Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
5 ม.ค. 2024 เวลา 13:38 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 61
อู่ซง ผู้จาริก (15) สมิงตาทอง
ผู้คุม 差拨 มาถึงก็ถามหาว่า “ใครคือนักโทษผู้มาใหม่”
อู่ซงว่า “ผู้น้อยเอง”
ผู้คุมว่า “หูตาเจ้าก็มีอยู่ ต้องให้ข้าอ้าปากด้วย ผู้กล้าฆ่าเสือเนินจิ่งหยาง แล้วไง เป็นตูโถวอยู่หยางกู่ ก็ควรจะรู้ความ ยังมาทำเฉไฉ มาอยู่ที่นี่น่ะ แมวสักตัวก็ไม่มีให้ฆ่า”
อู่ซงว่า “พูดมากขนาดนี้ คงหวังสินน้ำใจจากข้า ครึ่งตังค์ก็ไม่ให้ มีแต่กำปั้นคู่หนึ่งจะแจก เงินทองพอมีเก็บไว้ซื้อเหล้ากินเอง ดูว่าเจ้าจะทำอะไรข้า ดีไม่ดีต้องส่งตัวข้ากลับไปหยางกู่”
ผู้คุมโกรธจัดเดินกลับไป พวกเพื่อนร่วมแดนมาบอกว่า “หนุ่ม เจ้าแข็งข้อกับเขา เดี๋ยวได้เดือดร้อน นี่คงกลับไปฟ้องผู้กำกับแดน 管营 เดี๋ยวคงกลับมาเล่นงานเจ้า”
อู่ซงว่า “ไม่กลัว จะทำอะไรแล้วแต่เขา ดีมาดีตอบ ร้ายมาร้ายกลับ”
ไม่ทันขาดคำ มีชายสี่คนมายังห้องพักเดี่ยวเรียกตัวนักโทษใหม่อู่ซง
อู่ซงขานตอบว่า “เจ้าพ่ออยู่นี่ เอะอะโวยวาย เดี๋ยวไม่ไป”
ชายกลุ่มนั้นนำอู่ซงมายังโถงว่าการ มีผู้กำกับแดนนั่งอยู่ ทหารหกนายยืนคุมเชิง
ผู้กำกับตวาดบอกให้ถอดคาอู่ซงออกแล้วว่า “ตามกฎขององค์ไท่จู่อู่เต๋อฮ่องเต้บัญญัติไว้ นักโทษเนรเทศมาถึงใหม่ ให้โบยข่มขวัญหนึ่งร้อยที จับตรึงหลังไว้”
อู่ซงว่า “ไม่ต้องวุ่นวาย จะโบยก็โบย ไม่ต้องตรึงหลัง หากข้าหลบแม้แต่ไม้เดียว ก็ไม่ใช่คนกล้า ที่โบยมาก่อนหน้าไม่นับ ให้นับหนึ่งใหม่ และไม่ถือเป็นลูกผู้ชาย”
คนในห้องต่างนึกขำ “ไอ้ทึ่มรนหาที่ ทำเป็นจองหอง”
อู่ซงย้ำ “จะโบยก็หนักมือหน่อย อย่าได้ยั้งมือ ไม่งั้นหงุดหงิด” คนทั้งนั้นพากันหัวเราะ
ก่อนทหารจะลงมือโบย ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ข้างผู้กำกับแดน ร่างสูงกว่าหกฉื่อ อายุราวยี่สิบห้าปี หน้านวลผิวขาว ไว้เคราสามแหยม มีผ้าขาวโพกหัว สวมเสื้อเขียว ใช้ผ้าขาวคล้องแขนข้างหนึ่งไว้ ก้มลงกระซิบข้างหูผู้กำกับ
ผู้กำกับจึงถามว่า “นักโทษมาใหม่อู่ซง ระหว่างทางป่วยโรคอะไร”
อู่ซงว่า “ระหว่างทางไม่ได้ป่วย เหล้าก็ดื่ม เนื้อก็กิน ข้าวก็กิน เดินทางก็ไหว”
ผู้กำกับว่า “หมอนี่ป่วยระหว่างทาง ดูสีหน้าเพิ่งหาย โทษโบยข่มขวัญให้เลื่อนไปก่อน”
ทหารถือพลองก้มมาบอกอู่ซง “รีบรับว่าป่วย นายท่านกล่าวนำให้แล้ว เจ้าคล้อยตามก็พอ”
อู่ซงจึงว่า “ไม่ได้เจ็บไม่ได้ป่วย โบยมาให้เสร็จไม่ต้องติดค้าง เดี๋ยวกลายเป็นหนี้ เมื่อไรจะแล้ว” คนทั้งนั้นต่างหัวเราะ
ผู้กำกับแดนก็หัวเราะแล้วกล่าวว่า “คิดว่าคนผู้นี้เป็นไข้ตัวร้อน เหงื่อไม่ออก จึงพูดจาเลอะเลือน ฟังไม่รู้เรื่อง นำตัวไปขังเดี่ยว”
ทหารสามนายพาอู่ซงกลับมาที่ห้องพักเดี่ยว พวกเพื่อนนักโทษแวะมาถามไถ่ว่า “ตกลงมีหนังสือแนะนำตัวมาละมัง”
อู่ซงตอบว่า “ไม่เคยมี”
“ไม่มี แล้วเลื่อนโทษโบยแบบนี้ ไม่ดีแน่ คืนนี้คงกลับมาเล่นงานเอาถึงตาย”
“เขาจะเล่นงานข้าได้แบบไหน”
“ตกเย็นเอาข้าวแดงมาให้สองชามกินแกล้มปลาดองเหม็นๆ พออิ่มแล้วก็พาเข้าคุก เอาเชือกมัดเอาเสื่อห่อ อุดเจ็ดทวาร แขวนห้อยหัวลงไว้ข้างกำแพง ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ตายแล้ว วิธีนี้เรียกว่า แขวนกระถาง 盆吊”
“ยังมีวิธีไหนเล่นงานข้าได้อีก”
“มีอีกวิธี จับมัดแล้วเอากระสอบทรายทับเอาไว้ ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ตายเหมือนกัน วิธีนี้เรียกว่า กระสอบดิน 土布袋”
“ยังมีวิธีไหนอีก”
“สองวิธีนี้น่ากลัวที่สุด วิธีอื่นไม่เท่าไร”
ระหว่างคุยกันอยู่ มีทหารยกกล่องใบหนึ่งเข้ามาถามว่า “คนไหนคือ อู่ตูโถวที่มาอยู่ใหม่”
“ข้าเอง มีอะไร”
“ท่านผู้กำกับให้นำของว่างมาให้”
อู่ซงดูแล้วเห็นว่ามี เหล้าหนึ่งกระบวยใหญ่ เนื้อจานใหญ่ หมี่จานใหญ่ และน้ำแกงชามใหญ่ อู่ซงจึงคิดว่า “หากเอาของอย่างนี้มาให้รองท้องแล้วค่อยเล่นงาน ข้าคงต้องกินให้หมดก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
พอกินเสร็จ ทหารก็เก็บจานชามกลับไป
อู่ซงคิดว่า “จะมาไม้ไหนอีก”
พอฟ้ามืด ทหารคนเดิมก็ยกกล่องอีกใบมาให้
อู่ซงว่า “เจ้ามาอีกแล้ว”
“มาส่งอาหารเย็น” แล้วก็จัดวางจานชามบนโต๊ะ คราวนี้มี เหล้าหนึ่งกระบวยใหญ่ เนื้อผัดจานใหญ่ น้ำแกงปลาชามใหญ่ และข้าวชามโต
อู่ซงคิดว่า “หลังมื้อใหญ่นี่คงมาเล่นงานข้าแน่ เอาละ ถึงตายก็เป็นผีอิ่มท้อง”
พอกินเสร็จ ทหารผู้นั้นก็เก็บถ้วยชามกลับไป
ไม่นานนัก ทหารผู้นั้นกลับมาพร้อมกับชายอีกคนหนึ่งคนหนึ่งยกอ่างอาบน้ำ อีกคนยกถังน้ำอุ่นมา มองมายังอู่ซงแล้วว่า “ตูโถว เชิญอาบน้ำ”
แล้วจัดแจงเทน้ำใส่อ่าง อู่ซงก็ไม่ขัดลงไปอาบ อาบเสร็จก็ส่งผ้ามาให้เช็ดตัว สวมเสื้อผ้าแล้ว คนหนึ่งก็เทน้ำทิ้งยกถังกลับไป อีกคนก็นำเสื่อมาปู วางหมอน แล้วเชิญอู่ซงพักผ่อน ก่อนเก็บของกลับไป อู่ซงปิดประตูลงกลอนคิดว่า “นี่มันอะไรกัน แต่ช่างเขาเถอะ ดูกันต่อไป”
คืนนั้นก็เข้านอน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอฟ้าแจ้ง เปิดประตูห้องมาก็เห็นทหารคนเดิมยกถังน้ำล้างหน้ามาให้อู่ซงล้างหน้าบ้วนปาก แล้วเอาหวีมาช่วยหวีผมผูกมวยให้ จากนั้นก็นำกล่องอาหารเช้ามาให้อีก เป็นน้ำแกงเนื้อชามใหญ่ และข้าวชามใหญ่ หลังอาหารมีน้ำชาให้ดื่ม
1
ดื่มน้ำชาแล้ว ทหารคนเดิมก็มาบอกว่า “ที่นี่พักไม่สบาย ตูโถวเชิญมาอีกห้อง”
อู่ซงคิดว่า “มาแล้วสิ ดูทีว่าจะพาไปไหน”
คนหนึ่งเข้ามาเก็บข้าวของที่นอนให้อู่ซง อีกคนนำทางมายังห้องที่อยู่ด้านหน้า ผลักประตูเข้าไปเห็นเตียงนอนสะอาดสะอ้าน มีโต๊ะและม้านั่งตั้งอยู่สองข้าง
อู่ซงคิดว่า “คิดว่าจะพาเข้าคุกดิน มาห้องนี้ดีกว่าห้องเก่ามากทีเดียว”
鸡鸣狗盗君休笑,曾向函关出孟尝。
今日配军为上客,孟州赢得姓名扬。
ไก่ขันหมาขโมยอย่าได้ขำ
เคยช่วยนำเมิ่งฉางพ้นด่านหัน
นักโทษเนรเทศกลายเป็นแขกสำคัญ
ชื่อเสียงพลันขจรขจายที่เมิ่งโจว
(ไก่ขันหมาขโมย 鸡鸣狗盗 เป็นสำนวนจีนหมายถึงความสามารถของคนต่ำต้อย มีต้นกำเนิดในยุคจ้านกว๋อ เมิ่งฉางจวิน 孟尝君 หนีจากรัฐฉินกลับไปรัฐฉีทางด่านหันกู่ 函谷关 หรือด่านหุบเขาหัน ได้ด้วยความช่วยเหลือจากคนสองคน คนหนึ่งช่วยขโมยของ อีกคนหนึ่งร้องเลียนเสียงไก่ทำให้ไก่พากันขัน)
เวลาเที่ยง ทหารคนเดิมยกกล่องอาหารและเหล้ามากาหนึ่ง อาหารมีผลไม้สี่ชนิด ไก่ต้มหนึ่งตัว ก๋วยเตี๋ยวหลอดอีกหลายชนิด พอจัดวางแล้วก็ฉีกไก่และรินเหล้าให้
ตกเย็นมีอาหารเย็นหรูหรา และน้ำท่ามาให้อาบอีก อู่ซงจึงสงสัยมากขึ้น “พวกเพื่อนนักโทษบอกมาอย่าง ข้าก็เชื่อ แต่นี่กลับเป็นการต้อนรับขับสู้อย่างดี”
วันที่สามหลังอาหารเช้าชั้นเลิศ อู่ซงออกไปเดินเล่นนอกค่าย เห็นพวกนักโทษ บ้างหาบน้ำ บ้างผ่าฟืน บ้างทำงานสารพัดกันอยู่กลางแดดเปรี้ยงกลางเดือนหก ไม่รู้จักหลบแดด อู่ซงยืนเอามือไขว้หลังถามว่า “พวกท่านทำอะไรกันอยู่กลางแดด”
พวกนักโทษหัวเราะแล้วมีคนตอบมาว่า “หนุ่ม เจ้าไม่รู้หรอก พวกเรามีงานทำอยู่กลางแจ้งนี่ก็นับว่าสวรรค์แล้ว ใครจะกล้าไปนั่งหลบแดด ยังดีพวกที่ไม่มีสินน้ำใจให้ ต้องจองจำล่ามโซ่ในคุก อยากตายก็ไม่ได้”
อู่ซงฟังจบ ก็เดินมายังศาลโลกบาล 天王堂 เห็นข้างเตาเผากระดาษมีหินก้อนใหญ่จึงไปนั่งลงอยู่พักหนึ่งก็เดินกลับห้อง มีคนยกสุราอาหารมาเลี้ยงดูอีก
เป็นเช่นนี้มาหลายวัน มีแต่อาหารดีมาให้กิน ไม่เห็นมีใครมาทำร้าย อู่ซงได้แต่งุนงง วันนี้เที่ยงวัน พอคนยกอาหารมา อู่ซงเอามือกดกล่องอาหารไว้แล้วถามว่า “เจ้าเป็นคนของใครกัน”
“วันก่อนผู้น้อยก็บอกตูโถวไปแล้วว่า เป็นคนสนิทของนายท่านผู้กำกับแดน”
“เช่นนั้นข้าถามใหม่ ใครใช้เจ้าส่งอาหารมาทุกวัน เพื่ออะไร”
“คือผู้กำกับน้อย 小管营 บุตรท่านผู้กำกับเป็นผู้ใช้มา”
“ข้าเป็นนักโทษ ไม่เคยทำอะไรให้ผู้กำกับ จะเอาของพวกนี้มาเลี้ยงข้าทำไม”
“ผู้น้อยจะรู้ได้อย่างไร ผู้กำกับน้อยกำชับมาให้ส่งอาหารท่านสามถึงหกเดือนค่อยพูดจา”
“งั้นก็แปลก ข้ามิถูกขุนจนอ้วนแล้วค่อยมาลงมือหรือ น้ำเต้าปริศนา 闷葫芦 (ไร้เงื่อนงำ) ทายไม่ถูก ข้าไม่วางใจกินของไม่มีที่มาที่ไป เจ้าช่วยบอกที ผู้กำกับน้อยของเจ้าเป็นใครเคยพบข้าเมื่อไร”
“วันที่ตูโถวมาถึงใหม่ คนที่อยู่ในห้องโถงมีผ้าขาวโพกหัว มีผ้าคล้องแขนขวา ก็คือท่านผู้กำกับน้อย”
“คนสวมชุดเขียวยืนข้างผู้กำกับนั่นหรือ”
“เป็นบุตรชายท่านผู้กำกับแดน”
“ข้าจะโดนโบยข่มขวัญ เขาเป็นคนขอร้องไว้ให้ละเว้น”
“ถูกต้อง ผู้กำกับน้อยขอบิดาท่านไว้ ตูโถวจึงไม่โดนโบย”
“เช่นนั้นยิ่งน่าสงสัย ข้าเป็นคนชิงเหอ เขาเป็นคนเมิ่งโจว ไม่เคยรู้จักกัน ทำไมต้องมาช่วยข้า งั้นข้าถามเจ้า ผู้กำกับน้อยมีชื่อแซ่อะไร”
“แซ่ซือชื่อเอิน มีฝีมือดี คนเรียกท่านว่า สมิงตาทองซือเอิน 金眼彪施恩”
“คงเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง เจ้าช่วยไปเชิญมาพบข้าที ข้าจึงกินอาหารพวกนี้ หากไม่ยอมมาพบข้า ข้าจะไม่แตะต้องอาหารพวกนี้อีก”
“ผู้กำกับน้อยกำชับไว้ไม่ให้แพร่งพราย รอสามถึงหกเดือนค่อยมาทำความรู้จัก”
“เหลวไหล เจ้าไปเชิญผู้กำกับน้อยให้มาพบข้าก็พอ”
สมิงตาทองซือเอิน 金眼彪施恩 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 49 ลำดับรวมที่ 85 เป็นหนึ่งในสิบเจ็ดรองแม่ทัพราบของเขาเหลียงซาน ลำดับที่หก
ซือเอินคุม ดงสำราญ 快活林 อันเป็นทำเลทองในการทำมาค้าขายของเมืองเมิ่งโจว อาศัยอิทธิพลของบิดาซึ่งเป็นผู้กำกับแดนจำเมืองเมิ่งโจว จึงเกณฑ์นักโทษมาช่วยงานที่ดงสำราญได้มากถึงเก้าสิบคน มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ จนได้ฉายาว่า สมิงตาทอง เห็นอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด
ทักษะการต่อสู้ของซือเอินนั้นไม่ถึงขั้นยอดฝีมือจึงถูก ทวารบาลเจี่ยง 蒋门神 โค่นอิทธิพลชิงเอาดงสำราญไป
ตอนก่อนหน้า : คนสวนผัก นางยักษ์
https://www.blockdit.com/posts/65955a96f09ee1078afbe463
ตอนถัดไป : ดงสำราญ
https://www.blockdit.com/posts/659bec3eab37786e74296125
1 บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน ภาคต้น
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย