13 ธ.ค. 2023 เวลา 12:26 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 51

อู่ซง ผู้จาริก (5) ซีเหมินชิ่ง
ผ่านไปอีกสามวันใกล้สิ้นฤดูหนาว ฟ้ามีแดดอุ่น ใกล้เวลาอู่ต้าจะกลับบ้าน หญิงสาวมาปิดม่านประตูตามความเคยชิน แต่พลาดทำไม้ค้ำม่านหลุดมือหล่นใส่หัวคนที่เดินผ่านมาพอดี คนผู้นั้นหยุดเท้าฉุนกึกหันกลับมาทันที แต่พอเห็นใบหน้าสะคราญจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ความฉุนเฉียวก็โบกโบยไปยังเกาะชวาโพ้น 直钻过爪洼国去了(สำนวนนี้ซือไน่อันเขียนเอง แสดงว่ายุคนั้นก็รู้จักเกาะชวาว่าอยู่ไกลโพ้น) เปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
นางรีบประสานมือว่านฝู 道万福 กล่าวว่า “ข้าน้อยหลุดมือ ขออภัยนายท่าน”
ชายนั้นจัดผ้าโพกหัว แล้วก้มประสานมือตามมารยาทตอบว่า “ไม่เป็นไร แม่นางอย่าได้ถือสา”
ยายหวางร้านน้ำชาข้างบ้านเห็นเหตุการณ์เข้าจึงหัวเราะแล้วทักว่า “ใครใช้ให้นายท่านเดินผ่านชายคาบ้านเขาล่ะ โดนเข้าพอดี”
ชายนั้นหัวเราะแล้วว่า “ข้าน้อยไม่ดีเอง ชนถูกแม่หญิงขออภัย”
นางตอบว่า “นายท่านอย่าได้ถือโทษ”
ชายนั้นหัวเราะ ลากเสียงขานคารวะยาวแล้วว่า “ผู้น้อยมิกล้า” ตาก็เอาแต่จ้องมองหญิงสาว พอออกเดินก็ยังหันกลับมามองอีกหลายรอบ ก่อนจะก้าวอาดๆ เดินจากไป
篱不牢时犬会钻,收帘对面好相看。
王婆莫负能勾引,须信叉竿是钓竿。
ล้อมรั้วไว้ไม่ดีมีหมาผ่าน
มาปิดม่านสบหน้าสานตาจ้อง
จึงสบช่องยายหวางสานสมสอง
คันไม้ค้ำผ่องถ่ายกลายคันเบ็ด
ชายผู้นั้นเป็นชาวอำเภอหยางกู่ ทางบ้านเป็นเศรษฐีมีทรัพย์เปิดร้านขายสมุนไพรอยู่หน้าอำเภอ เป็นคนเกเรมาแต่เล็ก ชอบฝึกกระบี่กระบอง ผลาญเงินทางบ้านจนหมด แต่มาช่วงหลังนี้ร่ำรวยใหญ่ ด้วยหากินค้าความบิดเบือนคดี รีดไถ วิ่งเต้นติดสินบนเจ้าหน้าที่อำภอ คนทั้งอำเภอจึงไม่อยากมีเรื่องด้วย มีแซ่ว่า ซีเหมิน 西门 ชื่ออักษรเดียวว่า ชิ่ง 庆 เป็นบุตรคนโต จึงเรียกอีกว่า ซีเหมินต้าหลาง 西门大郎 พักหลังนี้ค้าความร่ำรวยคนจึงเรียกว่า ท่านขุนนางใหญ่ซีเหมิน 西门大官人 (ซีเหมินต้ากวนเหยิน)
หลังเหตุการณ์วันนั้นไม่นานนัก ซีเหมินชิ่งก็มาหายายหวาง พอเข้ามานั่งในร้าน ยายหวางก็หัวเราะว่า “นายท่านวันก่อนลากเสียงทักทายเสียยาวเชียว”
ซีเหมินชิ่งหัวเราะแล้วถามว่า “ท่านแม่ 干娘 แม่หญิงข้างบ้านนี้ เมียใครกัน”
ยายหวางว่า “นางเป็นน้องสาวพญายม ลูกสาวนายพลอู่เต้า 五道将军 (ผู้ดูแลการเกิดดับ)ถามทำไมหรือ”
“ข้าถามจริงจัง ท่านอย่าพูดเล่น”
“นายท่านทำไมจะไม่รู้จัก ผัวนางขายของกินอยู่หน้าอำเภอ”
“คงไม่ใช่เมียสวีซานคนขายขนมพุทรามัง”
“ไม่ใช่ ถ้าเป็นเขาก็นับเป็นคู่ที่เหมาะสม ท่านขุนนางใหญ่ลองทายดูใหม่”
“คงเป็นเมียหลี่เอ้อที่ใช้หาบเงินมัง”
ยายหวางสั่นหัว “ไม่ใช่ คนนั้นกลับเป็นคู่ที่เหมาะกัน”
“กลับเป็นเมียเจ้าแขนลายลู่เสี่ยวอี่หรอกหรือ”
ยายหวางหัวเราะแล้วว่า “ไม่ใช่ ถ้าใช่ ก็นับเป็นคู่สร้างคู่สม ท่านขุนนางใหญ่ลองทายใหม่”
“ท่านแม่ ข้าทายไม่ถูกหรอก”
1
ยายหวางหัวเราะร่วนว่า “บอกให้นายท่านรู้จะได้ช่วยขำ ผัวนางก็คนที่เร่ขายชุยปิ่ง อู่ต้าหลาง”
ซีเหมินชิ่งกระทืบเท้าหัวเราะว่า “คงไม่ใช่ไอ้สามนิ้วผิวเปลือกไม้ 三寸丁谷树皮 อู่ต้าหลางละมัง”
“ก็คนนั้นแหละ”
“เนื้อชั้นดีหลุดเข้าปากหมาได้อย่างไรนี่”
ยายหวางว่า “เป็นเรื่องเศร้า โบราณว่า
骏马却驮痴汉走 美妻常伴拙夫眠
ม้าพ่วงพีมักมีคนโง่ขี่
เมียงามมักมีคนทรามร่วมหมอน
เฒ่าเงาจันทร์ 月下老 (กามเทพ)มักอุ้มสมผิดฝาผิดตัวเช่นนี้แหละ”
ซีเหมินชิ่งว่า “ท่านแม่หวาง ค่าน้ำชาเท่าไร” เริ่มออกนอกเรื่อง
“ไม่เท่าไร ไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยคิด”
ซีเหมินชิ่งว่า “ลูกชายท่านไปกับใคร” นอกเรื่องอีก
“ไม่รู้สิ ตามเขาไปไหวยส้าง 淮上 ป่านนี้ยังไม่กลับ ไม่รู้เป็นตายร้ายดี”
“ไม่ให้เขามาติดตามข้า”
“ได้นายท่านส่งเสริม ดียิ่งนัก”
ซีเหมินชิ่งว่า “รอเขากลับมา แล้วค่อยว่ากัน” แล้วคุยสัพเพเหระไปพักหนึ่งก็ลุกขึ้นเดินจากไป
ยังไม่ถึงสองชั่วโมง ก็วกกลับมานั่งที่ร้านยายหวางอีก จ้องมองไปยังประตูบ้านของอู่ต้า
ครู่หนึ่ง ยายหวางก็ออกมาถามว่า “ท่านขุนนางใหญ่ ดื่มน้ำบ๊วย 梅汤ไหม”
(ผล 梅 บ๊วย หรือ เหมย พ้องเสียงทั้งภาษาแต้จิ๋วและจีนกลางกับ 媒 แม่สื่อ คำว่าลูกบ๊วย ถือเป็นคำไทยที่ใช้ทับศัพท์และรู้ความหมายกันทั่วไป หากใช้ว่า ลูกเหมย จะไม่รู้เรื่องกัน)
ซีเหมินชิ่งตอบว่า “ให้ดีควรเปรี้ยวสักนิด”
ยายหวางชงน้ำบ๊วยประคองสองมือส่งให้ซีเหมินชิ่งรับมาค่อยๆ ดื่มแล้ววางถ้วยลงบนโต๊ะ
“ท่านแม่หวาง ทำบ๊วยได้ดีนัก ในบ้านมีเยอะไหม”
ยายหวางหัวเราะตอบว่า “ยายเฒ่าเป็นแม่สื่อมาชั่วชีวิต ในบ้านก็มีข้าคนเดียว”
ซีเหมินชิ่งว่า “ข้าถามถึงบ๊วยสกัดน้ำ ท่านกลับพูดถึงบ๊วยสื่อสายใย คนละเรื่องกัน”
ยายหวางว่า “ยายเฒ่าได้ยินนายท่านว่า ทำบ๊วยได้ดี ยายเฒ่าก็คิดว่าเป็นบ๊วยแม่สื่อ”
1
ซีเหมินชิ่งว่า “ท่านแม่ หากท่านช่วยอุ้มสม เป็นสื่อจนสำเร็จ ข้าจะสมนาคุณอย่างงาม”
“นายท่าน หากบ้านใหญ่ท่านรู้เข้า คงฉีกหน้าข้าถึงใบหูแน่”
“บ้านใหญ่ข้าเป็นคนประเสริฐยิ่ง ไม่ค่อยว่าอะไรหรอก ปัจจุบันก็รับไปอยู่ด้วยกันแล้วหลายคน แต่ยังไม่มีใครถูกใจข้า หากท่านมีดีก็ช่วยแนะนำด้วย จะเป็นแม่หม้าย 回头人 ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงถูกใจ”
ยายหวางว่า “วันก่อนมีอยู่คนหนึ่ง กลัวแต่ว่านายท่านจะไม่เอา”
“หากดีแล้ว ท่านก็ช่วยเจรจาให้ข้า จะเป็นพระคุณ”
ยายหวางว่า “เป็นคนดีมากทีเดียว แต่อายุมากสักหน่อย”
ซีเหมินชิ่งว่า “แก่กว่าสักปีสองปี ก็ไม่เป็นไร อายุเท่าไรล่ะ”
ยายหวางว่า “นางเกิดปีซวีหยิน 戊寅生 นักษัตรปีเสือ 属虎 ปีใหม่นี้ก็อายุเก้าสิบสามพอดี”
ซีเหมินชิ่งหัวเราะแล้วว่า “ยายเฒ่าเพี้ยน ท่านก็เอาแต่ล้อเล่น” แล้วก็ลุกเดินจากไป
พอฟ้ามืด ยายหวางจุดตะเกียงเตรียมปิดร้าน ซีเหมินชิ่งมาอีกแล้ว เข้ามานั่งแล้วมองไปยังบ้านอู่ต้าอีก
1
ยายหวางว่า “ท่านขุนนางใหญ่ จะรับน้ำชากลมเกลียว 和合汤 ไหม”
“ดีมาก เอาหวานหน่อยนะท่านแม่”
ซีเหมินชิ่งนั่งเฝ้าอีกทั้งคืน พอลุกขึ้นก็บอกว่า “ท่านแม่ลงบัญชีไว้ พรุ่งนี้มาจ่ายทีเดียว”
ยายหวางว่า “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่นะ” ซีเหมินชิ่งหัวเราะแล้วเดินกลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น ยายหวางจะมาเปิดร้าน มองออกไปก็เห็นซีเหมินชิ่งเดินไปเดินมาอยู่หน้าร้านแล้ว จึงคิดว่า “เจ้าทึ่มนี่เกาะติดแจเชียว ต้องเอาน้ำตาลป้ายจมูกเอาแบบให้เลียไม่ถึง ค้าความที่อำเภอรวยนัก ต้องให้เอามาจ่ายให้ยายเฒ่าเสียบ้าง”
ยายหวางนี้เป็นยายเฒ่าเจ้าคารม
开言欺陆贾,出口胜隋何。
只鸾孤凤,霎时间交仗成双;
寡妇鳏男,一席话搬唆捉对。
略施妙计,使阿罗汉抱住比丘尼;
稍用机关,教李天王搂定鬼子母。
甜言说诱,男如封涉也生心;
软语调和,女似麻姑能动念。
教唆得织女害相思,调弄得嫦娥寻配偶。
เจรจาพาทีเหนือลู่เจี่ย
พูดเสียลิงหลับสุยเหออาย
แม้แต่พญาหงส์ผู้โดดเดี่ยว
ได้ฟังเพียงเดี๋ยวเดียวมีคู่หมาย
ต่อให้เป็นพ่อร้างหรือแม่หม้าย
สุดท้ายได้คู่ใหม่สุขี
ออกอุบายแยบยลสักเพียงนิด
อรหันต์ตระกองชิดภิกษุณี
เวสสุวรรณโอบบ่าหาริตี
แผนการดีเพียงเสี้ยวที่ใช้ไป
จีบปากจีบคอล่อคำหวาน
ยอดชายชาญเฟิงเส้อใจหวั่นไหว
พาทีอ่อนน้อมตะล่อมไว้
ให้เทพีหมากูใจเปลี่ยนผัน
สาวทอผ้าฟังวาจาเฝ้าคิดถึง
ฉางเอ๋อยังรำพึงคะนึงคู่
(ลู่เจี่ย 陆贾 สุยเหอ 隋何 ทั้งคู่เป็นนักการทูตลิ้นทองของหลิวปังยุคต้นราชวงศ์ฮั่น
นางหาริตี 鬼子母 ยักษินีในพุทธศาสนานิกายมหายาน มีหน้าที่คุ้มครองเด็กและเป็นผู้พิทักษ์ศาสนา
หมากู 麻姑 เทพีผู้จำแลงร่างลงมาเกิดในโลกมนุษย์
ฉางเอ๋อ 嫦娥 เทพีแห่งดวงจันทร์)
ยายหวางก่อไฟต้มน้ำ แล้วเปิดหน้าร้าน ซีเหมินชิ่งก็มานั่งแล้วมองไปยังบ้านอู่ต้าอีก ยายหวางทำเป็นมองไม่เห็น ไม่เข้ามาถามว่าต้องการอะไร
ซีเหมินชิ่งจึงตะโกนเรียกว่า “ท่านแม่ เอาน้ำชามาสองถ้วย”
ยายหวางจึงค่อยกระเซ้าว่า “นายท่านมาแล้วหรือ ไม่เห็นเสียหลายวัน เชิญนั่ง” แล้วจัดแจงชงชาขิง 姜茶 เข้มข้นมาให้สองถ้วยวางไว้บนโต๊ะ
ซีเหมินชิ่งถามว่า “ท่านแม่ ข้างบ้านนี่เขาขายอะไร”
ยายหวางว่า “ขายแป้งนุ่มไก่แซ่บเนื้อเอ๊าะๆ”
“ยายหวางเพี้ยนไปแล้ว”
“ข้าไม่ได้เพี้ยน คนเขามีผัวแล้ว”
“ท่านแม่ พูดเรื่องจริงดีกว่า ฟังว่าเขาทำชุยปิ่งอร่อย ข้าว่าจะสั่งซื้อสักห้าสิบชิ้น ไม่รู้ว่ายังอยู่บ้านหรือออกไปข้างนอกแล้ว”
“จะซื้อชุยปิ่งก็ไปรอซื้อที่ตลาดสิ จะมาเฝ้าประตูทำไม”
“ท่านแม่พูดก็ถูก” ซีเหมินชิ่งดื่มชา แล้วนั่งสักพักก็ลุกขึ้นบอกว่า “ท่านแม่ ลงบัญชีไว้ก่อน”
ยายหวางว่า “ไม่เป็นไร ข้าจดไว้หมดแหละ” ซีเหมินชิ่งหัวเราะแล้วเดินจากไป
อีกพักใหญ่มาอีกแล้ว ยายหวางเห็นซีเหมินชิ่งเดินจากซ้ายย้ายไปขวาพลางมองบ้านอู่ต้า เดินจากขวาแล้วมาซ้ายเหลียวมองบ้านอีก เดินกลับไปกลับมาอยู่เจ็ดแปดรอบแล้วเข้ามาในร้าน
ยายหวางจึงทักว่า “นายท่านไม่ค่อยแวะมา ไม่เห็นเสียนาน”
ซีเหมินชิ่งหัวเราะแล้วควักเงินหนึ่งตำลึงส่งให้ยายหวางว่า “ท่านแม่ นี่เป็นค่าน้ำชา”
ยายหวางว่า “ทำไมให้เกินมาเยอะ”
“ท่านก็เก็บเอาไว้”
“มาละ เจ้าทึ่มติดกับแล้ว” ยายหวางแอบดีใจแล้วรีบเก็บเงินขึ้น
ยายหวางว่า “ยายเฒ่าว่านายท่านคงกระหาย รับชาคั่ว เยี่ยเอ๋อ 宽煎叶儿茶 สักหน่อยไหม”
“ทำไมท่านแม่ถึงทายถูก”
“จะเดายากอะไร โบราณว่า
入门休问荣枯事,观着容颜便得知。
เข้าบ้านมิพักถามร้ายหรือดี
เพียงสังเกตสีหน้าย่อมรู้ได้
จะมาไม้ไหนยายเฒ่าทายถูกหมด”
“ข้ายังมีเรื่องคาใจอีกเรื่อง ถ้าท่านแม่ทายถูก ข้าจ่ายให้ห้าตำลึง”
ยายหวางหัวเราะแล้วว่า “ยายเฒ่าไม่ต้องทายหลายครั้งหรอก ครั้งเดียวก็ถูกตรงเผง นายท่านเอียงหูมา สองวันมานี้ท่านเอาแต่เดินไปเดินมา คงไม่แคล้วคิดถึงคนข้างบ้าน ถูกไหมเล่า”
ซีเหมินชิ่งหัวเราะว่า “ท่านแม่ฉลาดเหมือนสุยเหอ 隋何 เจ้าเล่ห์เหนือลู่เจี่ย 陆贾 ไม่ปิดท่านละ นับแต่วันที่ไม้ค้ำตกใส่หัว นางก็ฉกวิญญาณข้าไปเสียแล้ว แต่ไม่รู้จะหาเหตุเข้าหานางได้อย่างไร ไม่รู้ว่าท่านพอจะมีลู่ทางไหม”
ยายหวางหัวเราะร่วนกล่าวว่า “บอกตามตรง ร้านของข้าขายชา “ผีบอกยาม 鬼打更 (ไม่มีลูกค้า)” ขายรายแรกในวันหิมะตกเมื่อวันที่สามเดือนหกสามปีก่อน (หิมะที่ไหนจะตกหน้าร้อนเดือนหก) จนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ได้เปิดตลาดใหม่เลย ได้แต่อาศัยงานอดิเรก 杂趁 เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง” (งานอดิเรกแท้จริงคืองานหลัก)
ซีเหมินชิ่งถามว่า “งานอดิเรกอะไรของท่าน”
ยายหวางหัวเราะว่า “หลักๆ ของยายเฒ่าคือเป็นแม่สื่อ นอกนั้นก็หาเด็ก ปล่อยกู้ เป็นหมอตำแย และยังเป็นหม่าป๋อลิ่ว 马泊六 ตัวกลางสานสายใยให้ชู้รัก”
ซีเหมินชิ่งว่า “ถ้าท่านแม่ช่วยเจรจาจนสำเร็จ ข้าจะให้สิบตำลึงเป็นค่าโลงศพ”
(การซื้อโลงศพสมัยก่อน ไม่ใช่การแช่ง แต่เป็นการใช้จ่ายเตรียมการล่วงหน้า)
ยายหวางผู้ช่ำชองแจกแจงตำราเล่นชู้ว่า
“นายท่านฟังจงดี เล่นชู้ 捱光 สองคำนี้ยากอยู่ มีเงื่อนไขห้าข้อ
ข้อหนึ่ง หล่อเหมือน พานอาน 番安
ข้อสอง ใช้งานอึดเหมือนลา 驴
ข้อสาม มีเงินเหมือน เติ้งทง 邓通
ข้อสี่ ใส่ใจ มีความเพียรอุตสาหะ 小心
ข้อห้า ว่างพอที่จะมีเวลาอยู่ด้วย 闲
หัวใจคาถาเล่นชู้เรียกว่า “หล่อ ลา เงิน ใจ ว่าง” (“潘、驴、邓、小、闲” พาน หลู เติ้ง เสี่ยว เสียน)
มีครบห้าประการ จึงประสบความสำเร็จ”
(พานอาน 潘安 คือ พานเยว่ 潘岳 ชื่อทางการ อานเหยิน 安仁 เป็นบัณฑิตมีชื่อเสียงยุคจิ้นตะวันตก 西晋 เป็นที่มาของสำนวนจีน หล่อเหมือนพานอาน 貌若潘安 พานอานมีภรรยาแซ่หยาง 杨氏 รักใคร่อยู่กินกันจนแก่เฒ่าเป็นที่ชื่นชมจนมีคำกล่าวว่า รักใคร่กันดีเหมือนพานหยาง 潘杨之好
เติ้งทง 邓通 ยุคฮั่นตะวันตก 西汉 เป็นขุนนางคนสนิทของฮั่นเหวินตี้ 汉文帝 ทำเหมืองทองแดง และผลิตเงินเหรียญออกใช้หมุนเวียนเรียกว่า เหรียญเติ้งทง 邓通钱 จึงร่ำรวยมาก แต่มีเรื่องผิดใจกับรัชทายาท หลิวฉี่ 刘启 เมื่อขึ้นครองราชย์เป็นฮั่นจิ่งตี้ 汉景帝 เติ้งทงจึงถูกปลดและจองจำ มีบั้นปลายน่าอนาถ)
ตอนก่อนหน้า : อู่ซงรื้อสะพาน
ตอนถัดไป : อุบายยายหวาง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา