25 ธ.ค. 2023 เวลา 12:31 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 56

อู่ซง ผู้จาริก (10) เหอจิ่วซู
เหอจิ่วซู 何九叔 นึกสงสัยนักว่า “เรื่องนี้แปลกจริง ข้ามาชันสูตรศพอู่ต้า ทำไมต้องเอาเงินมาให้มากมาย ต้องมีเงื่อนงำเป็นแน่”
มาถึงหน้าบ้านอู่ต้า ก็เห็นสัปเหร่อ 火家 มากันก่อนแล้วอยู่หลายคนจึงถามว่า “อู่ต้านี่เป็นอะไรตาย”
สัปเหร่อตอบว่า “ทางบ้านเขาบอกว่าเป็นโรคหัวใจ”
เหอจิ่วซูเข้าไปในบ้าน ยายหวางออกมาต้อนรับว่า “รอท่านอาอยู่นานแล้ว”
เหอจิ่วซูว่า “ติดธุระนิดหน่อย จึงมาสาย” พอเห็นเมียอู่ต้าเดินร้องไห้ออกมาก็กล่าวว่า “แม่นางอย่าได้เศร้าโศกมากนัก อู่ต้าจะได้จากไปอย่างสงบ”
นางแสร้งทำเป็นปาดน้ำตาว่า “ไม่คิดเลยว่าสามีบ่นเจ็บหน้าอกเพียงไม่กี่วันก็จากไปเสียแล้ว ข้าน้อยทุกข์ใจยิ่งนัก”
เหอจิ่วซูมองดูท่าทางพานจินเหลียนอย่างละเอียด พร่ำในใจว่า “เคยได้ฟังเขาพูดกันถึงเมียอู่ต้า ไม่เคยเห็นตัว ที่แท้อู่ต้าได้เมียเช่นนี้ เงินสิบตำลึงของซีเหมินชิ่งมีที่มาที่ไปชัดเจนแล้ว”
เหอจิ่วซูเลิกผ้าคลุมศพ 千秋幡 ขึ้น เปิดผ้าขาวคลุมหน้าออก ใช้หลักวิชาแพทย์ห้าธาตุแปดองค์ 五轮八宝 สังเกตุลูกตาศพแล้วถึงกับผงะหงายหลังกระอักเลือด ยิ่งสังเกตเล็บเขียวคล้ำ ริมฝีปากม่วง ผิวเหลืองซีด ตาไร้ประกาย
身如五鼓衔山月,命似三更油尽灯
ร่างดังจันทร์ลับขอบฟ้ายามห้า
ชีวาหมดน้ำมันตะเกียงยามสาม
 
บ่งลักษณะการตายอย่างทุกข์ทรมาน
พวกสัปเหร่อเห็นเหอจิ่วซูล้มลงจึงเข้าไปช่วยกันพยุง
ยายหวางว่า “นี่คงโดนของ เอาน้ำมา” แล้วพ่นน้ำใส่เสียสองคำ เหอจิ่วซูค่อยๆ ขยับตัว ฟื้นคืนสติมา
ยายหวางว่า “พาอาเก้ากลับไปบ้านก่อน แล้วค่อยว่ากัน” สัปเหร่อสองคนจึงใช้บานประตูเก่าต่างเปลสนามแบกเหอจิ่วซูกลับบ้านไป ภรรยาอาเก้าออกมารับ แล้วให้พาไปนอนบนเตียง
ภรรยาอาเก้าร้องไห้ว่า “ตอนออกไปยังยิ้มระรื่นอยู่เลย ทำไมกลับมาแบบนี้ ปกติก็ไม่เคยเห็นจะโดนของ” แล้วก็นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง
เหอจิ่วซูแอบมองดูว่าลูกน้องไม่อยู่แล้ว จึงเตะสะกิดภรรยาว่า
1
“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร ตอนไปชันสูตรศพที่บ้านอู่ต้า ที่ปากทาง ข้าพบซีเหมินชิ่งที่เปิดร้านขายสมุนไพรอยู่หน้าอำเภอ เขาเชิญข้าไปเลี้ยงข้าว แล้วเอาเงินให้ข้ามา บอกว่า “ศพที่ไปชันสูตร มีเรื่องใดให้ปิดเสีย” พอข้าไปถึงบ้านอู่ต้า ได้พบเมียเขาก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี ข้าก็นึกสงสัยอยู่แปดเก้าส่วนแล้ว
2
พอถึงตอนที่ไปเปิดผ้าคลุมศพ เห็นใบหน้าอู่ต้าสีม่วงคล้ำ มีรอยเลือดออกทั้งเจ็ดทวาร ริมฝีปากมีรอยฟันกัด ต้องตายเพราะถูกพิษแน่ เดิมทีข้าคิดจะเปิดโปง แต่กลัวว่านอกจากไม่มีเจ้าทุกข์รับผิดชอบแล้ว กลับไปผิดใจกับซีเหมินชิ่ง มิเท่ากับไปแหย่รังแตนเข้าดอกหรือ ได้แต่ทำส่งๆ ให้ใส่โลงไปก่อน
อู่ต้าน่ะมีน้องชาย ก็คืออู่ตูโถวที่ตีเสือตายบนเนินจิ่งหยาง เป็นคนที่ฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา หากกลับมาไว เรื่องนี้คงถูกเปิดโปง”
ภรรยาว่า “วันก่อนได้ยินคนพูดกันว่า วิ่นเกอลูกชายเฒ่าเฉียวที่อยู่ซอยด้านหลัง ไปช่วยอู่ต้าจับชู้ที่ถนนจื่อสือ ก่อกวนร้านน้ำชาเสียวุ่นวาย ก็คงเป็นเรื่องนี้ ท่านค่อยๆ สอบถามเขาดูได้
ตอนนี้เรื่องมันยุ่งยาก ท่านก็ให้สัปเหร่อไปบรรจุโลง แล้วให้ถามรายละเอียดให้รู้ว่าจะจัดพิธีศพที่ไหนนานเท่าไร หากจัดที่บ้านจะรอจนอู่ซงกลับมาค่อยดำเนินการต่อหลังจากนั้นไหม เรื่องเหล่านี้ยังไม่ชัดเจน หากว่าเขาจะนำศพไปฝัง ก็ไม่น่าจะมีอะไร แต่หากจะนำไปเผา นี้น่าสงสัย ถึงเวลาท่านก็ทำเป็นไปส่งศพ แล้วฉวยจังหวะที่คนไม่สังเกตเก็บกระดูกมาสักสองชิ้น เก็บรวมไว้กับเงินสิบตำลึง เอาไว้เป็นหลักฐาน หากอู่ซงกลับมา ไม่ถามอะไรก็แล้วกันไป ไม่ต้องไปผิดใจกับซีเหมินชิ่ง เหลือชามข้าวเผื่อไว้วันข้างหน้า”
1
เหอจิ่วซูว่า “โชคดีมีเมียเก่ง เล็งเห็นได้ปรุโปร่ง 家有贤妻  见得极明”
เหอจิ่วซูเรียกพวกสัปเหร่อมากำชับว่า “ข้าโดนของ ไปไม่ได้ พวกเจ้าไปบรรจุโลงกันเอง ถามดูว่าจะจัดการศพเมื่อไรแล้วรีบมารายงาน หากเขาให้เงินค่าเหนื่อย พวกเจ้าก็รับไปแบ่งกัน แต่หากฝากมาให้ข้า ข้าไม่เอา”
สัปเหร่อไปจัดการบรรจุโลงแล้วกลับมารายงานว่า “ภรรยาเขาบอกว่า เพียงสามวันก็จะนำไปเผาที่นอกเมือง” เงินที่รับมาก็จัดการแบ่งกันเอง
เหอจิ่วซูกล่าวกับภรรยาว่า “เจ้าพูดได้ถูก ถึงเวลาข้าจะไปขโมยกระดูกมาเก็บไว้”
วันแรกยายหวางคอยเตือนให้พานจินเหลียนนั่งเฝ้าศพ วันที่สองนิมนต์พระสงฆ์สี่รูปมาสวดมนต์ พอวันที่สามพวกสัปเหร่อก็มาช่วยกันแบกโลง มีเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งมาร่วมขบวนส่งศพ พานจินเหลียนแต่งชุดไว้ทุกข์แสร้งทำเป็นร้องไห้อาลัยสามี ยกขบวนแห่มายังเชิงตะกอนนอกเมือง สัปเหร่อจุดไฟขึ้น
เหอจิ่วซูถือเงินกงเต๊ก 陌纸钱 เดินเข้ามา ยายหวางและพานจินเหลียนว่า “ยินดีที่อาเก้าหายเป็นปกติดีแล้ว”
เหอจิ่วซูว่า “วันก่อนข้าซื้อชุยปิ่งจากต้าหลางมาซึ้งหนึ่ง ยังไม่ได้จ่ายเงิน จึงตั้งใจเอาเงินกงเต๊กนี้มาเผาส่งให้ต้าหลาง”
เหอจิ่วซูเผาเงินกงเต๊กแล้วก็ช่วยกำกับดูแลเรื่องเผาศพด้วย ยายหวางกับพานจินเหลียนจึงกล่าวขอบคุณ เหอจิ่วซูจึงว่า “ข้าไปที่ไหนก็ช่วยงานเขา ท่านทั้งสองไปดูแลเพื่อนบ้านแขกเหรื่อที่โรงเจเถิด ทางนี้ข้าดูแลให้เอง”
พอทั้งคู่คล้อยหลังไป เหอจิ่วซูก็ใช้ปากคีบถ่านคีบเอากระดูกขึ้นมาสองชิ้นเอาไปแช่น้ำในบ่อโปรยเถ้ากระดูก 潵骨池 สังเกตเห็นกระดูกทั้งสองนั้นร่วนดำ จึงเก็บซ่อนเสีย เดินมายังโรงเจ พอเผาเรียบร้อย ก็จัดการเก็บอัฐิไปโปรยลงในบ่อแล้วต่างก็แยกย้ายกันกลับ
เหอจิ่วซูกลับถึงบ้านก็นำกระดาษมาจดวันเดือนปีและรายชื่อคนที่มาร่วมพิธีศพ เก็บใส่ถุงผ้าพร้อมกระดูกสองชิ้นและเงินแท่ง
พานจินเหลียนพอกลับถึงบ้านก็จัดหิ้งตั้งป้ายวิญญาณเขียนว่า “ที่สถิตของอู่ต้าหลางสามีผู้ล่วงลับ 亡夫武大郎之位” จุดตะเกียงและตั้งเครื่องเซ่นไหว้ตามธรรมเนียม จากนั้นแต่ละวันก็เสพสุขกับซีเหมินชิ่งในบ้านชั้นบนไม่ต้องอาศัยห้องในร้านยายหวางอีก ซีเหมินชิ่งมักจะค้างอยู่ติดกันสี่ห้าคืนไม่กลับบ้าน กระทั่งเมียใหญ่น้อยทางบ้านต่างเริ่มไม่พอใจ ความลุ่มหลงในกามนี้ทำร้ายคนมามากนัก
参透风流二字禅,好姻缘是恶姻缘。
山妻小妾家常饭,不害相思不损钱。
 
ตรองจงดี พิศวาส ความนัยมี
บุพเพดีอาจกลายบุพเพร้าย
เพียงพอแค่เมียในบ้านใจสบาย
รู้คลาย กำหนัดถึง มิเสียทรัพย์
ซีเหมินชิ่งและพานจินเหลียนสุขสำราญจนเคยชิน ไม่สนใจใครจะรู้ ชาวบ้านย่านถนนสายนี้ทั้งใกล้ไกลต่างรู้กันทั่วแต่ไม่มีใครกล้าตอแยด้วยรู้ว่าซีเหมินชิ่งเป็นพวกทุรชน
乐极生悲,否极泰来。
สุขเพลินพาโศกสลด  รันทดเกินกลับชื่นมื่น
สี่สิบกว่าวันต่อมา อู่ซงปฏิบ้ติภารกิจที่ตงจิงเรียบร้อย นำหนังสือตอบรับเดินทางกลับมาถึงหยางกู่ เบ็ดเสร็จใช้เวลาสองเดือน ออกเดินทางแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิ กลับมาต้นเดือนสาม ระหว่างทางขากลับจิตใจหดหู่ ใคร่รีบกลับมาพบพี่ชาย พอมาถึง นำหนังสือตอบรับไปมอบให้นายอำเภอ รับรางวัลแล้วกลับที่พักผัดเสื้อผ้าแล้วตรงมายังถนนจื่อสือ
1
ชาวบ้านเห็นอู่ซงกลับมาพากันตะลึง ต่างคิดว่า “ถึงเวลาบ้านแตกสาแหรกขาด 萧墙祸起 ไท่สุ้ยกลับมา มีหรือจะยอม ต้องมีเรื่องแน่”
อู่ซงมาถึงบ้านเลิกม่านเดินเข้าด้านใน สะดุดตาเห็นป้ายวิญญาณเขียนว่า “ที่สถิตของอู่ต้าหลางสามีผู้ล่วงลับ” ถึงกับนิ่งงัน คิดว่าตาฝาดไป จึงตะโกนเรียกว่า “อาซ้อ อู่เอ้อกลับมาแล้ว”
ซีเหมินชิ่งอยู่กับพานจินเหลียนในห้องชั้นบนได้ยินเสียงอู่ซง กลัวจนปัสสาวะราด รีบหนีออกทางประตูหลังไปยังบ้านยายหวาง
ทางด้านพานจินเหลียนตะโกนบอกว่า “ท่านอารอสักครู่ ข้าน้อยกำลังมา”
พานจินเหลียนตั้งแต่วางยาอู่ต้าแล้ว ก็ไม่ได้ไว้ทุกข์เลย แต่งหน้าประแป้งสวมชุดหลากสีสันอยู่ร่วมเสพสำราญกับซีเหมินชิ่งอยู่ทุกวัน พอได้ยินเสียงอู่ซงจึงรีบล้างเครื่องสำอาง ถอดเครื่องประดับผมจัดให้กระเซิง เปลี่ยนชุดกระโปรงแดงเป็นชุดไว้ทุกข์ แล้วแสร้งเดินร้องไห้หงิงๆ ลงบันไดมา
อู่ซงว่า “อาซ้อ อย่าร้องไห้ พี่ชายข้าตายเมื่อไร ป่วยเป็นอะไร กินยาหมอไหน”
พานจินเหลียนร้องไห้ไปพูดไปว่า “ท่านอาไปได้สิบกว่าวันพี่ชายท่านก็เจ็บหน้าอก ป่วยอยู่แปดเก้าวัน ไปไหว้เจ้าขอยันต์ หาหมอเจียดยา รักษาไม่หายตายไปทิ้งแต่ข้าไว้ให้ช้ำใจ”
ยายหวางข้างบ้านได้ยินเสียงกลัวความแตก จึงรีบข้ามมาเพื่อช่วยพูด
อู่ซงว่า “พี่ชายข้าไม่เคยเป็นโรคนี้ ทำไมอยู่ๆ เป็นโรคหัวใจตายได้”
ยายหวางว่า “ทำไมตูโถวพูดเช่นนี้ ฟ้าดินยังมีแปรปรวน คนเราล้วนมีโชคเคราะห์ จะอยู่ดีตลอดไปไม่เกิดเหตุได้อย่างไร”
พานจินเหลียนว่า “โชคดีได้ท่านแม่ ข้าเองเป็นคนไร้ที่พึ่ง 没脚蟹 หากไม่ได้ท่านแม่ เพื่อนบ้านที่ไหนจะมาช่วย”
อู่ซงถามว่า “แล้วตอนนี้ ฝังอยู่ที่ไหน”
นางว่า “ข้าตัวคนเดียว จะหาสุสานได้ที่ไหน ไว้สามวันก็นำร่างไปเผา”
“พี่ชายเสียไปได้กี่วันแล้ว”
“อีกสองวัน ก็เป็นวันต้วนชี 断七 (เจ็ดเจ็ด สี่สิบเก้าวัน)”
อู่ซงพึมพำกับตนเองอยู่พักใหญ่ แล้วก็ออกจากบ้านไปยังที่พักของตนที่อำเภอเปลี่ยนชุดไว้ทุกข์ คาดเอวด้วยเชือกปอ ซ่อนมีดพก 解腕刀 ไว้กับตัว นำเงินติดตัว ให้ทหารใส่กุญแจประตู ออกมาซื้อข้าวของธูปเทียนเครื่องกระดาษ แล้วเย็นนั้นก็กลับมาเคาะประตูเรียก
พานจินเหลียนลงมาเปิดประตู อู่ซงให้ทหารไปเตรียมอาหาร ตนเองจุดตะเกียงหน้าป้ายวิญญาณ รออาหารนำมาจัดตั้งเซ่นไหว้ แล้วอู่ซงก็คุกเข่าลงกล่าวว่า “วิญญาณท่านพี่คงอยู่ไม่ไกล ตอนมีชีวิตท่านเป็นคนอ่อนแอ ตายไปอย่างมีเงื่อนงำ หากมีใครรังแกหรือทำร้ายท่าน จงมาเข้าฝันข้า น้องจะล้างแค้นแทนท่าน” แล้วก็รดเหล้าคารวะ เผาเครื่องกระดาษ แล้วร้องไห้เสียงดังจนข้างบ้านได้ยินยังเศร้าใจแทน พานจินเหลียนก็แกล้งร้องไห้ด้วย
เซ่นไหว้เสร็จก็นำอาหารมากินกับทหาร แล้วนำเสื่อมาสองผืน ผืนหนึ่งให้ทหารปูนอนข้างประตู อู่ซงนอนหน้าหิ้งตั้งป้ายวิญญาณ พานจินเหลียนกลับขึ้นไปนอนชั้นบน
ประมาณยามสาม อู่ซงพลิกซ้ายพลิกขวานอนไม่หลับ ลุกขึ้นมานั่งกลางแสงตะเกียงสลัว ถอนหายใจ รำพึงรำพันว่า “พี่ชายตอนเป็นนั้นอ่อนแอ ตายโดยไม่รู้สาเหตุ”
ไม่ทันขาดคำดี มีไอเย็นม้วนวนออกมาจากใต้หิ้งป้ายวิญญาณ เย็นเยียบเข้ากระดูก ไฟตะเกียงริบหรี่ลง ทึมทึมมัวมัว เงินกระดาษปลิวว่อนอยู่ข้างกำแพง ไอเย็นทำให้อู่ซงขนลุก เพ่งตามองไปเห็นเงาคนโผล่ออกมาจากใต้หิ้ง ร้องออกมาว่า “น้องพี่ ข้าตายทรมานนัก”
อู่ซงมองเห็นไม่ถนัด ยื่นหน้ามาจะถามให้รู้ชัด ไอเย็นพลันสลาย เงาคนก็หายไป อู่ซงนั่งครุ่นคิดอยู่บนเสื่อว่าใช่จริงหรือฝัน หันไปมองทหารยังนอนกรนอยู่ดังเก่า อู่ซงคิดในใจว่า
“พี่ชายตายไปอย่างมีเงื่อนงำ จึงมาบอกให้ข้ารู้ พอข้าได้สติกลับทำให้วิญญาณสลายตัวไป”
可怪人称三寸丁,生前混沌死精灵。
不因同气能相感,冤鬼何从夜现形?
แปลกจริงไอ้สามนิ้วคนเรียกเล่น
ยามยังเป็นงมงายตายกลับเฮี้ยน
รู้สึกได้ กลิ่นอาย วกวนเวียน
ยังเพียรผูกพยาบาทยามราตรี
1
อู่ซงเฝ้ารอฟ้าแจ้ง จะได้ไปดำเนินการ
ตอนก่อนหน้า : วางยาอู่ต้า
ตอนถัดไป : อู่ซงฟ้องคดี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา