1 ม.ค. 2024 เวลา 12:58 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 59

อู่ซง ผู้จาริก (13) ลาดสี่แพร่ง
ข่าวลือนั้นเดินทางไว คนทั้งอำเภอดูเหมือนจะรู้เรื่องอู่ซงกันหมดจึงพากันมามุงระหว่างอู่ซงยกขบวนเดินมายังอำเภอ นายอำเภอเองยังรู้ข่าวมานั่งที่ว่าการรอ
อู่ซงกุมตัวยายหวางเข้ามาคุกเข่าอยู่ในโถงที่ว่าการ วางมีดของกลางและศีรษะทั้งสองหน้ายกพื้น อู่ซงคุกเข่าอยู่ด้านซ้าย ยายหวางคุกเข่าอยู่ตรงกลาง เพื่อนบ้านอาวุโสทั้งสี่อยู่ด้านขวา
อู่ซงนำหนังสือสารภาพซึ่งหูเจิ้งชิงเป็นผู้บันทึกออกจากอกเสื้อมาอ่านรอบหนึ่ง นายอำเภอสอบปากคำยายหวางและเพื่อนบ้านทั้งสี่ อีกทั้งเรียกเหอจิ่วซูและวิ่นเกอมาสอบด้วย จากนั้นให้เจ้าพนักงานคุมคนทั้งหมดไปตรวจศพพานจินเหลียนที่บ้านถนนจื่อสือและศพซีเหมินชิ่งที่ภัตตาคารตรงสะพานสิงโต แล้วกลับมายังอำเภอ
นายอำเภอให้ใส่คาอู่ซงและยายหวางและนำทั้งคู่ไปจำขัง คนที่เหลือให้กักตัวอยู่ในห้องที่จัดไว้ให้
นายอำเภอเห็นว่าอู่ซงเป็นคนมีคุณธรรมทั้งยังเคยช่วยตนส่งของไปยังตงจิง จึงมีเจตนาจะช่วยเหลือ จึงปรึกษาพวกเจ้าหน้าที่แล้วทำสำนวนคดีให้อ่อนลงว่า
“อู่ซงไปเซ่นไหว้อู่ต้าพี่ชายผู้ล่วงลับ พี่สะใภ้ไม่ยินยอมให้เซ่นไหว้ เกิดการยื้อยุด ฝ่ายหญิงล้มหิ้งบูชาลง เพื่อที่จะปกป้องป้ายวิญญาณพี่ชายผู้ล่วงลับ จึงเกิดการต่อสู้ ฆ่าพี่สะใภ้ตาย หลังจากนั้นซีเหมินชิ่งชายชู้ของนางมาเอาเรื่อง เกิดการต่อสู้ ไม่มีใครยอมใคร ไล่ตีกันจนมาถึงสะพานสิงโต และฆ่ากันตายที่นั่น” แล้วนำมาอ่านให้อู่ซงฟัง ทำหนังสือชี้แจงแล้วให้นำสำนวนคดี ของกลางมีกระดูกสองชิ้น เงินแท่ง หนังสือรับสารภาพ มีดสังหาร ผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องนำส่งไปยังศาลที่เมืองตงผิง 东平府 เพื่อพิพากษาคดี
เฉินเหวินเจา 陈文昭 ฝูอิ่น 府尹 (เจ้าเมือง)เมืองตงผิงเป็นคนฉลาดและซื่อตรงอ่านสำนวนคดีและเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนแล้ว จึงให้เปลี่ยนคาของอู่ซงให้น้ำหนักเบาลงนำไปคุมขัง ส่วนของยายหวางให้เปลี่ยนคาเพิ่มน้ำหนักขึ้นแล้วนำไปขังยังคุกมหันตโทษ
เหอจิ่วซู วิ่นเกอ เพื่อนบ้านทั้งสี่ รวมหกคนให้เจ้าหน้าที่พากลับอำเภอหยางกู่ รอเรียกตัวที่บ้านได้ ภรรยาน้อยซีเหมินชิ่งให้รอที่บ้านพักในเมืองนี้
เฉินฝูอิ่นทำสำนวนคดีให้เบาลงอีกแล้วส่งเรื่องไปส่วนกลางที่เมืองหลวงให้ทำคำตัดสินลงโทษ อีกทั้งยังส่งคนไปช่วยล็อบบี้ ในที่สุดคำตัดสินก็มีมาว่า
“ยายหวางต้นตอความคิดชักนำให้เกิดการคบชู้ ยุยงให้ฝ่ายหญิงวางยาฆ่าสามี และขัดขวางอู่ซงไม่ให้เซ่นไหว้พี่ชาย จนนำไปสู่การฆ่ากันตาย ยุยงจนชายหญิงผิดประเวณี ให้ลงโทษหลิงฉือ 凌迟 อันเป็นโทษหนักเรียกในภาษาสามัญว่า เชือดพันหมื่นชิ้น 千刀万剐 จนกว่าจะตาย
อู่ซงแม้จะล้างแค้นให้พี่ชาย สังหารชายชู้ซีเหมินชิ่ง อีกทั้งมามอบตัวเอง แต่โทษไม่อาจละเว้น ให้ลงโทษโบยหลังสี่สิบไม้ สักตราหน้าเนรเทศไกลสองพันลี้
ชายหญิงที่คบชู้ ควรมีโทษหนัก แต่ตายสิ้นแล้วจึงไม่ตัดสินโทษ
 
ผู้ต้องหาที่เหลือ ให้ปล่อยกลับบ้าน
 
หนังสือไปถึงเมื่อใด ให้ลงทัณฑ์เมื่อนั้น”
เฉินเหวินเจาเจ้าเมืองตงผิงรับหนังสือแล้ว ให้เรียกตัวผู้ต้องหาที่เดินทางกลับไปรอที่บ้านทั้งหมดมาฟังคำพิพากษา เบิกตัวอู่ซงจากที่คุมขังมาฟังคำตัดสิน
ให้โบยอู่ซงสี่สิบไม้ ราชมัลเป็นใจกับอู่ซงแกล้งโบยไม่โดนเสียเจ็ดไม้ ใส่คาหนักเจ็ดชั่งครึ่ง สักตราหน้าเนรเทศยังแดนจำเมืองเมิ่งโจว 孟州牢城
คนที่เหลือให้ปล่อยตัวกลับ
เบิกตัวยายหวางจากคุกมหันตโทษ ฟังคำพิพากษา แล้วให้นำตัวขึ้นคอก ปักป้ายคำว่า “剐” (เชือด) แห่ประจาน ตีกลองสองครั้ง ตีฆ้องหนึ่งครั้ง นำตัวไปลงทัณฑ์เชือดที่กลางเมือง
อู่ซงใส่คาไปยืนดูการแล่เนื้อลงโทษยายหวางด้วย เหยาเอ้อหลางเพื่อนบ้านอาวุโสนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์ที่บ้านถนนจื่อสือมาให้อู่ซง ทหารที่เคยรับใช้อู่ซงนำห่อผ้าใส่ของใช้ส่วนตัวมาให้
ผู้คุมสองนายได้หนังสือนำส่งตัวมาแล้วนำอู่ซงออกเดินทางมุ่งสู่เมิ่งโจว สองผู้คุมต่างรู้กิตติศัพท์คุณความดีของอู่ซงอยู่ ระหว่างทางจึงช่วยเหลืออย่างดี อู่ซงเองเมื่อถึงที่พักก็นำเงินในห่อผ้าซื้อของกินดื่มเผื่อแผ่ผู้คุมด้วย ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันระหว่างเดินทาง
อู่ซงก่อคดีฆาตกรรมราวต้นเดือนสาม ถูกจำขังอยู่ราวสองเดือน ออกเดินทางมายังเมิ่งโจวได้ยี่สิบกว่าวัน เข้ากลางเดือนหก อากาศร้อนต้องอาศัยออกเดินทางแต่เช้าตรู่เพื่อเลี่ยงแดดจัด วันนี้เดินตามทางมาถึงยอดเขาราวยามสื้อ 巳牌 (10:00 น.)
อู่ซงบอกว่า “อย่าเพิ่งพักกันเลย รีบลงเขาไปหาร้านอาหารนั่งกินกันดีกว่า”
สามคนลงเขามามองเห็นบ้านเรือนกลุ่มหนึ่งตั้งอยู่บนลาดเขาแต่ไกล ข้างลำธารมีธง “เหล้า 酒” ปักอยู่บนต้นหลิ่ว อู่ซงชี้มือไปว่า “นั่นไง ร้านอาหาร”
เดินกันมาพบคนตัดฟืนแบกฟืนเดินมา อู่ซงจึงถามว่า “หนุ่ม ที่นี่ที่ไหน”
คนตัดฟืนว่า “ทางเส้นนี้ไปยังเมิ่งโจว ลาดเขาข้างป่าละมาะข้างหน้านี่เรียกว่า ลาดสี่แพร่ง 十字坡 (สือจื้อพอ)”
ทั้งสามเดินตรงมายังลาดสี่แพร่ง เห็นต้นไม้ใหญ่ขนาดห้าคนโอบไม่รอบ บนลำต้นมีไม้เลื้อยแห้งพันรอบอยู่ ร้านอาหารตั้งอยู่หลังต้นไม้ มีหญิงเจ้าของร้านนั่งอยู่หน้าร้าน
眉横杀气,眼露凶光。
辘轴般蠢坌腰肢,棒锤似粗莽手脚。
厚铺着一层腻粉,遮掩顽皮;
浓搽就两晕胭脂,直侵乱发。
金钏牢笼魔女臂,红衫照映夜叉精。
คิ้วขวางกางดุร้าย
แววตาฉายหมายสังหาร
เอวล้อโม่แป้งปาน
แขนขากร้านดังไม้พลอง
พอกเครื่องสำอางหนา
บังผิวหน้าอันหมางหมอง
ผ้ดแก้มแดงทั้งสอง
ปล่อยผมเผ้ากระเซิงซ่าน
กำไลทองคล้องแขนมาร ดุจยักษาปาน
ขับเน้นด้วยภูษาแดง
พอนางเห็นอู่ซงและผู้คุมทั้งสองก็รีบลุกขึ้นมาพิงประตูขานเรียกลูกค้าว่า “ลูกค้าเชิญนั่งพักก่อน ร้านเรามีเหล้าดีอาหารอร่อย หากจะรองท้องก็มีหมั่นโถวลูกใหญ่ๆ”
ทั้งสามเข้าไปนั่งในร้านปลดสัมภาระวางลงแล้ว สองผู้คุมก็ว่า “ตอนนี้ไม่เห็นมีคน พวกเราจะช่วยถอดคาออกจะได้กินดื่มสบายหน่อย” แล้วก็ถอดคาวางไว้ใต้โต๊ะ แต่ละคนก็ถอดเสื้อตัวบนพาดไว้ที่รั้วหน้าต่าง
หญิงเจ้าของร้านถามว่า “ลูกค้าจะรับเหล้าเท่าไรดี”
อู่ซงว่า “ไม่ต้องถาม เติมมาเรื่อยๆ ส่วนเนื้อเอามาห้าชั่ง กินเสร็จจ่ายเงิน”
นางว่า “เรายังมีหมั่นโถวอร่อยลูกใหญ่”
อู่ซงว่า “เอามารองท้องสามสิบลูก”
นางหัวเราะคิกคักเดินเข้าไปยกเหล้ามาจากหลังร้านหนึ่งถัง วางชามสามใบ ตะเกียบสามคู่ เนื้อสองจานบนโต๊ะ รินเหล้าดื่มกันไปรวดเดียวห้ารอบแล้ว นางก็ยกซึ้งหมั่นโถวจากเตามาตั้งบนโต๊ะ สองผู้คุมคว้าหมั่นโถวได้ก็เคี้ยวกินตุ้ยๆ
อู่ซงหยิบหมั่นโถวลูกหนึ่งมาฉีกดูไส้ใน แล้วตะโกนถามว่า “เถ้าแก่ หมั่นโถวนี่เนื้อคนหรือเนื้อหมา”
นางหัวเราะคิกคักตอบว่า “ท่านลูกค้าอย่าได้เอาแต่พูดเล่น เป็นคนธรรมดาหากินกลางวัน มีที่ไหนกันหมั่นโถวเนื้อคน อาหารปนเนื้อหมา หมั่นโถวร้านข้าไส้เนื้อวัวชั้นดี”
อู่ซงว่า “ข้าท่องวงนักเลงมา ได้ยินคำร่ำลือว่า
大树十字坡,客人谁敢那里过?
肥的切做馒头馅,瘦的却把去填河。
ไม้ใหญ่ลาดสี่แพร่ง  
ใครกำแหงกล้าผ่านที่
ไส้หมั่นโถวคนอ้วนพี  
ถมนทีคนขี้ก้าง”
นางว่า “ท่านลูกค้าเอาที่ไหนมาพูด ท่านแต่งเรื่องขึ้นเอง”
อู่ซงว่า “ข้าเห็นไส้หมั่นโถวนี่มีขนลับปน หยิกหยอยเหมือนใกล้ที่ใช้ปัสสาวะ ข้าจึงได้สงสัย”
อู่ซงถามอีกว่า “แม่นาง สามีท่านไปไหนไม่เห็น”
นางว่า “สามีข้าไปเยี่ยมเพื่อนยังไม่กลับ”
อู่ซงว่า “อย่างนั้นหรือ ท่านอยู่คนเดียวคงว้าเหว่”
นางยิ้มแล้วคิดว่า
“ไอ้ทหารโจร 贼配军 นี่รนหาที่ อยู่ดีดีมาแหย่แม่ นี่มันเท่ากับ
灯蛾扑火,惹焰烧身
แมงเม่าเข้ากองไฟ หาเรื่องเผาไหม้ตัว
ข้ายังไม่ทันได้หาเรื่องเจ้า เช่นนั้นก็เล่นงานเจ้าเสียเลย”
นางจึงตอบว่า “ท่านลูกค้าอย่าล้อเล่น ดื่มต่อให้จุใจ แล้วจะไปหลบร้อนใต้ร่มไม้ด้านหลัง หรือจะพักในบ้านข้าก็ได้ไม่เป็นไร”
อู่ซงได้ฟังแล้วมั่นใจให้คิดว่า “นางนี่คิดไม่ซื่อ ข้าต้องเล่นเจ้าเสียก่อน”
อู่ซงจึงว่า “แม่นาง เหล้าของท่านบางเหลือเกิน จะให้พวกเราดื่มจนจุใจ ไม่มีดีกว่านี้หรือ”
นางตอบว่า “มีเหล้าหอมเต็มร้อยอยู่ แต่จะดูขุ่นสักหน่อย”
“ยิ่งดี ยิ่งขุ่นยิ่งอร่อย”
นางแอบดีใจ เข้าไปยกเหล้าขุ่นออกมาให้
อู่ซงว่า “เหล้านี่ดี ยิ่งดื่มร้อนยิ่งดี”
นางว่า “ลูกค้าท่านรู้ดียิ่งนัก เดี๋ยวข้าไปอุ่นมาให้ชิม” พลางคิดในใจว่า “ทหารโจรนี่สมควรตาย กลับอยากดื่มร้อนอีก ตัวยายิ่งออกฤทธิ์ไว ไอ้หมอนี่ไม่พ้นมือข้าละ”
อุ่นเหล้าแล้ว นางก็นำมาเทใส่สามชามแล้วว่า “ลูกค้าท่านลองชิมเหล้านี้ดู”
สองผู้คุมคว้าชามได้ก็ยกซด
อู่ซงว่า “แม่นาง ปกติข้าไม่ดื่มเหล้าเปล่า ท่านไปหั่นเนื้อมาอีก ข้าจะแกล้มเหล้า”
พอนางหันหลังเดินไป อู่ซงก็สาดเหล้าทิ้งในที่ลับตา แล้วแกล้งกระเดาะลิ้นว่า “เหล้าดี ทำให้กระชุ่มกระชวย”
หญิงนั้นหาได้ไปหั่นเนื้อไม่ แกล้งเดินไปหน่อยก็หันกลับมาตบมือร้องว่า “ล้มสิ ล้มสิ”
สองผู้คุมหัวหมุนคว้างล้มลงนอนกองกับพื้น อู่ซงหรี่ตามองแล้วแกล้งล้มลงข้างม้านั่ง
นางหัวเราะแล้วว่า “เสร็จ ไอ้ผีบ้ากาม เจอน้ำล้างตีนแม่” แล้วตะโกนเรียก “เสี่ยวเอ้อ เสี่ยวซาน รีบออกมา”
บ่าวสองคนโผล่จากหลังร้านมาหามเอาตัวสองผู้คุมเข้าไปก่อน ตัวนางเดินมาที่โต๊ะคลำห่อผ้าของอู่ซงและกระเป๋าคาดของผู้คุมรู้ว่ามีเงินอยู่ก็ชอบใจว่า “วันนี้ได้สินค้ามาสามหัว พอมีหมั่นโถวขายได้สองวัน แถมยังได้ของพวกนี้อีก”
นางเอาห่อผ้าและกระเป๋าไปเก็บด้านใน แล้วกลับออกมาดูลูกน้องสองคนจะหามอู่ซงแต่ยกไม่ขึ้น อู่ซงนอนแข็งทื่อราวกับหนักสักพันชั่ง
นางจึงว่า “พวกเจ้านี่เลี้ยงเสียข้าวสุก ไม่ได้ความ ต้องให้แม่ลงมือเอง ไอ้นกเขานี่กล้ามาแหย่แม่ แต่ตัวใหญ่ดีใช้แทนไส้เนื้อวัวขายได้ ขี้ก้างสองคนนั่นใช้แทนเนื้อควาย หามเข้าไปแล้วต้องเชือดหมอนี่ก่อน”
นางถอดเสื้อกระโปรงตัวนอกออก เปลือยไหล่เข้ามายกร่างอู่ซง อู่ซงฉวยจังหวะกอดนางไว้แน่น สองขาหนีบช่วงล่างของนางพลิกขึ้นมาทับไว้ นางร้องเหมือนหมูถูกเชือด บ่าวสองคนจะเข้ามาช่วย อู่ซงตวาดใส่ ทั้งสองตะลึงยืนนิ่งอยู่
หญิงสาวถูกทับอยู่ร้องว่า “ผู้กล้า ไว้ชีวิตข้า”
麻翻打虎人,馒头要发酵。
谁知真英雄,却会恶取笑。
牛肉卖不成,反做杀猪叫!
วางยาผู้ฆ่าเสือ
ทำหมั่นโถวเนื้อมนุษย์
 
หารู้จักวีรบุรุษ
ซ้อนแผนสุดตลกร้าย
 
เนื้อวัวไม่สมหมาย
กลัวตายคล้ายหมูถูกเชือด
ตอนก่อนหน้า : อู่ซงพิพากษา
ตอนถัดไป : คนสวนผัก นางยักษ์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา