6 ม.ค. 2024 เวลา 04:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Society of the Snow (2023) – เราเป็นใครในหุบเขานี้

เหตุการณ์จริงที่ผู้คนรู้จัก อาจจะถูกนำมาสร้างจนผู้คนพอจะรู้จุดจบหรือจำได้ แต่สำหรับ “ปาฏิหารย์แห่งหุบเขาแอนดีส” ที่ว่าด้วยการเอาชีวิตรอด ภายใต้ความทรหดของหุบเขาอันหนาวเหน็บของชายหนุ่ม 16 ราย ที่มีทั้งสถานการณ์อันยากลำบากและจุดพลิกผันที่ยากเกินกว่าจินตนาการ และมันก็ถูกนำมาสร้างอย่างสมจริง ภายใต้ผู้กำกับ ฯ เจ.เอ. บาโยนา อย่าง “Society of the Snow“
“Society of the Snow” บอกเล่าเหตุการณ์ปาฏิหารย์แห่งแอนดีส หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติการบินแอนดีสของกองทัพอากาศอุรุกวัยในปี 1972 ที่ผู้โดยสารทั้ง 45 คน ซึ่งเป็นนักกีฬารักบี้และครอบครัว ประสบเหตุเครื่องบินตกบนเทือกเขาแอนดีส และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ และรอคอยความช่วยเหลือกับการกู้ภัยเป็นเวลาหลายอาทิตย์
ตัวหนัง เปิดเริ่มต้นมาในห้วงเวลาแรกก่อนที่ทีมฟุตบอลรักบี้ “โอลด์คริสเตียน” ชาวอุรุกวัย จะชวนเพื่อนพ้องญาติมิตร โดยสารขึ้น เครื่องบินกองทัพอากาศอุรุกวัย เที่ยวบินที่ 571 เพื่อเดินทางไปพักผ่อนในชิลี ด้วยการบินข้ามเทือกเขาแอนดีส หนังใช้เวลาเกริ่นนำชุดตัวละครไม่นานนัก ผ่านมุมมองการบรรยายของตัวเอก “นูมา” ก่อนนำพาพวกเราเข้าไปสู่ห้วงเวลาอันแสนทรหด ในการเอาชีวิตรอด ท่ามกลางขุนเขาอันหนาวเหน็บเป็นเวลาหลายสิบวัน
เหตุการณ์ “ปาฏิหารย์แห่งหุบเขาแอนดีส” ในปี 1972 เป็นเหตุการณ์อันลือลั่น และเป็นที่โจษจันไม่น้อย จากการเอาชีวิตรอดอันเหลือเชื่อของเหล่าชายหนุ่ม ภายใต้เงื่อนไขอันโหดร้าย และเป็นไปไม่ได้ในหุบเขาแห่งน้ำตา และด้วยเรื่องราวดั่งปาฎิหารย์ มันจึงถูกหยิบมาดัดแปลงหลายครั้ง โดยเฉพาะ “Alive” ของแฟรงค์ มาร์เชลล์ ในปี 1993 แต่ครั้งนี้ มันถูกบอกเล่าด้วยความตั้งใจที่จะยกย่องเรื่องราว แด่ผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น โดยแท้จริง
การลำดับเรื่องราวแทบไม่มีอะไรแปลกใหม่ จากเส้นเรื่องที่เป็นเส้นตรง บอกเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงวินาทีที่เครื่องบินตกได้แสนน่าสะพรึงกลัว ตลอดจนการนำเสนอเรื่องราว ที่ทำให้ผู้ชมได้เข้าไปอยู่ในความอึดอัดพรั่นพรึงของสถานการณ์ความเป็นความตาย ที่หนทางในการเอาชีวิตรอดแทบจะริบหรี่ ผ่านสายตาของ “นูมา” ที่เป็นเสมือนตัวแทนคนดู ที่ได้เข้าไปสำรวจความเป็นมนุษย์จากการตัดสินใจ ภายใต้สถานการณ์สุดขั้วดังกล่าว
แต่ถึงแม้ ตัวหนังจะไม่ได้แปลกใหม่สำหรับหนังแนวใกล้เคียงกันนี้ แต่การนำเสนอผ่านสายตา “นูมา” ก็ช่วยบอกเล่าเรื่องราวอย่างไม่ชี้นำหรือยกยอ แต่กลับมีความเป็นกลางพอสมควร ซึ่งต่างจากขนบหนังแนวนี้ ที่มักจะปั้นตัวละครเอกให้ผู้ชมได้ติดตาม เพื่อก่อให้เกิดความเอาใจช่วยจนตลอดรอดฝั่ง จนกลายเป็นการชูโรงความเป็นวีรบุรุษ จากเหตุการณ์โศกนาฎกรรมระทึกขวัญจนเกินงาม
กระนั้นเอง “Society of the Snow” กลับไม่ได้ทำให้เรารู้จัก หรือทำให้เราหลงใหลในชุดตัวละครทั้งหมดในทันที แต่เรื่องราวมันกลับทำให้เราได้อยู่ร่วม และได้ทำความรู้จักพวกเขา ไปพร้อม ๆ กับนูมา พร้อมกับการเผชิญเงื่อนไขทางศีลธรรม จากการตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างหนักแน่น รวมถึงการพูดถึงความเชื่อผ่านพลังมิตรภาพ จากการร่วมแรงร่วมใจเอาชีวิตรอดได้อย่างทรงพลัง
สรุปแล้ว “Society of the Snow” เป็นหนังเอาชีวิตรอด ที่อาจไม่ได้แปลกใหม่ ว่าด้วยเรื่องราวปาฏิหารย์แห่งหุบเขาแอนดีสที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักบทสรุป แต่ด้วยวิธีการนำเสนอที่ไม่ชี้นำ ส่งผลให้เราได้ไปอยู่ร่วมและทำความรู้จักตัวละคร ในการเอาชีวิตรอดภายใต้สภาวะแสนทรหดเกินทานทน และการเผชิญหน้าซึ่งเงื่อนไขทางศีลธรรม และตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์ธรรมเกินคาดคิด
4 / 5
Society of the Snow - La sociedad de la niev (2023)
Directed by J. A. Bayona
Screenplay by J. A. Bayona, Bernat Vilaplana, Jaime Marques & Nicolás Casariego
Based on "La sociedad de la nieve" by Pablo Vierci

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา