3 ธ.ค. 2023 เวลา 05:29 • ไลฟ์สไตล์

ผลโพล "คุณเป็นสายมูฯหรือเปล่า?" ทำให้พบว่าผู้คนในประเทศไทยมีความสับสนในตัวเอง!

สายมูฯในทีนี้หมายถึง มูเตลู ซึ่งก็คือผู้ที่มีความเชื่อในสิ่งลี้ลับ เชื่อว่ามีอำนาจเหนือธรรมดากำหนดความเป็นไปของปรากฏการณ์ต่างๆในโลก หรือความเป็นไปในสังคม
มีหลายคนที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่สายมูฯแต่การกระทำหรือความคิดกลับขัดแย้งกันทำให้ดูมีความสับสนในความเป็นตัวตนอยู่ไม่น้อยเลย
ในความเป็นจริงแล้ว ความเข้มแข็งของคนเราย่อมเกิดจากความคิดที่พึ่งพาตัวเองได้ มากกว่าที่จะเกิดจากการอ้อนวอนร้องขอจากผู้อื่นหรือสิ่งที่ลี้ลับ
คนที่จะพึ่งพาตัวเองได้ก็จะต้องมีสติปัญญาซึ่งจะช่วยสร้างความทระนงองอาจในตัวเอง
แต่ในทางกลับกันถ้ามีความงมงายก็จะเป็นเครื่องบั่นทอนความสามารถในการพึ่งพาตัวเองให้น้อยลงไป
ที่บอกว่าผู้คนในประเทศไทยเรามีความสับสนในตัวเองว่า "เป็นสายมูฯหรือเปล่า" กันอยู่ไม่น้อยเลยนั้น ก็มาจากผลสำรวจของ"นิด้าโพล" เรื่อง "เป็นสายมูฯหรือเปล่า"ที่จากการตอบคำถามต่างๆพบว่าผู้คนในประเทศไทยมีความสับสนในความเป็นตัวตนกันอยู่ไม่ใช่น้อยเลย
มาดูกันค่ะว่าผลสำรวจนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง
จากคำถามว่า "เป็นคนสายมูฯหรือเปล่า"
ร้อยละ 43.59 ตอบว่า ไม่เป็นแน่นอน
ร้อยละ 27.79 ตอบว่า ไม่ค่อยเป็น
ร้อยละ 21.53 ตอบว่า ค่อนข้างเป็น
ร้อยละ 6.64 ตอบว่า เป็นแน่นอน
จากผลที่ได้ก็หมายความว่า ผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยปฎิเสธว่า ตนเองเชื่อในสิ่งอำนาจลึกลับ
แต่ในคำถามต่อมา "เคยกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพร และมั่นใจต่อความสมหวังในการขอพรหรือไม่" กลับได้คำตอบว่า
ร้อยละ 44.81 บอกว่า ค่อนข้างมั่นใจ
ร้อยละ 29.11 บอกว่า มั่นใจมาก
ร้อยละ 20.79 บอกว่า ไม่ค่อยมั่นใจ
ร้อยละ 5.32 บอกว่า ไม่มั่นใจเลย
ภาพจาก the Asianparent.com
จากคำตอบที่ได้ทั้ง 2 ข้อนั้น มันก็ดูจะย้อนแย้งกันนะคะ เพราะในข้อแรกผู้คนส่วนใหญ่ปฎิเสธว่าไม่ได้งมงายไม่ได้เป็นสายมูฯ แต่ในข้อต่อมา กลับตอบว่า เชื่อว่าอำนาจลี้ลับจะช่วยบันดาลให้สมหวังได้
1
จากคำตอบที่ได้จะเห็นว่าสภาวะจิตที่ดูสับสนระหว่าง ความเป็น กับ ความเชื่อของผู้คนส่วนใหญ่เช่นนี้ ทำให้สรุปได้ว่า แม้คนไทยเราส่วนใหญ่จะไม่อยากให้ตัวเองมีสถานะที่หวังกับอำนาจที่เหนือความเป็นธรรมดาของชีวิต แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะฝากความหวังในการพึ่งพาอำนาจลี้ลับไว้ด้วยนั่นเองค่ะ
ซึ่งเท่ากับว่า การดำเนินชีวิตของผู้คนในประเทศไทยนี้มีบางเรื่องที่ก่อความเชื่อว่า เมื่อหมดหนทางที่จะพึ่งพาตัวเองหรือผู้คนรอบตัวหรือกลไกปกติในการดำเนินชีวิตแล้ว ก็ต้องขอฝากความหวังไว้กับสิ่งลี้ลับที่จะบันดาลให้ได้
ภาพจาก wongnai.com
และจากคำถามที่ว่า "สิ่งที่ขอพรจากการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์คืออะไร"
ร้อยละ 51.30 ตอบว่า ขอเรื่องสุขภาพร่างกายแข็งแรง หรือให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ
ร้อยละ 48.50 ตอบว่า ขอเรื่อง เงิน โชคลาภ
ร้อยละ 32.06 ตอบว่า ขอเรื่องหน้าที่การงาน
ร้อยละ 24.06 ตอบว่า ขอให้ครอบครัวมีความสุข
ร้อยละ 15.88 ตอบว่า กราบไหว้แต่ไม่เคยขอพรใดๆ
ร้อยละ 7.10 ตอบว่า ขอเรื่องการค้าขาย การทำธุรกิจ
ร้อยละ 6.72 ตอบว่า ขอเรื่องการเดินทางปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ
ร้อยละ 5.80 ตอบว่า ไม่เคยกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆเลย
ร้อยละ 3.89 ตอบว่า ขอให้มีอายุยืนยาว
ร้อยละ 3.66 ตอบว่า ขอเรื่องความรัก คู่ครอง เนื้อคู่
ร้อยละ 3.28 ตอบว่า ขอความสงบในชีวิต
ร้อยละ 2.90 ตอบว่า ขอเรื่องการเรียน การสอบ การแข่งขัน
ร้อยละ 1.98 ตอบว่า เพื่อเสริมดวง เสริมสิริมงคล
ร้อยละ 0.53 ตอบว่า ขออำนาจ วาสนา
ร้อยละ 0.38 ตอบว่า ขอความสมหวัง ในการมีบุตร และสะเดาะเคราะห์ ต่อดวงชะตา แก้ปีชง
ร้อยละ 0.15 ตอบว่า ขอมีปัญญาฉลาดหลักแหลม
ร้อยละ 0.08 ตอบว่า ขอมีชื่อเสียงโด่งดัง
ภาพจาก thairath.co.th
จากข้อมูลที่ได้ทำให้เห็นว่าชีวิตปกติของผู้คนในประเทศไทยนี้ มีความคิดความเชื่อว่าเรื่องไหนที่พึ่งพาตัวเองและกลไกการจัดการแบบธรรมดาไม่ได้ก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากอำนาจลี้ลับ
เมื่อได้เห็นความเชื่อของผู้คนส่วนใหญ่เป็นเช่นนี้ ย่อมทำให้คนที่ทำมาหากินกับความเชื่อสายมูฯ มองเห็นช่องทางในการนำเสนอสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้
แต่บางครั้งความเชื่อสายมูฯก็ทำให้พวกมิจฉาชีพที่หากินกับความเชื่อในสิ่งที่ลี้ลับของผู้คน ฉวยโอกาสมาหลอกลวงให้ผู้คนเสียเงินเสียทองกันมากมายอย่างที่เราได้เห็นกันในข่าวอยู่บ่อยๆเรียกว่า เหมือนผีซ้ำดั้มพลอยโดนกระทำซ้ำซ้อนให้ยิ่งแย่กันไปใหญ่
ก็อยากจะขอฝากให้รัฐบาลนำข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาดูว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกไร้ที่พึ่งในเรื่องอะไรบ้างจนต้องไปฝากความหวังไว้กับอำนาจลี้ลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่
เพื่อที่รัฐบาลจะได้สร้างผลงานให้ตรงกับความเดือดเนื้อร้อนใจของประชาชนส่วนใหญ่ได้จริงๆให้รู้สึกว่าสามารถพึ่งพารัฐบาลได้ เป็นอำนาจที่จับต้องได้ ไม่ต้องไปพึ่งพาอำนาจลี้ลับที่จับต้องไม่ได้เหมือนที่เป็นอยู่ในเวลานี้
ไม่ใช่ว่า "ความลี้ลับเป็นอำนาจที่จับต้องไม่ได้แล้ว แต่ อำนาจรัฐกลับจับต้องในการพึ่งพาไม่ได้มากกว่า"
เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ประชาชนก็ยังต้องสับสนในตัวเองแบบนี้กันไปอีกนานเท่านาน นานกว่านั้น นานชั่วกัลป์กัป นานนิรันดร์ เพราะหากลิ่นหอมของความเจริญไม่เจอ😅
ขอบคุณที่แวะมาทักทาย...ติดตาม...และให้กำลังใจนะคะ😍💕
ขอบคุณข้อมูลจาก เมนูข้อมูล🙏😊
#แม่มณีมีเรื่องเล่า😊มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง#เอาแบบที่สบายใจ😊
โฆษณา