11 ธ.ค. 2023 เวลา 12:18 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 50

อู่ซง ผู้จาริก (4) อู่ซงรื้อสะพาน
เวลาผ่านไปเดือนกว่า ย่างเข้าเดือนสิบเอ็ด ลมเหนือพัดจัดติดต่อกันหลายวัน ฟ้าแดงปกคลุมสารทิศ มาวันหนึ่งหิมะลงหนักตลอดวัน เกล็ดหิมะม้วนละลิ่วในสายลมตกลงมาคลุมพื้นจนขาวโพลน
眼波飘瞥任风吹,柳絮沾泥若有私。
粉态轻狂迷世界,巫山云雨未为奇。
ตาเยิ้มหยาดกวาดตามลมลอยละลิ่ว
ใจดังหลิ่วเปื้อนตมชมชื่นชู้
ธุลีผงหลงใหลในหล้าอยู่
นัดพบชู้อูซานมิหวามเทียม
(巫山云雨 = 男女幽会 ชู้รักนัดพบ
มาจากเทพนิยายรัฐฉู่ว่า เหยาจี 瑶姬 เทพธิดาลมฝนแห่งอูซาน พึงใจในฉู่เซียงหวางผู้ครองรัฐฉู่ จึงมาเข้าฝันจนเซียงหวางออกตามหานาง)
หิมะลงตลอดวันจนถึงยามหนึ่ง เช้าวันรุ่งขึ้น อู่ซงไปเข้างานแต่เช้า ใกล้เที่ยงยังไม่กลับ นางไล่อู่ต้าให้ออกไปค้าขาย แล้วไหว้วานยายหวางข้างบ้านช่วยซื้อเหล้าซื้อเนื้อ ตัวเองเข้าไปก่อไฟเตาผิงในห้องของอู่ซง
นางคิดใจว่า “วันนี้ต้องยั่วยวนเอาจริงสักหน่อย ไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่หวั่นไหว”
นางยืนอยู่โดยลำพังข้างม่าน มองไปเห็นอู่ซงเดินย่ำหิมะดังเกล็ดหยกกลับบ้านมา นางเบิกม่านขึ้น ยิ้มต้อนรับแล้วกล่าวว่า “ท่านอาหนาวไหม”
อู่ซงว่า “ขอบคุณอาซ้อที่เป็นห่วง” เดินเข้าบ้านมา ถอดหมวกออก นางเอื้อมสองมือมารับหมวก
อู่ซงว่า “คงไม่ต้องรบกวนอาซ้อ” ปัดหิมะออกแล้วนำหมวกแขวนไว้บนกำแพง แก้ไถ้เข็มขัดถอดเสื้อคลุมเดินเข้ามาแขวนในห้อง
1
นางว่า “เมื่อเช้าข้ารออยู่ ไม่เห็นท่านอามากินข้าวเช้า”
อู่ซงว่า “พอดีพบคนรู้จัก เลยเชิญกินข้าว เมื่อกี้ก็มีคนชวนดื่มแต่ข้าไม่สนใจ ตรงกลับมาบ้าน”
นางว่า “งั้นหรือ ท่านอาผิงไฟสิ”
อู่ซงว่า “ดี” ถอดรองเท้าถุงเท้าออกเปลี่ยนใหม่ แล้วนั่งลงผิงไฟ
นางไปลงกลอนประตูหน้า ปิดประตูหลังด้วย แล้วยกสุราอาหารเข้ามาวางบนโต๊ะในห้องของอู่ซง
อู่ซงถามว่า “พี่ชายยังไม่กลับมาหรือ”
“พี่ชายท่านออกไปค้าขาย ข้าดื่มเป็นเพื่อนท่านอาสักสามจอก”
อู่ซงว่า “รอพี่กลับมาสักครู่ดีกว่า”
“รอไปเมื่อไรจะกลับ ไม่ต้องรอหรอก” แล้วถือกาเหล้าเข้ามา
อู่ซงว่า “อาซ้อนั่งเถิด อู่ซงเอาเหล้าไปอุ่นก่อน”
“ท่านอา ตามสบาย” แล้วยกม้านั่งมานั่งข้างเตาผิง หยิบจอกที่วางอยู่ตรงหัวโต๊ะรินเหล้าส่งให้ “ท่านอา ดื่มจอกนี้ให้หมด”
อู่ซงรับมาดื่มรวดเดียวหมด นางรินเติมอีกจอกว่า “อากาศหนาว ท่านอาดื่มจอกนี้ให้เป็นคู่”
อู่ซงว่า “อาซ้อตามสบาย” รับจอกมาดื่มจนหมด แล้วรินเหล้าส่งให้นางบ้าง นางดื่มจนหมด ยกการินเหล้าอีกจอกวางไว้หน้าอู่ซง
นางยิ้มละไมกล่าวว่า “ข้าฟังเขามาว่า ท่านอาเลี้ยงดูนักร้องไว้ที่ถนนบูรพาหน้าอำเภอ จริงไหม”
“อาซ้ออย่าไปฟังเรื่องเหลวไหล อู่เอ้อไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ข้าไม่เชื่อ กลัวว่าท่านอาปากจะไม่ตรงกับใจ”
“อาซ้อไม่เชื่อ ก็ลองถามพี่ข้าดู”
“เขาจะไปรู้อะไร หากรู้เรื่องแบบนี้คงไม่ต้องเที่ยวขายชุยปิ่งแล้ว ท่านอาเชิญดื่มอีกจอก” แล้วนางก็รินติดต่อให้อีกสี่จอก ส่วนนางเองก็ดื่มไปสามจอก เริ่มพูดเจื้อยไปเรื่อยเปื่อย อู่ซงดื่มไปได้พอมึนจึงเอาแต่นั่งก้มหน้าฟัง
1
นางลุกไปอุ่นเหล้า อู่ซงเอาปากคีบถ่านนั่งเขี่ยไฟในห้อง
นางอุ่นเหล้าแล้วถือกาเหล้ากลับเข้ามาในห้อง เดินมาบีบไหล่อู่ซงแล้วกล่าวว่า “ท่านอา สวมเสื้อแบบนี้ไม่หนาวหรือ”
อู่ซงรู้สึกอึดอัดจึงไม่ตอบ นางเห็นอู่ซงไม่ตอบจึงเอื้อมมือไปคว้าปากคีบถ่านจากมืออู่ซง ปากก็ว่า “ท่านอา เลี้ยงไฟไม่เป็น ข้าช่วยท่านเขี่ยไฟให้ลุกโชนร้อนเร่าเหมือนในเตาถึงจะถูก”
1
อู่ซงหงุดหงิดยิ่งขึ้นถึงแปดส่วนแล้ว จึงไม่พูดจา
นางไม่ทันสังเกตว่าอู่ซงหงุดหงิด วางปากคีบถ่านลงแล้วรินเหล้าใส่จอก ดื่มเสียเองครึ่งหนึ่ง เหลืออีกครึ่ง มองมายังอู่ซงแล้วกล่าวว่า “หากท่านมีใจ ก็ดื่มเหล้าครึ่งจอกที่เหลือนี้”
อู่ซงชิงจอกมาจากนาง สาดเหล้าลงบนพื้นแล้วว่า “อาซ้ออย่าได้ทำเรื่องน่าละอายเช่นนี้”
อู่ซงผลักนางออกไป ถลึงตามองแล้วว่า “อู่เอ้อเป็นชายชาตรียืนหยัดท้าฟ้าดิน หาใช่พวกเลวทรามต่ำช้าเหมือนเดรัจฉาน อาซ้ออย่าได้ทำเรื่องน่าบัดสี หากแพร่งพรายออกไป แม้ในสายตาอู่เอ้อจะเห็นท่านเป็นอาซ้อ แต่หมัดข้าอาจจะไม่ยอมรับท่านหากยังทำเช่นนี้อีก”
นางหน้าแดงก่ำ เก็บถ้วยโถจานชามไปยังห้องครัว ปากก็ว่า “ข้าก็แค่ล้อเล่น ไม่ควรถือเป็นจริงจัง ไม่มีสัมมาคารวะ”
酒作媒人色胆张,贪淫不顾坏纲常。
席间便欲求云雨,激得雷霆怒一场。
ใช้เหล้าสื่อกระพือราคะเบ่งบาน
ลืมหลักการคุณธรรมใฝ่ตัณหา
เสพสุราหวังเสพสมฝนฉ่ำฟ้า
กลับแหย่หาฟ้าผ่าฟาดตวาดก้อง
 
(纲常 = 三纲五常 สามหลักการห้าคุณธรรม)
พานจินเหลียนยั่วยวนอู่ซงไม่สำเร็จ อู่ซงนั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่ในห้อง เวลายามเว่ย 未牌 (14:00 น.) ยังเช้าอยู่ อู่ต้าหาบของกลับมาเคาะประตูบ้าน นางไปเปิดประตูให้ อู่ต้าเก็บหาบเดินตามมายังห้องครัว เห็นนางร้องไห้จนตาแดงจึงถามว่า “ทะเลาะกับใครมาล่ะ”
“เป็นเพราะท่านไม่ได้ความ ปล่อยให้คนมารังแกข้า”
“ใครกล้ารังแกเจ้า”
“รู้อยู่ว่าใคร อู่เอ้อนั่นแหละ ข้าเห็นเขาย่ำหิมะกลับมาจึงรีบอุ่นเหล้าไปให้ เขาเห็นไม่มีใครอยู่ จึงพูดแทะโลมข้า”
อู่ต้าว่า “น้องข้าไม่ใช่คนแบบนั้น เขาเป็นคนซื่อ อย่าเอ็ดเสียงดังไป อายข้างบ้านเขา”
อู่ต้าเดินมาเรียกอู่ซงหน้าห้องว่า “น้องรอง ข้ายังไม่ได้กินอะไรรองท้อง ออกมากินด้วยกัน”
อู่ซงเงียบไม่ตอบ คิดอยู่ครู่ใหญ่จึงจัดแจงแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเดินออกจากบ้านไป อู่ต้าตะโกนเรียก “น้องรองจะไปไหน” อู่ซงเอาแต่เดินไม่ยอมตอบ
อู่ต้ากลับเข้ามาถามภรรยาว่า “ข้าเรียกเขาก็ไม่ตอบ เอาแต่เดินไปทางอำเภอ ไม่รู้มีอะไร”
นางด่าส่งว่า “เศษสวะ เห็นอยู่ว่าคงอายไม่กล้าสู้หน้าท่าน ออกไปนี่ ข้าเดาเอาว่าคงไปตามคนมาช่วยขนของย้ายออกจากบ้านนี้”
อู่ต้าว่า “เขาย้ายออกไป คนคงหัวเราะเยาะเรา”
นางว่า “อายกับผีสิ เขามาแทะโลมข้า คนไม่หัวเราะเอาหรือไร ท่านจะไปญาติดีกับเขา ข้าทำไม่ได้ ท่านทำหนังสือหย่ามา แล้วเชิญไปอยู่ด้วยกันตามสบาย”
สองผัวเมียคุยกันอยู่นั้น อู่ซงก็พาทหารรับใช้ถือคานหาบเข้ามาช่วยเก็บข้าวของหาบออกไป อู่ต้าออกมาถามว่า “น้องรอง ทำไมจะย้ายออกไปเสียล่ะ”
อู่ซงว่า “พี่ไม่ต้องถาม พูดไปจะหาว่าแก้ตัว ข้าไปก็แล้วกัน”
1
อู่ต้าจึงไม่กล้าถามรายละเอียด ส่วนเมียก็ตะโกนด่ามาจากในบ้าน “ก็ดี มีน้องเป็นตูโถว คิดว่าจะช่วยพี่ ที่ไหนได้ กลับมาแว้งกัดกัน พวกท่าดีทีเหลว ย้ายออกไปให้พ้นหูพ้นตาเสียได้ ต้องขอบคุณฟ้าดิน”
อู่ซงย้ายออกไป อู่ต้าวันๆ ก็ยังคงหาบชุยปิ่งขาย จะไปคุยกับน้องชายให้รู้เรื่องเมียก็กำชับไว้ไม่ให้ไปยุ่งด้วย จึงไม่ได้ไป
สิบกว่าวันผ่านไป นายอำเภอซึ่งย้ายมาอยู่ได้สองปีครึ่งแล้ว เก็บทรัพย์สินเงินทองได้จำนวนหนึ่งอยากจะส่งไปทางบ้านที่ตงจิงแต่เกรงจะถูกปล้นชิงไประหว่างทาง คิดถึงอู่ซงว่าไว้ใจได้จึงตามตัวมาสั่งงาน อู่ซงย่อมเต็มใจไปและอยากจะหาโอกาสไปเที่ยวตงจิงด้วย
อู่ซงออกจากอำเภอมา ให้ทหารไปช่วยซื้ออาหารสด แล้วเดินมารออู่ต้าที่หน้าบ้านถนนจื่อสือ อู่ต้าขายของหมดเดินกลับมาเห็นอู่ซงรออยู่จึงให้เข้าในบ้าน ทหารรับใช้เอาอาหารไปเตรียมในห้องครัว ส่วนพานจินเหลียนเห็นอู่ซงซื้อสุราอาหารมาจึงคิดว่า
“คงคิดถึงข้าล่ะสิ ถึงได้กลับมา แข็งขืนไปได้กี่น้ำ เดี๋ยวค่อยพูดจากัน”
นางรีบขึ้นห้องไปประแป้งแต่งหน้าเปลี่ยนชุดสวยใหม่แล้วลงมาต้อนรับอู่ซง คารวะแล้วว่า “ท่านอา หายหน้าไปหลายวัน ข้าก็เป็นห่วงอยู่บอกให้พี่ชายท่านไปหาที่อำเภอ ก็กลับมาบอกว่าหาไม่เจอ วันนี้มาก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องเปลืองเงินซื้อข้าวของมาด้วย”
อู่ซงว่า “อู่เอ้อมีเรื่องตั้งใจมาคุยกับพี่และอาซ้อโดยเฉพาะ”
นางว่า “อย่างนี้นี่เอง เชิญบนบ้านเถอะ”
ทั้งสามนั่งลงรับประทานอาหารที่ทหารรับใช้ตระเตรียมให้ ดื่มสุราไปได้ห้ารอบ อู่ซงก็ให้ทหารรินเหล้าจอกใหม่ให้แล้วชูจอกขึ้นกล่าวว่า
“ท่านพี่ วันนี้อู่เอ้อได้รับมอบหมายงานให้ไปทำที่ตงจิง ออกเดินทางเช้าวันพรุ่งนี้ ไปเที่ยวนี้ใช้เวลาอย่างน้อยสี่สิบกว่าวัน แต่คงไม่เกินสองเดือน ระหว่างที่ข้าไม่อยู่นี้เกรงจะมีคนมารังแกพี่ท่าน ท่านเคยขายของวันละสิบซึ้ง ก็ลดเสียเหลือวันละห้าซึ้ง ออกจากบ้านให้สายหน่อย กลับให้ไวขึ้น ไม่ต้องไปแวะกินข้าวกับใคร กลับมาบ้านก็ปิดม่านปิดประตูเลย เรื่องจะได้น้อยหน่อย หากมีใครมารังควานก็อย่าตอบโต้ รอข้ากลับมาจะจัดการให้ หากท่านพี่รับปาก ก็จงดื่มเหล้าจอกนี้ให้หมด”
อู่ต้ารับจอกเหล้ามาว่า “ที่น้องว่ามา ข้ารับปากเจ้า” แล้วดื่มเหล้าหมดจอก
อู่ซงรินเหล้าจอกที่สอง กล่าวต่อพี่สะใภ้ว่า
“อาซ้อเป็นคนละเอียด คงไม่ต้องให้อู่ซงพูดมากความ พี่ชายข้าเป็นคนง่ายๆ ต้องอาศัยอาซ้อคอยดูแล กล่าวกันว่า แกร่งนอกมิสู้แกร่งใน 表壮不如里壮 อาซ้อดูแลบ้านได้สงบ พี่ชายข้าก็ยุ่งยากน้อยหน่อย ดังโบราณว่า ล้อมรั้วไว้ หมาไม่เข้า 篱牢犬不入”
1
นางได้ฟังคำอู่ซงแล้วหน้าแดงถึงใบหู กลับชี้หน้าด่าอู่ต้าหลางว่า
“เจ้าคนสารเลว คงไปเที่ยวพูดกับใครต่อใคร กล่าวหาข้าต่างๆ นานา หาว่าข้าสวมเขาบ้าง นอกใจบ้าง ตั้งแต่ข้าแต่งกับเจ้าอู่ต้า มดมอดสักตัวก็เล็ดรอดเข้าบ้านไม่ได้ พูดไปได้ถึงล้อมรั้วไม่ให้หมาเข้า เจ้าพูดจาเหลวไหล แต่ละคำล้วนแดกดันหาเหาใส่หัวข้า”
1
อู่ซงหัวเราะแล้วว่า “เมื่ออาซ้อว่าเช่นนี้ก็ดีแล้ว ขอให้ปากตรงกับใจ อย่าพูดอย่างทำอย่าง อู่เอ้อจะจำคำอาซ้อไว้ให้ขึ้นใจ เชิญดื่มเหล้าจอกนี้”
นางปัดมือที่ถือเหล้า วิ่งลงบันไดไปได้ครึ่งทางก็พูดว่า “เจ้าฉลาดนัก คงเคยได้ฟังเขาว่า “พี่สะใภ้ใหญ่เปรียบเหมือนแม่ 长嫂为母” ข้าแต่งกับอู่ต้ามา ไม่เคยได้ยินว่ามีท่านอา อยู่ๆ ก็โผล่มา เป็นแค่พี่น้อง กลับมาสวมรอยเป็นเจ้าบ้าน 乔家公 ข้ามันโชคร้ายมาเจอเรื่องแบบนี้” ว่าแล้วก็ลงบันไดไป
良言逆听即为仇,笑眼登时有泪流。
只是两行淫祸水,不因悲苦不因羞。
คำจริงฟังขัดหูจึงขัดแค้น
รอยยิ้มแทนด้วยน้ำตาไหลพราก
แต่เป็นเพียงสองสายธารน้ำร่านหลาก
หาใช่จากรู้เศร้าหรือรู้อาย
อู่ซงกราบลาพี่ชาย อู่ต้าว่า “น้องเรา รีบไปรีบกลับ ไว้พบกันใหม่” พูดไปน้ำตาไหลพราก
อู่ซงว่า “พี่ไม่ต้องออกไปขายของก็ได้ อยู่แต่ในบ้าน เรื่องค่าใช้จ่ายนั้นข้าจะส่งมาให้เอง”
อู่ต้าเดินมาส่งน้องชายชั้นล่าง อู่ซงกำชับว่า “พี่ใหญ่ ที่ข้าบอก อย่าลืมเสียล่ะ”
อู่ซงกลับอำเภอมาเก็บสัมภาระ เช้าวันรุ่งขึ้น นายอำเภอเตรียมรถขนของไว้แล้วหนึ่งคัน คัดทหารมาติดรถสองนาย มีคนในบ้านที่ไว้ใจได้อีกสองคน ทั้งสี่คนนั้นให้ฟังคำสั่งอู่ซง คณะเดินทางทั้งห้าออกเดินทางจากอำเภอหยางกู่มุ่งสู่ตงจิง
อู่ต้าถูกเมียด่าติดกันถึงสี่วันนับแต่วันที่อู่ซงมาสั่งความก่อนออกเดินทางไปตงจิง อู่ต้าได้แต่กล้ำกลืนไม่ตอบโต้ และทำตามที่รับปากกับน้องชายไว้ ลดนึ่งชุยปิ่งออกขายเสียครึ่งหนึ่ง ฟ้าไม่ทันค่ำก็รีบกลับบ้าน กลับมาถึงก็ปิดม่านปิดประตูอยู่แต่ในบ้าน
เมียก็เลยชี้หน้าด่าว่า “คนไม่เอาไหน ไม่เคยพบเคยเห็นใครเขาปิดประตูตายแต่หัววัน ใครเขาคงคิดว่าขังผีเอาไว้ ฟังคำน้องเจ้า ทำเอาคนหัวเราะเยาะ”
อู่ต้าว่า “ก็ให้เขาหัวเราะไปว่าข้าปิดบ้านขังผี น้องข้าพูดด้วยหวังดี ไม่อยากให้มีเรื่องมีราว”
นางว่า “ไม่เอาไหน เป็นผู้ชายเสียเปล่า ให้เขาจูงจมูก”
อู่ต้าโบกมือว่า “เอาอย่างที่เขาว่าแหละ วาจามีค่าดั่งทอง”
อู่ซงไปได้สิบกว่าวัน อู่ต้าก็ออกสายกลับเร็ว แล้วรีบปิดประตูปิดม่าน เมียด่าได้ไม่กี่วันก็เริ่มชิน อู่ต้ายังไม่ทันกลับก็ปิดม่านปิดประตูเสียเอง อู่ต้าเห็นแล้วก็ชอบใจ
ตอนก่อนหน้า : พานจินเหลียน
ตอนถัดไป : ซีเหมินชิ่ง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา