3 ม.ค. 2024 เวลา 10:12 • ไลฟ์สไตล์

กลยุทธ์ 3 ข้อสำหรับ การเดินทาง ผ่านการเปลี่ยนแปลงของชีวิต

กลยุทธ์ที่ 1: จำกัดมุมมองของท่านให้แคบลง
การเปลี่ยนแปลงหมายถึงสิ่งที่ไม่รู้จัก บางครั้งสมองจะรับไม่ไหวหากมีสิ่งที่ไม่รู้มากเกินไป สมองกลัวสิ่งที่ไม่รู้จักเพราะเชื่อว่าอาจมีอันตรายอยู่ข้างหน้าก็เป็นได้ ขอบคุณสมองที่ช่วยให้เรายังมีชีวิตอยู่
วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ฉันค้นพบ คือการจำกัดมุมมองของท่านให้แคบลงเหลือเพียงสิ่งที่ท่านรู้ ยิ่งการเปลี่ยนแปลงมีความสุดโต่งและเกี่ยวข้องกับอารมณ์มากเท่าใด มุมมองของท่านก็ยิ่งจำเป็นต้องแคบลงเท่านั้น
หากท่านสูญเสียงานโดยไม่คาดคิด สมองของท่านอาจต้องการคิดทุกสิ่งให้ออก ท่านจะชำระใบแจ้งหนี้ได้อย่างไร? ท่านจะหางานใหม่ได้อย่างไร? ท่านจะหางานใหม่ได้เมื่อใด? กระบวนการนั้นจะลำบากมากน้อยเพียงใด? ผู้คนจะคิดอย่างไร? เรายังไม่มีคำตอบให้กับคำถามจำนวนมากเหล่านี้ในขณะนี้
แต่อันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ ทำอย่างไรต่อจากนี้? ท่านจะใช้ชีวิตไปจนถึงสิ้นสัปดาห์นี้ได้หรือไม่? นั่นคือสิ่งที่ท่านจำเป็นต้องรู้ทั้งหมดในตอนนี้ บางครั้งเมื่อเราอยู่ในภาวะที่มีความรู้สึกเจ็บปวดทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง เราจำเป็นต้องมุ่งเน้นทีละวัน ท่านจะกินอะไรเป็นอาหารเช้า? เรามาเริ่มกันที่ตรงนั้นดีกว่า
จำกัดมุมมองของท่านให้แคบลงเพื่อให้มีความสุข และจากจุดนั้นท่านจะพบคำตอบ พระองค์จะทรงนำทางท่าน หากท่านแสวงหาพระองค์และวางใจพระองค์ “เจ้าจงอ่อนน้อมถ่อมตน; และพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าจะทรงจูงมือนำเจ้าไป, และให้คำตอบคำสวดอ้อนวอนของเจ้าแก่เจ้า.” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 112:10)
กลยุทธ์ที่ 2: มุ่งเน้นที่อนาคต ไม่ใช่อดีต
สมองของท่านชอบย้อนกลับไปในอดีตเพราะมีความทรงจำที่จะดึงเอามาใช้ แต่อนาคตของท่านจะแตกต่างจากในอดีตและนั่นคือสิ่งที่ดี การไตร่ตรองว่าสิ่งใดที่ผิดพลาดไปหรือแม้แต่การหวนระลึกถึง “วันเก่าๆ ที่งดงาม” ด้วยการเสียเวลาในปัจจุบันนั้นทำได้ง่ายแต่ไม่เป็นประโยชน์
ตอนที่ฉันเพิ่งคลอดลูกคนแรก ฉันดีใจอย่างยิ่งที่จะมีเด็กตัวเล็กๆ อยู่ในบ้านของฉันและไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันรักเขามากเพียงใด แต่ฉันก็รู้สึกหนักใจว่าเขาต้องได้รับการดูแลมากเพียงใดและการที่ฉันไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระเหมือนเมื่อก่อน
ฉันคอยคิดแต่ว่าชีวิตเคยมีความเรียบง่ายมากกว่านี้ ฉันคิดว่าฉันเคยสามารถอาบน้ำและทำผมทุกเช้า ฉันคิดว่าฉันเคยชอบร่างกายของฉันมากกว่านี้ ฉันคิดว่าฉันเคยมีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่มากกว่านี้และจึงสนุกมากกว่านี้ ฉันรู้สึกแย่มากเมื่อฉันจดจ่อกับอดีตของฉันเช่นนี้
ในที่สุดฉันก็ตระหนักว่าฉันไม่สามารถหาคำตอบจากอดีต ฉันต้องให้ความสำคัญกับอนาคต ฉันต้องเริ่มจินตนาการตัวเองที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่ฉันต้องการในชีวิต เพียงแต่ฉันต้องทำสิ่งเหล่านั้นกับลูก ฉันต้องปรับไปสู่คนที่ฉันต้องการจะเป็น ไม่ใช่คนที่ฉันเคยเป็น ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปแต่ก็ทำได้หากท่านเต็มใจที่จะเปิดใจรับความเป็นไปได้
พระเจ้าทรงบอกเราว่า: “เจ้าเป็นเด็กน้อย, และเจ้ายังไม่เข้าใจว่าพระบิดาทรงมีพรสำคัญยิ่งเพียงใดในพระหัตถ์ของพระองค์เองและทรงเตรียมไว้ให้เจ้า; “และเจ้าไม่อาจทนทุกสิ่งได้ขณะนี้; กระนั้นก็ตาม, จงรื่นเริงเถิด, เพราะเราจะนำทางเจ้าไป. อาณาจักรเป็นของเจ้าและพรที่นั่นเป็นของเจ้า, และความมั่งคั่งแห่งนิรันดรเป็นของเจ้า.” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 78:17–18)
กลยุทธ์ที่ 3: จงเห็นอกเห็นใจตนเอง
การเปลี่ยนแปลงสามารถทำให้ส่วนที่แกร่งที่สุดของเราเสียหลักได้ ท่านอาจรับรู้ถึงอารมณ์มากมาย สิ่งที่เป็นพิษที่สุดบางอย่างที่เราบอกกับตนเองได้คือความคิดต่างๆ เช่น “ฉันหวังว่าฉันจะไม่ใช้อารมณ์มากอย่างนี้ ฉันควรจัดการกับสิ่งนี้ให้ดีกว่านี้” หรือ “ฉันเสียใจที่ฉันไม่เข้มแข็งกว่านี้” การหวังว่าท่านจะใช้อารมณ์น้อยลงไม่ได้ทำให้การเปลี่ยนแปลงง่ายขึ้น แต่กลับยิ่งเพิ่มความอับอายหรือความรู้สึกผิดต่อความท้าทายอื่นๆ ที่ท่านกำลังเผชิญอยู่แล้ว
ความเห็นอกเห็นใจตนเองคือกุญแจสำคัญ ความเห็นอกเห็นใจกล่าวว่า “แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก! ความลำบากเป็นเรื่องธรรมดา” และ “ไม่ว่าอย่างไรฉันก็รักคุณ” โปรดพูดสิ่งเหล่านี้กับตนเอง อย่าเพิ่มความเจ็บปวดด้วยการคิดว่าท่านไม่ควรเจ็บปวด พระบิดาบนสวรรค์ทรงส่งเรามายังโลกเพื่อช่วยให้เราเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น
ซึ่งฉันพอจะสามารถจินตนาการได้เพียงว่าเราต้องการเติบโตอย่างยิ่งยวด หากฉันต้องการสร้างกล้ามเนื้อของฉัน ฉันต้องยกน้ำหนักอย่างหนัก แรงต้านของน้ำหนักเหล่านั้นทำให้กล้ามเนื้อของฉันทลายลงได้มากพอที่จะได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแกร่งมากกว่าเดิม วิญญาณของเราก็เช่นเดียวกัน
เราต้องการแรงต้านพอประมาณเพื่อให้เราสามารถกลับมาแข็งแกร่งกว่าที่เราเคยเป็นมา พระเจ้าทรงอธิบายดังนี้: “ผู้คนของเราต้องรับการทดลองในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง, เพื่อพวกเขาจะพร้อมรับรัศมีภาพที่เรามีไว้ให้พวกเขา, แม้รัศมีภาพของไซอัน; และคนที่จะไม่ทนการตีสอนก็ไม่คู่ควรกับอาณาจักรของเรา.” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 136:31)
การเปลี่ยนแปลงเป็นวิธีหนึ่งที่ชีวิตหล่อหลอมเราเพื่อให้เราสามารถเป็นเหมือนพระบิดาบนสวรรค์ของเรา จงใจดีกับตนเองในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง บางครั้งการเป็นมนุษย์ก็เป็นสิ่งที่ยากเย็นเหลือเกิน
Happiness 😊😊
โฆษณา