4 ม.ค. เวลา 05:45 • การเมือง

จักรวาลการเมือง !! “ชวน” หวั่นใจธุรกิจการเมือง ทำประชาธิปไตยสะดุด (Ep.2)

เปิดความลับล้มรัฐบาลตัวเอง สส.โก่งขึ้นค่าตัวสองเท่าตัวเป็นหนึ่งล้านขาดตัว ทหารเจือจางยึดอำนาจหลังประชาชนตื่นตัวทางการเมือง หนีเสือปะจระเข้นักธุรกิจการเมืองกุมอำนาจ รธน.ปราบโกงเจอกลโกงปราบ รธน.ซะเอง
รธน.ปราบโกง แต่โกงทั้งโครต !!
นักธุรกิจเล่นการเมือง ไม่ใช่ตัวปัญหา !!
ผู้อาวุโสแห่งจักรวาลการเมือง “นายหัวชวน หลีกภัย” ขยับขาแว่นเล่าการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ตลอด 91 ปี ถ้ามองในเชิงรวม ๆ บ้านเมืองพัฒนาไปมาก คนที่เติบโตในยุค 50 กว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลง ในเรื่องการพัฒนาด้านวัตถุ โครงสร้างทั้งหลายชัดเจน
ตอนเป็นผู้แทนครั้งแรก คำว่า “น้ำประปา” อย่าไปพูดถึงเลย อย่างดีขอถนนลูกรัง ฝันมากหน่อยเผื่อมีไฟฟ้าไปถึง บางทีหมู่บ้านนี้มีไฟฟ้ายังไม่ถึง 6 หลัง ก็เป็นกระทู้ในสภาแล้ว แต่เดี๋ยวนี้หมดปัญหานี้ไปไกล
เปรียบเทียบในอดีตมีคำถาม...บ้านไหนมีส้วมบ้าง !? สมัยตอนเด็ก ผมยังวิ่งเข้าป่าอยู่เลย แต่เดี๋ยวนี้คำถามเปลี่ยนไป...บ้านไหนไม่มีส้วมบ้าง !? อันนี้คือความเปลี่ยนแปลงชัดเจน
ถ้ามองในเชิงการเมือง !!
การเมืองพัฒนาจากจุดเริ่มต้น...ตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ (รธน.) ฉบับแรก ฉบับถาวร โดยฉบับแรก 10 ธ.ค. 2475 มาถึงปัจจุบันเปลี่ยนแล้ว 20 ฉบับ แสดงให้เห็นในแต่ละช่วงของจังหวะเวลานั้น ๆ มีปัญหาเกิดขึ้นถึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรธน. เรื่อยมาถึงปัจจุบัน
“---ผมพูดในฐานะประจักษ์พยานที่เห็นว่า พัฒนาการประชาธิปไตยก้าวหน้ามาพอสมควร ผมเริ่มใช้ รธน. ฉบับ 2511 ร่างกันอยู่ถึง 9 ปีเศษ หน้าตาออกมาตรงข้ามกับ ฉบับ 10 ธ.ค. 2475 ห่างกันตั้งหลายปี แต่โครงสร้างระบบประชาธิปไตย...ไม่ก้าวหน้า
ฉบับ 2511 ผมลงสมัครครั้งแรก รู้กันดีใครจะมาเป็นนายกฯ ...จอมพลถนอม กิตติขจร !! เพราะบทบัญญัติรธน. เขียนเอื้ออำนวยให้เป็นอย่างนั้น วุฒิสมาชิก 3 ใน 4 มีอำนาจเหมือน สส. เป็นสิ่งที่เราเห็นอย่างนั้นจริง ๆ
แต่หลังรธน. ฉบับนั้นใช้เพียง 3 ปีกว่า ๆ สภาอยู่ได้ 2 ปี 9 เดือน ผมเป็นผู้แทนครั้งแรกแล้ว พูดเต็มปาก ในที่สุดรัฐบาลนั้น…ล้มตัวเอง
เนื่องจากใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องในการให้เงินสส. พรรคตัวเอง...เป็นความลับ !! พอปีต่อมาสส. เหล่านี้ขอเพิ่มจาก 350,000 เป็น 1 ล้าน จอมพลถนอม รำคาญ...เลยยึดอำนาจตัวเอง !!
ดังนั้นการอยู่บนถนนยึดอำนาจ อยู่ได้แต่ไม่มั่นคง เพราะประชาชนตื่นตัวพอสมควร โดยสรุปเมื่อรัฐบาลจอมพลถนอม ล้มไป ก็มีรนธ.ฉบับ 2517 แน่นอนอยู่ได้ไม่นานเกิดเหตุ 6 ต.ค. 19 ขึ้น
เป็นเหตุผลให้ทหารยึดอำนาจ เหมือนอยากยึดเมื่อไหร่ก็ยึดเมื่อนั้น
อย่างปี 2534 พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกฯ ยึดอำนาจด้วยเหตุผลบุฟเฟ่ต์ คาร์บิเน็ต แต่เหตุผลจริง ๆ คือการโยกย้ายทหาร ---”
ประชาธิปไตยมีความมั่นคงมากขึ้น – ทหารยึดอำนาจ เป็นอุปสรรคประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น
แต่อย่างไรก็ดี ความตื่นตัวของคนในแง่มุมของสภา ในฝ่ายผู้อำนาจ อาจดูถดถอยไปแต่ในแง่ประชาชน...ตื่นตัวสูงขึ้นตามลำดับ ใครไปทำอะไรผิดทำนองคลองธรรม คนเริ่มจะไม่ได้ ๆ มากขึ้น
ภัยทหารจาง ธุรกิจการเมืองชัด !?
ในที่สุดการเมือง อาจพ้นจากภัยทหารยึดอำนาจ กลิ่นจางลง ผมเคยใช้คำว่า “ทหารน่าจะไม่ใช่เงื่อนไข” ที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตยแล้ว แต่กลับมาเจอภัยชนิดใหม่
ธุรกิจการเมือง ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า !!
ซื้อเสียง – ซื้อนักการเมือง – ซื้อพรรคการเมือง แม้กระทั่งวุฒิโดนซื้อด้วย เป็นผลสะท้อนการเมือง...มีปัญหา องค์กรอิสระปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ถึงเกิดเหตุยึดอำนาจในปี 49 ขึ้น
เมื่อเข้ามาด้วยระบบธุรกิจการเมือง ต้องหาประโยชน์ จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่รัฐธรรมนูญฉบับหลัง ๆ ออกมาให้สิทธิ์สส.มาก
การให้สิทธิ์มาก ทำให้คนติดใจเข้ามา !!
หนี้ไม่พ้นธุรกิจ ผูกพันโยงใยกับข้าราชการ รู้ว่างบประมาณส่วนไหนเท่าไหร่ ก็รวยอยู่ในกลุ่มของนักธุรกิจการเมือง คณะพรรคพวก ฝ่ายเจ้าหน้าที่เองร่วมกับเขาด้วยความเกรงใจ
นักธุรกิจเล่นการเมืองดี !?
ตามกฎหมายรธน.ไม่สามารถไปสกัดกั้น หรือห้ามไม่ให้ใคร อาชีพใดอาชีพหนึ่ง เข้ามาทำงานการเมืองได้ แต่ว่ารธน. จะพัฒนาบทบทบัญญัติที่เข้มข้นขึ้น เพื่อไม่ให้นักการเมืองหาผลประโยชน์
แต่ในทางปฏิบัติป้องกันยาก เพราะในที่สุดสมคบกัน นักการเมือง – นักธุรกิจ – ข้าราชการ เราเห็นแม้กระทั่งรธน. ฉบับสุดท้าย 2560 บอกเป็นรธน.ฉบับปราบโกง
แต่ต้องยอมรับบัดนี้ โคตรโกง โกงทั้งโครต…คุมได้เฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติบางกลุ่ม บางกลุ่มก็ละเมิดไปหาผลประโยชน์ ตอนที่ผมเป็นประธานมา 4 ปี ลุกลามชัดเจน !!
ดังนั้นความเป็นธุรกิจการเมือง...การที่นักธุรกิจ หรือเป็นอะไรเข้ามาเล่นการเมือง...ไม่ใช่ตัวปัญหา กลับดี มีความหลากหลาย ความรอบรู้ในสภา เพราะเมื่อผมเป็นผู้แทนครั้งแรก ความหลากหลายน้อยมาก มีทนาย ครู แค่นี้
สำคัญ...เข้ามาเป็นนักการเมืองแล้ว ไม่ยึดความชอบธรรม ถูกต้อง ข้าราชการเองก็พึ่งนักการเมือง สุดท้ายการแต่งตั้งข้าราชการ เลือกคนที่เป็นเครื่องมือให้ตัวเอง
เมื่อก่อนคืนหมาหอน นักการเมืองต้องมีอะไรไปแถม เดี๋ยวนี้ทำล่วงหน้า มีคำถามที่ตอบยากว่า ระหว่างที่ตัวเองอาจจะแพ้ ถ้าไม่ใช้เงิน กับคู่ต่อสู้ ซื้อเสียงละ 500 – 1,000 – 3,000 มีโอกาสชนะ
นักการเมืองจะเลือกอะไร !?
การจะเช็คอุดมการณ์เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว อาจเปลี่ยนแปลงไปด้วยสภาพสังคมที่การครองชีพประชาชนลำบากขึ้น เมื่อก่อนไม่ต้องเสียค่าประปา ค่าไฟฟ้า ใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าด แต่ตอนนี้ทุกอย่างเป็นภาระรายจ่ายหมด มีคนอยู่ในฐานะอยากได้เงิน ดังนั้นภาระเหล่านี้เทียบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น ไม่เป็นไปตามรายจ่ายที่ควรเป็น
ผมยังคิด...ถ้าลงสมัครตั้งเลือกแบบปี 2012 ไม่แน่ใจจะไปรอดหรือไม่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะเมื่อไหร่ที่ต้องซื้อเสียง เสียงละบาท...ผมก็ไม่เอา มันไม่ใช่แนวที่เราทำมาตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้เราจะพึ่งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติทั้งหมด...ไม่ได้ เพราะฝ่ายบริหารมาจากฝ่ายนิติบัญญัติ รัฐบาลดีต่อเมื่อเราได้ผู้แทนดี - ถ้าได้ผู้แทนซื้อเสียง รัฐบาลก็โกงเอาคืน
อันนี้เป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้การเมืองประชาธิปไตยสะดุด ด้วยระบบธุรกิจการเมือง...ซื้อทุกอย่าง !!
แต่ฝ่ายหนึ่งในอำนาจอธิปไตย คือตุลาการ ยืนหยัดให้ได้ เพราะเราไม่สามารถทำให้ทุกคนรวยเหมือนกันหมดได้ แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน บ้านเมืองถึงจะไปรอด ไม่วุ่นวาย
ย้ำมาตลอด...หลักนิติธรรมเป็นหัวใจ !!
ตำนานซื้อเสียง แต่เราไม่ !?
ในยุคผมสมัครผู้แทน คำว่าซื้อเสียงยังไม่มี อย่างดีเลี้ยงเหล้า - ขอลูกรังเข้าวัด เข้ามัสยิส – ไปดูหนังรณรงค์ มีแจกใต้ส่องทางเดินตอนกลางคืน - แจกรองเท้าแตะข้างหนึ่ง อีกข้างไว้ทีหลัง ก็เป็นเรื่องเล่ากันมา
แต่ที่เห็นเอง โดนเอง หลบทัน...ตอนไปเดินหาเสียงในหมู่บ้าน มีนักเลงนั่งกินเหล้ากันอยู่ ตะโกนขอให้เราเลี้ยงเหล้า เขาใช้คำว่า...ขอใช้สักท่อนนิ !!
ผมไม่ให้...เขาเลยปาของใส่ ดีที่ไม่ถูก พวกกินเหล้าเขาก็ไม่เลือกเรา แต่ภรรยาพวกกินเหล้าเลือกเราหมดเลย อันนี้ของจริง (ขำเบา ๆ)
เราสู้ด้วยวิถีทางไม่ใช้เงินมาตั้งแต่ต้น !!
ถึงบอกไม่ค่อยแน่ใจ ถ้าลงสมัครในสถานการณ์ปัจจุบันจะรอดหรือไม่ อันนี้ให้เป็นข้อเตือนใจพี่น้องประชาชน --- จบ Ep.2 ---
.
WhoChillDay
4 ม.ค. 2567
#ชวน หลีกภัย #ปชป. #จักรวาลการเมือง
#ธุรกิจการเมือง #ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา