2 ม.ค. เวลา 07:35 • การเมือง

จักรวาลการเมือง !! “ชวน” อายุเป็นเพียงตัวเลข จังหวะหัวใจเต้นอยู่ที่ปชป. กับประชาชน (Ep.1)

เลือดสีฟ้าฝังในกระดูก ไม่สนเสียงค่อนแคะให้ออกไป ตั้งใจปลายอายุแค่สส.คนหนึ่ง เป็นปากเสียงแทนชาวบ้าน ชี้แสงสว่างปลายอุโมงค์ กก.บห.ชุดใหม่ถอดบทเรียนฟื้นพรรค ดำรงความเป็นหลัก...ให้คนมั่นใจ
ตั้งใจเป็นนักการเมือง ทำงานเพื่อประชาชน !!
ไม่ไปไหน เป็นสมาชิกปชป.ต่อไป !!
ผู้อาวุโสแห่งจักรวาลการเมือง 54 ปีไฟยังลุกโชนในหัวใจ “นายหัวชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 12 ปี นายกรัฐมนตรี คนที่ 20 นั่งประมุขฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติผ่านฉลุยมาแล้ว
ออกตัวรู้...มีบางคนกระแนะกระแหนอายุมากแล้ว ย่าง 86 ปี...ควรจะออกไป
แต่ด้วยความตั้งใจเป็นนักการเมืองตั้งแต่ต้น เพื่อเป็นปากเสียงให้ชาวบ้าน ณ เวลานี้ยังทำงานอยู่
ย้อนสมัยเรียนธรรมศาสตร์ (นิติศาสตร์) ผมเป็นคนเดียวในมหาวิทยาลัยไปฟังประชุมสภา โดยให้อาจารย์ ซึ่งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ท่านรับรองให้เข้าไปนั่งฟังสภาอภิปราย ยังจำถึงทุกวันนี้อภิปรายเก่งที่สุด คล่องที่สุด คือหลวงประกอบนิติสาร สมัยนั้นมีคุณหลวง คุณพระในสภาเต็มไปหมด
พอธรรมศาสตร์ปลาย ๆ นั่งรถไฟคนเดียวลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ นั่งไปเรื่อย ๆ ตามรอยประวัติศาสตร์
เอ๊ะ...พื้นที่เคดาห์ (ไทรบุรี) เคยเป็นของไทย เอ้า...ไปดูของจริง ก็ต้องซื้อพจนานุกรมไทย ยาวีไปด้วย เพราะชาวบ้านไม่มีใครพูดไทยเลย ยกเว้นข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้าในตลาด
ผมเป็นคนเดียวในรุ่นเนติบัญฑิต สมัยที่ 17 มีกันอยู่ 115 คน ไปเป็นผู้พิพากษาเกือบทั้งหมด – อัยการ - ประธานศาลฎีกา 3 คน แต่ตัวเองตัดสินใจอยากเป็นนักการเมือง เพื่อน ๆ ก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน ผู้หลักผู้ใหญ่ที่รักถามเป็นเสียงเดียวกัน
ทำไมคิดสั้น เปลืองตัว ดูไม่มีอนาคต !!
แต่ผมอยากเป็นนักการเมือง อยากไปพูดแทนประชาชน !!
อีกประการ สมัยนู้นมีอดีตสส. ปชป. จังหวัดตรังคนหนึ่ง คือคุณก่อเกียรติ บัฏเสน เป็นคนมีชื่อเสียง ที่สำคัญเรียนกฎหมายด้วย และได้เห็นแนวทางของพรรคปชป. อยู่ในสายประชาธิปไตยไม่ใช่เผด็จการ ผนวกกับหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคคนที่ 2 ก็เป็นลูกศิษย์ท่าน
ดังนั้นความใกล้ชิดเหล่านี้ มันเหมือนสะสมประสบการณ์ ปัญหามาตั้งแต่ต้น
เมื่อผมคิดเป็นนักการเมือง จึงคิดว่าควรจะอยู่พรรคปชป. เพื่อทำงานให้ประชาชน และประชานก็ชอบพรรคนี้อยู่ด้วย เลยตัดสินใจไปสมัครเป็นผู้แทนในนาม ปชป. และได้รับเลือกมาทุกสมัย
วันหนึ่งเมื่อครบ 22 ปี ผมไม่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค แต่อาศัยความดีงามที่คนรุ่นก่อน สมัยท่านควง อภัยวงศ์ – หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช – ท่านถนัด คอมันตร์ - ท่านพิชัย รัตตกุล และผมเป็นที่ 5 ได้อาศัยบารมีคนเหล่านั้นมาทำงานต่อ
ยึดปณิธาน อุดมการณ์พรรคที่แถลงไว้ตั้งแต่ปี 2489 (เน้นเสียงชัดเจน) ข้อแรกสุด คือการเมืองบริสุทธิ์ - ข้อต่อมา ความซื่อสัตย์สุจริต ยึดแนวอย่างนี้ปฏิบัติตลอดมา ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม
ตอนนี้ไม่ค่อยแน่ใจ น่าจะอยู่นานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 17 สมัยแล้ว ฉะนั้นเป็นช่วงปลาย หมายถึงอายุผม
โดยทั่วไปเพื่อนร่วมรุ่นในสภาไม่เหลือแล้ว แต่ผมยังอยู่ ยังทำงานการเมืองได้อยู่ ยังทำเรื่องชาวบ้าน ร้องเรียนอะไรก็ตามที่กระทบต่อประชาชน...ยังทำไอยู่
ผมก็เหมือนผู้สูงอายุทั่วไป !!
1
แต่บังเอิญบางอย่าง เช่น การนั่งประชุมยังอยู่ได้ 3 – 4 ชม. ไม่มีปัญหา ไม่ต้องเข้าห้องน้ำ เดินเหินยังพอได้ ยังไม่เป็นอัลไซเมอร์ มือยังไม่สั่น
ทุกวันนี้ยังไปงานศพเกือบทุกวัน เชื่อว่าวันหนึ่งก็เหมือนคนอื่นนั่นแหละ โทรมลง ๆ แต่ต้องประคับประคองไม่ให้โทรมลงไป ๆ ๆ
เชื่อหมอระวังอาหาร เน้นปลา - อย่าให้ขาดน้ำ ดื่มน้ำน้อย เลือดข้น ต้องระวังโดยเฉพาะคนที่อยู่ในห้องแอร์ ไม่กระหายก็ต้องจิบ ๆ - ออกกำลังทุกวันไม่มากไม่น้อย รู้สึกว่าได้ผลดี เลยบอกเพื่อน ๆ น้อง ๆ เหมือนกันว่า อายุมากต้องมีสะสมนะ ไม่ใช่อายุมากแล้วเพิ่งมาเริ่มออกกำลังกาย...มันไม่ทัน
ผมใช้วิธีทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว อาทิ ชกลม ทำเกือบทุกวัน - เตะลมเรื่องใหญ่ เตะซ้ายขวา ไม่ให้ลงพุง...ได้ผลมาก – โหนบาร์ ไม่ให้กระดูก กล้ามเนื้อหด ให้มันยืด ๆ แล้วกลับหัวกลับหางยืดลงข้างล่างที่เคยเป็นข่าว - ยกลูกเหล็ก มีดัมเบลเล็ก ๆ ในรถด้วย
เกือบทุกอาทิตย์ยังไปบรรยายตามสถาบันต่าง ๆ ก็ต้องทำการบ้าน อย่างบรรยายครึ่งชม. ใช้เวลาเตรียมค้นข้อมูล 2-4 วัน ไม่ใช่เขาเขียนให้อ่านแล้วจบ...ไม่ใช่
หนังสือต้องอ่านอยู่ทุกวัน – ฟังวิทยุจุฬาฯ สรุปข่าวรอบโลกทุกเช้า – แต่ทีวีแทบจะไม่ได้ดู เนี่ยพรหมลิขิต ยังไม่ได้ดูเลย จริง ๆ ชื่นชมคนเขียนบท เขาเก่ง (หัวเราะเบา ๆ)
คิดว่า...ยังทำอะไรได้อยู่...ก็ทำ !!
จึงไม่อยู่ที่ว่า...อายุป่านนี้ ควรจะออกไป !!
ผูกพัน...ปชป. ไม่ไปไหน !?
ไม่ว่าใครจะมา แนวผู้บริหารชุดใหม่จะเป็นอย่างไร แต่ผมไม่ไปไหน ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่เหมือนเดิม ผมผูกพันภายใต้พรรคนี้
เพราะประชาชนที่เราหาเสียงกับเขามา 50 กว่าปี จะไปทำอะไรลักษณะเหมือนกับเปลี่ยนใจ เปลี่ยนอะไร...ผมทำไม่ได้หรอก
แม้ตอนหลังเห็นหลายคนมีปัญหา คนมีชื่อเสียงหลายคนกลับพื้นที่คนปฏิเสธ บางคนอาจจะไม่พูด แต่เขาปฏิเสธ
แต่สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีได้ ต่อเมื่อผู้บริหารเองต้องเข้าใจอุดมการณ์ของพรรค และยอมที่จะบริหารงานไปตามแนวทาง
อย่าใช้แนวทางอื่นที่แปลกปลอมเข้ามา !!
เพราะผมนั่งฟังเสียง สส.พูดในที่ประชุมพรรครู้สึกเป็นห่วง เวลาจะเลือก เขาพูดตรงไปตรงมาดี แล้วแต่ผู้อุปถัมภ์สั่งมา เขาดูแลมา 4 ปี ไม่เคยผิดคำมั่นสัญญา คำไหนเป็นคำนั้น
ผมเอ๊ะ...ทำไมคิดอย่างนั้น !?
พอคิดอีกที อืม...ท่านดีนะกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
ผมจึงพูดในที่ประชุมว่า ผมก็เหมือนกัน แต่บังเอิญผมไม่ได้เป็น เพราะใครอุปถัมภ์ แต่ได้เพราะบารมีพรรค ดังนั้นต้องตอบแทนบุญคุณพรรค รักษาหลักที่ดีของพรรคเอาไว้ อะไรไม่ถูกต้อง ต้องพูดกัน
ความอยู่นานของพรรค ไม่ได้เป็นสถาบันหรอก ถ้านานแต่ฉ้อโกง คอรัปชั่น อะไรก็ตามอยู่กี่ปี...ไม่เป็นสถาบัน
จุดที่ทำให้ ปชป.เป็นสถาบัน เพราะความดี !!
มีหลัก มีระบบ ไม่มีใครสั่งอะไรก็ได้ กระทั่งกลายเป็นอภิสิทธิ์ แนวปชป. ต้องคิดถึงความไกล ต้องคิดเป้าหมาย เพื่อโอกาสทำงานให้ประชาชน
อยากให้คนที่มาทำงาน รักษาสิ่งนี้เอาไว้ เป็นรัฐบาลก็ได้ - ฝ่ายค้านก็ได้ เมื่อถึงเวลาที่เป็นฝ่ายค้าน ต้องเป็นฝ่ายค้านที่มีศักดิ์ มีศรี ทำงานมุ่งเป้าหมาย เพื่อประชาชน
ถึงผมจะมีปัญหาอะไรก็ตาม แต่สนับสนุนแนวทางประชาธิปไตย ทั้งหมดอยู่ที่กรรมการบริหารใหม่ อยู่ที่ “หนึ่งเสียงลงมติ” ไม่ใช่จากใครคนหนึ่งคนใด
ส่วนจะไปร่วมรัฐบาลหรือไม่...ต้องเป็นมติ !!
อีกเงื่อนไขกลายเป็นโจทย์ใหม่ขึ้นมาในยุคนี้ คือใครอุปถัมภ์..โดยไม่ได้มองนโยบายดีหรือไม่ดี !?
“--- บทเรียนที่ผ่านมา ผู้บริหารชุดต่อไปต้องศึกษาว่าอะไรเกิดขึ้น และป้องกันแก้ไข ผมไม่อยากให้พรรคเราเป็นพรรคเล็ก ๆ เป็นไม้ประดับ ได้สัก 10 – 20 คน พอแล้วเพื่อจะเป็นรัฐมนตรีสักคน สองคน
อยากให้ปชป.เป็นพรรคที่เติบโต เป็นพรรคใหญ่ที่ดำรงความเป็นหลักให้คนมั่นใจ---”
ปลายอายุ...แค่สส.คนหนึ่ง !?
ที่ผ่านมามีพรรคพวกเข้ามาขอร้องให้ไปรักษาการหัวหน้าพรรคสักปีได้ไหม แต่ปฏิเสธมาตลอด ฉะนั้นความคิดนี้ไม่มีอีกแล้วที่จะมา
ช่วงปลายอายุ ผมก็เป็นสส.ธรรมดาหนึ่ง ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาอะไร เพียงแต่อยู่ในสภามานานกว่าเพื่อน ได้เห็นเหตุการณ์อะไร สามารถบอกกล่าวพวกเราได้ว่า ในอดีตเป็นอย่างไร หลายคนที่พูดไปบางทีไม่ได้อ่านอุดมการณ์พรรค คำขึ้นต้นว่า
การเมืองบริสุทธิ์ คือการคุมตัวเอง อย่าไปทำอะไรที่เกินขอบเขต ไม่ถูกต้อง
ฉะนั้นสิ่งที่จะช่วย คือช่วยในฐานะสส.คนหนึ่ง
เลือกตั้งที่ผ่านมา มีโอกาสตระเวนไปทั่วประเทศหาเสียงให้บัญชีรายชื่อ พบปัญหาว่าพรรคไม่มีแผนยุทธศาสตร์อะไรเลย ชาวบ้านไม่รู้เบอร์ 26 คืออะไร ตัวผู้สมัครเองไม่ได้สนใจพรรคเบอร์อะไร อันนี้เสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
นอกจากนี้ อยากใช้ช่วงปลายเดินทางไปเยี่ยม “หัวคะแนนที่แก่เฒ่า” ผมมีรูปถ่ายตอนหาเสียงครั้งแรก จะเอารูปไปให้ตำรวจช่วยดูว่าใครเป็นใครบ้าง ตั้งใจไปเยี่ยมคนเหล่านี้ ตอนนี้ช่วงวันหยุดก็เริ่มไปเยี่ยมทุกคนที่เคยมาช่วยงาน
เป็นความรู้สึกเหมือนไปใช้หนี้บุญคุณเขา ที่สนับสนุนเรามาตั้งแต่นู้น...สมัยเริ่มต้น !!
ความจริงเวลานี้ คนที่รักปชป.ห่วงใยมาก เวลาไปงานศพ งานแต่ง ต่างถามแต่เรื่องนี้ เป็นความห่วงใยที่มีต่อพรรค
ต้องขอบพระคุณชาวบ้าน !! ---จบ Ep. 1---
.
WhoChillDay
2 ม.ค.67
#ชวน หลีกภัย #ปชป.
#จักรวาลการเมือง #ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา