “ท่านมีชื่อว่าอะไร”
ไฉจิ้นชี้มายังชายผู้นั้นแล้วว่า “ผู้นี้เป็นชาวอำเภอชิงเหอ 清河县 แซ่อู่ 武 ชื่อซง 松 เป็นบุตรคนที่สอง มาอยู่ที่นี่ได้ปีหนึ่งแล้ว”
ซ่งเจียงว่า “ในวงนักเลงร่ำลือกันถึงอู่เอ้อหลาง 武二郎 ไม่คิดว่าจะได้มาพบกันวันนี้ โชคดียิ่งนัก”
ไฉจิ้นว่า “ผู้กล้าพบพานโดยมิได้นัดหมาย ยากยิ่งนัก เชิญร่วมดื่มแล้วสนทนากันเถิด”
ซ่งเจียงคว้ามืออู่ซงพากันเดินมายังห้องโถงแล้วเรียกซ่งชิงมาทำความรู้จัก แล้วต่างก็นั่งลงตามลำดับเจ้าภาพและแขก ไฉจิ้นให้จัดสุราอาหารมาเติมอีก ซ่งเจียงมองดูท่วงทีอู่ซงใต้แสงตะเกียงแล้วพึงใจยิ่งนัก
身躯凛凛,相貌堂堂。
一双眼光射寒星,两弯眉浑如刷漆。
胸脯横阔,有万夫难敌之威风;
语话轩昂,吐千丈凌云之志气。
心雄胆大,似撼天狮子下云端;
骨健筋强,如摇地貔貅临座上。
如同天上降魔主,真是人间太岁神。
รูปร่างบึกบึนน่าเกรงขาม
ทีท่าสง่างามยามพบเห็น
ดวงตาสองส่องแสงดาวอันหนาวเย็น
สองคิ้วโค้งเช่นแปรงดำดกปรกลง
ทรงพลังอกผายไหล่ผึ่ง
ศัตรูสะพรึงแหลกสลายกลายเป็นผง
วาจายโสโอหังทรนง
ปณิธานสูงส่งเทียมฟ้า
จิตใจองอาจฉกาจฉกรรจ์
พญาสิงห์ขย่มสวรรค์ชั้นเวหา
กระดูกแลเส้นเอ็นแกร่งกล้า
เช่นผีซิวโยกหล้าคลอนบัลลังก์
ดังเทพปราบมารจากแดนสรวง
ไท่สุ้ยกลางปวงชนบนแดนดิน
(ผีซิว 貔貅 สัตว์ร้ายในตำนาน)
ซ่งเจียงถามว่า “เอ้อหลาง เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่”
อู่ซงตอบว่า “ผู้น้องอยู่อำเภอชิงเหอ เมาแล้วมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ 机密 นายหนึ่ง โมโหชกเขาหมดสติไป ผู้น้องนึกว่าตายแล้วจึงหนีมาหลบภัยอยู่กับท่านขุนนางใหญ่ได้ปีกว่าแล้ว มารู้ภายหลังว่าช่วยไว้ได้ยังไม่ตาย จึงคิดว่าจะกลับบ้านไปหาพี่ชายอยู่ ก็มาเป็นไข้จับสั่นนั่งผิงไฟอยู่ พี่ท่านมาเหยียบถ่านกระเด็นใส่ ตกใจเหงื่อแตกแล้วไข้กลับหาย”
ซ่งเจียงฟังแล้วชอบใจ ร่วมดื่มกันต่อจนล่วงยามสาม ซ่งเจียงก็ชวนอู่ซงให้ไปพักด้วยกันที่หอพักตะวันตก
ไม่กี่วันต่อมาซ่งเจียงนำเงินจ่ายให้อู่ซงตัดเสื้อผ้าใหม่แทนชุดเก่า ไฉจิ้นพอรู้เข้าก็ไม่ยอมให้ซ่งเจียงจ่าย เอาผ้าต่วนแพรพรรณที่ตนมีมาให้ช่างตัดเสื้อในคฤหาสน์นำไปตัดเย็บเสื้อผ้าให้แก่คนทั้งสาม (ซ่งเจียงจึงได้ใจอู่ซงโดยอาศัยไฉจิ้นเป็นคนออกเงิน)
เหตุใดไฉจิ้นจึงไม่ชอบอู่ซง ?
เรื่องนี้ซือไน่อันเขียนคำชี้แจงเอาไว้เองว่า ตอนแรกที่อู่ซงมาอยู่ด้วยนั้น ไฉจิ้นก็รับรองอย่างดีเช่นปกติ แต่พออยู่ไปได้สักพัก เวลาดื่มแล้วเมา อู่ซงก็มักพาลไล่ชกต่อยทำร้ายผู้คนจนพวกบ่าวไพร่พากันไปฟ้องไฉจิ้น ไฉจิ้นแม้จะไม่ขับไล่แต่ก็ไม่รับรองดีเช่นก่อนหน้า กระทั่งมาพบและเป็นเพื่อนร่วมดื่มกับซ่งเจียงอยู่ทุกวัน โรคเก่าพาลหายไม่กำเริบ ไม่เที่ยวชกต่อยใครอีก
1
อู่ซงอยู่กับซ่งเจียงได้สิบกว่าวันก็คิดถึงบ้าน ใคร่เดินทางกลับอำเภอชิงเหอไปหาพี่ชาย
“ผู้น้องไม่ได้ข่าวคราวพี่ชายเสียนาน จึงอยากกลับไปเยี่ยม”
1
ไฉจิ้นมอบเงินให้แก่อู่ซงแล้วจัดเลี้ยงส่ง อู่ซงนำห่อสัมภาระมัดไว้กับกระบองสั้นเอนกประสงค์ 哨棒 เตรียมออกเดินทาง
ซ่งเจียงว่า “น้องเรา รอสักครู่” เข้าห้องไปเอาเงินติดตัวแล้วออกมาบอกว่า “ข้าจะไปส่งสักระยะหนึ่ง”
อู่ซงกล่าวอำลาไฉจิ้น ซ่งเจียงกับซ่งชิงจะตามไปส่ง ซ่งเจียงจึงบอกไฉจิ้นว่า “ท่านขุนนางใหญ่ ข้าไปเดี๋ยวจะกลับ”
ทั้งสามออกจากคฤหาสน์ตะวันออกของไฉจิ้นเดินทางมาได้ราวเจ็ดลี้ อู่ซงจึงกล่าวอำลาว่า “พี่ท่านส่งมาไกลพอแล้ว เชิญกลับเถิด ท่านขุนนางใหญ่ไฉคงรอท่านอยู่”
ซ่งเจียงว่า “ไปต่ออีกหน่อยจะเป็นไร”
เดินทางต่อ คุยกันไปผ่านไปอีกสามลี้ อู่ซงก็รั้งซ่งเจียงไว้แล้วว่า “พี่ท่านไม่ต้องส่งไกลนัก ส่งกันถึงพันลี้ ที่สุดก็ต้องอำลา”
ซ่งเจียงชี้ไปข้างหน้าว่า “ให้ข้าไปส่งอีกหน่อย ข้างหน้ามีร้านอาหาร เราไปดื่มอำลากันสักสามจอก”
1
ทั้งสามสั่งสุราอาหารมาร่วมดื่มกันจนบ่ายแก่ อาทิตย์คล้อยไปยังตะวันตก
อู่ซงจึงว่า “ฟ้าใกล้ค่ำแล้ว พี่ท่านไม่ทอดทิ้งผู้น้อง ก็โปรดรับการกราบคารวะสี่หน ผู้น้องขอกราบท่านเป็นพี่บุญธรรม”
ซ่งเจียงยินดียิ่งนัก รับการกราบแล้วให้ซ่งชิงนำเงินแท่งสิบตำลึงมอบให้อู่ซง อู่ซงปฏิเสธไม่รับ
ซ่งเจียงว่า “น้องเราอย่าคิดมาก หากไม่รับไว้ ข้าก็ไม่นับเจ้าเป็นน้อง” อู่ซงจึงต้องรับไว้
ซ่งเจียงชำระค่าอาหารแล้ว อู่ซงคว้ากระบองกับสัมภาระอำลา ซ่งเจียงยืนมองอยู่หน้าร้านจนอู่ซงเดินหายลับตาจึงค่อยเดินทางกลับ มาได้ราวห้าลี้ เห็นไฉจิ้นขี่ม้ามานำม้าเปล่ามาด้วยสองตัวให้ซ่งเจียงซ่งชิงขี่ตามกันกลับคฤหาสน์ไป
อู่ซงเดินทางมาหลายวันจนเข้าเขตอำเภอหยางกู่ 阳谷县 แต่ยังห่างจากตัวอำเภอไกลนัก เป็นเวลาราวเที่ยงวัน ทั้งหิวทั้งกระหาย มองไปด้านหน้าเห็นร้านอาหารมีธงเรียกแขกเขียนอักษรไว้ห้าคำว่า
“三碗不过冈” “สาม ชาม ไม่ ข้าม เนิน”
อู่ซงเข้าไปนั่งในร้านตะโกนเรียกว่า “เถ้าแก่ เอาเหล้ามาหน่อย”
เจ้าของร้านนำชามมาวางบนโต๊ะสามใบ ตะเกียบหนึ่งคู่ ผักหนึ่งจาน แลัวรินเหล้าให้หนึ่งชาม
อู่ซงยกซดรวดเดียวหมดชามแล้วว่า “เหล้านี่แรงดีทีเดียว เถ้าแก่ มีอะไรมาแกล้มเหล้าบ้าง”
“มีเนื้อวัว”
“ดี หั่นมาแกล้มเหล้าสองชั่ง”
เถ้าแก่ยกเนื้อวัวสองชั่งใส่จานใหญ่มาให้ แล้วรินเหล้าชามที่สอง
อู่ซงดื่มรวดเดียวแล้วว่า “เหล้าดี”
เถ้าแก่รินให้เป็นชามที่สาม อู่ซงดื่มหมดแล้วเถ้าแก่ก็ไม่มาเติมเหล้าอีก
อู่ซงเคาะโต๊ะตะโกนเรียก “เถ้าแก่ ทำไมไม่มาเติมเหล้า”
เถ้าแก่ถามว่า “ลูกค้าจะสั่งเนื้อเพิ่มหรือ”
อู่ซงว่า “เหล้าด้วย เนื้อก็เอามาอีก”
“เนื้อหั่นเติมได้ แต่เหล้าเติมไม่ได้แล้ว”
“แปลก ทำไมไม่ขายเหล้าให้ข้า”
“ลูกค้าท่านไม่เห็นธงหน้าร้านเราหรือ เขียนไว้ชัดเจนว่า สาม ชาม ไม่ ข้าม เนิน”
“อย่างไรคือ สาม ชาม ไม่ ข้าม เนิน”
เถ้าแก่ว่า “เหล้าข้าน่ะ ถึงจะเป็นเหล้าพื้นบ้านแต่รสดีเหมือนเหล้าเก่า ปกติลูกค้ามาที่ร้านดื่มได้สามชามก็เมาแล้ว เดินข้ามเนินข้างหน้านี่ไม่ไหว จึงเรียกว่า สาม ชาม ไม่ ข้าม เนิน ลูกค้าที่ผ่านทางไปมา ดื่มกันสามชามแล้วก็ไม่สั่งเพิ่ม”
อู่ซงหัวเราะแล้วว่า “เช่นนี้เอง แต่ข้าก็ดื่มไปแล้วสามชาม ทำไมไม่เมา”
1
เถ้าแก่ว่า “เหล้าของข้านี่เรียกชื่อว่า หอมทะลุขวด 透瓶香 หรืออีกชื่อว่า ออกประตูล้ม 出门倒 แรกเข้าปาก เข้มข้นหวานหอม พอสักพักก็ล้มพับ”
อู่ซงว่า “เลิกเหลวไหล ข้ากินแล้วก็จ่าย รินมาอีกสามชาม” เถ้าแก่จึงจำต้องรินให้อีกสามชาม
อู่ซงดื่มแล้วว่า “เหล้าดีจริง เถ้าแก่ ข้าดื่มชามหนึ่ง ก็จ่ายชามหนึ่ง ท่านก็รินมาเรื่อยๆ”
“ลูกค้าท่านอย่าเอาแต่ดื่ม เหล้านี่พอเมาแล้วไม่มียาแก้”
“ไม่ต้องพูดนกเขาไร ต่อให้เจ้าวางยาในเหล้า ข้าก็ดมรู้”
เถ้าแก่เถียงไม่ออก จึงรินรวดเดียวอีกสามชาม
อู่ซงว่า “เอาเนื้อมาอีกสองชั่ง” เถ้าแก่หั่นเนื้อมาแล้วเติมเหล้าอีกสามชาม
อู่ซงกินอย่างเอร็ดอร่อยจนปากมันแผล็บ แล้วควักเงินปลีกออกมาวางบนโต๊ะ “เถ้าแก่ ท่านมาดูสิว่าเงินพอค่าอาหารไหม”
“ยังมีเหลือ เดี๋ยวข้าทอนเงินให้”
“เงินทอนไม่ต้อง เอาเป็นเหล้ามา”
“ลูกค้าท่านหากอยากดื่ม ยังได้อีกหกชาม แต่กลัวจะดื่มไม่ไหวแล้ว”
“ได้อีกหกชาม ก็เอามา”
“ท่านตัวโตขนาดนี้ ถ้าเมาหลับไป ข้าพยุงท่านไม่ไหว”
“ต้องให้ท่านพยุง ก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
เถ้าแก่ไม่ยอมรินเหล้าให้อีก อู่ซงหงุดหงิดว่า “ข้าไม่ได้กินของเจ้าเปล่าๆ อย่ามากวนโมโห ไม่งั้นพ่อจะพังร้านนกเขาเจ้า เอาให้เละเลย”
เถ้าแก่ว่า “หมอนี่เมาแล้ว ตอแยไม่ได้” จึงรินเหล้าให้อีกหกชาม
อู่ซงดื่มไปทั้งหมดสิบห้าชาม คว้ากระบองสั้นลุกขึ้นว่า “ไม่เห็นจะเมาเลย” เดินออกมาหน้าร้านหัวเราะว่า “ว่าไปนั่น สาม ชาม ไม่ ข้าม เนิน” แล้วเดินจากร้านไป
เจ้าของร้านรีบวิ่งตามมาตะโกนเรียกว่า “ลูกค้าท่านจะไปไหน”
อู่ซงหยุดยืนถามมาว่า “เรียกทำไม ข้าค้างค่าเหล้าหรือ”
“ข้าหวังดีหรอก ท่านเดินกลับมาดูประกาศของทางการนี่”
“ประกาศอะไร”
“บนเนินจิ่งหยาง 景阳冈 ข้างหน้านี่ เดี๋ยวนี้พอตกค่ำมีเสือใหญ่ออกอาละวาด ทำร้ายคนตายไปแล้วยี่สิบกว่าคน ทางการให้พวกนายพรานออกตามล่าอยู่ ตามทางขึ้นเนินจึงมีประกาศไว้ว่า ให้ผู้ที่จะเดินทางรวมกันให้เป็นกลุ่ม ข้ามเนินได้เฉพาะช่วงเวลา สื้อ อู่ เว่ย 巳 午 未 เพียงสามช่วง ส่วนอีกหกช่วงเวลาที่เหลือ หยิน เหม่า เซิน อิ่ว ซวี ไห้ 寅 卯 申 酉 戌 亥 ห้ามข้ามเนิน หากเดินทางมาเพียงลำพังให้รอเข้ากลุ่มจึงข้ามได้
ตอนนี้ก็ปลายยามเว่ยเข้าต้นยามเซินแล้ว ข้าเห็นท่านตั้งท่าจะเดินทางไม่ถามใคร เดี๋ยวจะเอาชีวิตไปทิ้งเสีย อย่างไรก็พักเสียที่นี่ พรุ่งนี้รอเข้ากลุ่มได้สักยี่สิบกว่าคนค่อยข้ามเนินไปพร้อมกัน”
1
อู่ซงหัวเราะแล้วว่า “ข้าเป็นชาวอำเภอชิงเหอ เส้นทางข้ามเนินจิ่งหยางนี้ก็ผ่านมาแล้วสิบกว่าเที่ยว ไม่เคยได้ยินว่ามีเสือ ท่านไม่ต้องมาขู่ข้า ต่อให้มีเสือจริง ข้าก็ไม่กลัว”
“ข้าหวังดีมาช่วยท่าน ถ้าไม่เชื่อ ก็เข้ามาดูประกาศของทางการ”
“พูดนกเขาไร ถึงมีเสือจริง พ่อก็ไม่กลัว ขืนพักที่นี่ ดึกดื่นค่อนคืนคงมีแผนฆ่าคนชิงทรัพย์ จึงเอาเรื่องเสือมาขู่”
“ดูท่าน ข้าหวังดีกลับหาว่ามีเจตนาร้าย เมื่อไม่เชื่อจะไปให้ได้ก็แล้วแต่เถอะ”
前车倒了千千辆,后车过了亦如然。
分明指与平川路,却把忠言当恶言。
รถนับพันพลิกคว่ำอยู่ข้างหน้า
รถหลังมามิแคล้วต้องพลอยคว่ำ
จึงคอยเฝ้าบอกทางเป็นประจำ
กลับตีความคำจริงเป็นคำลวง
เจ้าของร้านสั่นหัวเดินกลับร้าน อู่ซงถือกระบองเดินอาดๆ มาได้ราวห้าลี้ถึงตีนเนิน เห็นต้นไม้ใหญ่ เปลือกถูกถากออกเหลือเนื้อขาวมีอักษรเขียนอยู่ อู่ซงพอรู้หนังสืออยู่หลายตัวอ่านดูได้ความว่า
“ขณะนี้ บนเนินจิ่งหยางมีเสือออกทำร้ายผู้คน เหล่านายพรานกำลังตามจับอยู่ ผู้ที่จะเดินทางข้ามให้จับกลุ่มเดินทางได้เฉพาะเวลา สื้อ อู่ เว่ย ขออย่าได้ละเมิด จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน”
1
อู่ซงอ่านแล้วหัวเราะว่า “นี่เป็นแผนของเจ้าของร้าน หลอกให้คนย้อนกลับไปพัก จะไปกลัวนกเขาไร” ว่าแล้วก็เอากระบองพาดบ่า เดินขึ้นเนินมา
ตอนก่อนหน้า : จูถงปกป้องฝน
https://www.blockdit.com/posts/6569d47c24c5ca175ac18fbe
ตอนถัดไป : ฆ่าเสือมือเปล่า
https://www.blockdit.com/posts/65707453d79bcc46fcc47bc4
บันทึก
1
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน ภาคต้น
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย