10 ม.ค. 2024 เวลา 13:14 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 63

อู่ซง ผู้จาริก (17) ทวารบาลเจี่ยง
ซือเอินกับอู่ซงออกจากค่ายอันผิงผ่านประตูเมืองตะวันออกมาได้ห้าร้อยก้าว เห็นร้านเหล้า บ่าวที่หาบของเดินนำก็แวะจัดสุราอาหารไว้ พอจะรินเหล้าใส่จอก อู่ซงก็บอกว่า “จอกน้อยไม่เอา เทใส่ชามใหญ่มาเลยสามชาม” อู่ซงดื่มรวดเดียวสามชามแล้วลุกขึ้น บ่าวรีบเก็บถ้วยชามแล้วรีบออกนำไปรอข้างหน้า
อู่ซงหัวเราะว่า “ลงไปออกฤทธิ์ในท้องแล้ว ไปกันเถอะ”
ช่วงเดือนเจ็ด อากาศยังคงร้อน มีลมพัดมาก็เป็นลมร้อน ทั้งคู่จึงคลายเสื้อออก เดินมาได้ไม่ถึงหนึ่งลี้ เห็นธงขายเหล้าอยู่บนยอดไม้ พอเดินใกล้เข้าในเงาไม้ก็เห็นเป็นร้านเล็กๆ ขายเหล้าขุ่นพื้นบ้าน 村醪
古道村坊,傍溪酒店。
杨柳阴森门外,荷华旖旎池中。
飘飘酒旆舞金风,短短芦帘遮酷日。
磁盆架上,白冷冷满贮村醪;
瓦瓮灶前,香喷喷初蒸社酝。
未必开樽香十里,也应隔壁醉三家。
โรงเหล้าริมทางเก่าข้างลำธาร
บึงบัวบานข้างร้านครึ้มหยางหลิ่ว
ธงสุราร่าลมร้อนสะบัดปลิว
ม่านกกพลิ้วบังสูรย์อันเดือดดาล
โถกระเบื้องเรียงรายอยู่บนชั้น
ขาวเป็นมันบรรจุเหล้าพื้นบ้าน
เตากลั่นกลิ่นหอมหวนเย้ายวนหวาน
เมาสามบ้านจรุงไกลไปสิบลี้
ซือเอินหยุดเท้าถามว่า “ร้านนี้ขายเหล้าขุ่นพื้นบ้าน พี่ท่านจะแวะไหม”
อู่ซงว่า “จะเปรี้ยวเค็มขมฝาด ขอให้เป็นเหล้า ต้องดื่มครบสามชาม จึงค่อยเดินต่อ”
พอดื่มครบสามชามออกเดินต่อมาไม่ถึงสองลี้ พบร้านเหล้า อู่ซงก็แวะดื่มอีกสามชาม เป็นเช่นนี้มาตลอดทาง ผ่านไปสิบกว่าร้าน ซือเอินก็ยังไม่เห็นอู่ซงเมา
อู่ซงถามว่า “จากนี่ไปดงสำราญ อีกไกลไหม”
ซือเอินว่า “ไม่ไกลแล้ว ป่าละเมาะที่เห็นลิบๆ ข้างหน้านั่นแหละ”
“ก็ถึงแล้วสิ ท่านไปหาที่หลบ ข้าเข้าไปเอง”
“ก็ดี ผู้น้องมีที่หลบอยู่ พี่ท่านระวังตัวด้วย อย่าได้ประมาทศัตรู”
“ไม่เป็นไร ท่านให้บ่าวนำทางข้าไป ข้างหน้านี่มีร้านเหล้า ข้าต้องดื่มอีก”
ซือเอินให้บ่าวนำทางต่อ ส่วนตัวเองหลบไป ระยะทางที่เหลือราวสี่ลี้ อู่ซงเดินไปดื่มไปได้อีกสิบกว่าชาม มาถึงที่หมายเวลาเที่ยง อากาศร้อนจัดมีเพียงลมอ่อนๆ เหล้าขย้อนขึ้นมา อู่ซงจึงแหวกอกเสื้อออก เมาได้สักเจ็ดส่วน แต่ทำเป็นเมาเต็มที่ เดินตุปัดตุเป๋ ก้มหน้ากระดกหลังมายังหน้าป่าละเมาะ
บ่าวนำทางชี้บอกว่า “ตรงปากทางสามแพร่ง 丁字路 คือร้านของทวารบาลเจี่ยง”
อู่ซงว่า “ก็ถึงแล้วสิ เจ้าหลบไปให้ไกล ข้าคว่ำมันแล้ว พวกเจ้าค่อยมา”
อู่ซงเดินเข้าไปในดง เห็นชายฉกรรจ์สูงใหญ่ปานยักษ์ปักหลั่นคลุมชุดขาว มือถือแส้ปัดแมลงวันนั่งผึ่งลมบนเก้าอี้หลบแดดอยู่ใต้ร่มต้นไหวย 槐
形容丑恶,相貌粗疏。
一身紫肉横铺,几道青筋暴起。
黄髯斜卷,唇边几阵风生;
怪眼圆睁,眉下一双星闪。
真是神荼郁垒象,却非立地顶天人
รูปร่างอัปลักษณ์ท่าทางหยาบกระด้าง
ทั่วร่างปุ่มปมไปด้วยเส้นเอ็น
เคราเหลืองม้วนขวางปากกว้างลมเหม็น
ตาปูดโปนเช่น เซินซู วี่ ลวี่
 
(เซินซู 神荼 (shēn shū) วี่ ลวี่ 郁垒 (yù lǜ) สองทวารบาลที่มักเห็นตามบานประตูศาลเจ้า เป็นชื่อเฉพาะ 神 ออกเสียง เซิน 垒 ออกเสียง ลวี่)
อู่ซงแสร้งทำเป็นเมาเซ ชำเลืองมองตรองว่า “เป็นไอ้หมอนี่แน่ ทวารบาลเจี่ยง”
โซเซไปได้ไม่ถึงห้าสิบก้าว เห็นภัตตาคารใหญ่ตั้งตระหง่านตรงปากทางสามแพร่ง หน้าร้านปักเสาห้อยธงเขียนสี่อักษรใหญ่
 
“河阳风月 (เหอหยางเฟิงเยว่) เสน่ห์เหอหยาง”
หันมามองหน้าประตูมีลูกกรงสีเขียวเงาเป็นมันปักธงขลิบทองคู่หนึ่ง แต่ละผืนมีอักษรห้าตัว
醉里乾坤大 壶中日月长
ฟ้าดินกว้างไพศาลยามเมามาย
วันคืนคล้ายนิรันดร์กลางไหเหล้า
ฝั่งหนึ่งเป็นเขียงเชือดแล่หั่นเนื้อ อีกฝั่งหนึ่งเป็นโรงครัวเผานึ่งต้ม ด้านในมีโอ่งเหล้าสามใบเรียงเป็นแถวฝังดินอยู่ครึ่งใบ ตรงกลางตั้งโต๊ะคิดเงินมีหญิงสาวนั่งอยู่ เป็นเมียน้อยคนใหม่ของทวารบาลเจี่ยง เดิมเป็นนักร้องตามลานบันเทิงหว่าจื่อ 瓦子 (วัฒนธรรมหว่าจื่อ ในสมัยซ่งเหนือ 北宋 คึกคัก ตกกลางคืนตามตลาดมีลานบันเทิงเรียกว่าหว่าจื่อ 瓦子 ให้ผู้มีทักษะต่างๆ แสดงความสามารถ)
1
อู่ซงปรือตาทำเป็นเมาเข้าร้านไปนั่งลงตรงข้ามโต๊ะคิดเงิน เอามือท้าวโต๊ะจ้องมองหญิงสาว นางมองมาแล้วหันไปทางอื่น อู่ซงเอามือเคาะโต๊ะว่า “เจ้าของร้านอยู่ไหน”
หัวหน้าบริกรเข้ามาถามว่า “ลูกค้าจะรับเหล้าเท่าไรดี”
อู่ซงว่า “เอามาสองเจี่ยว มาชิมดูก่อน”
บริกรเดินไปบอกหญิงสาวที่โต๊ะให้ตักเหล้าใส่ถังแล้วนำมาอุ่น เทมาให้อู่ซงหนึ่งชาม “ลูกค้าลองชิมดู”
อู่ซงดมแล้วส่ายหัวว่า “ไม่ดี ไม่ดี ไปเปลี่ยนมาใหม่”
บริกรเห็นว่าเมาแล้วจึงไปบอกให้หญิงสาวช่วยเปลี่ยนเหล้าดีถังใหม่มาอุ่นแล้วนำมาให้อู่ซงชามหนึ่ง
อู่ซงชิมดูคำหนึ่งแล้วตะโกนว่า “เหล้านี่ก็ใช้ไม่ได้ รีบไปเปลี่ยนมาใหม่”
บริกรจำกล้ำกลืนไปขอเปลี่ยนที่โต๊ะคิดเงินอีกหน หญิงสาวตักเอาเหล้าชั้นดียิ่งขึ้นเปลี่ยนมา บริกรอุ่นแล้วนำมาให้อู่ซงใหม่อีกชาม อู่ซงชิมแล้วว่า “เหล้านี้ค่อยดีหน่อย” และถามอีกว่า “กว้อไม่ (过卖 คำเรียกบริกรสมัยโบราณ) เจ้าของร้านที่นี่แซ่อะไร”
บริกรตอบว่า “แซ่เจี่ยง”
อู่ซงว่า “แล้วทำไมไม่แซ่หลี่”
หญิงสาวได้ยินจึงว่า “ไอ้หมอนี่ เมาแล้วแส่หาเรื่อง”
บริกรว่า “คงเป็นพวกหลังเขา ไม่รู้ความ ไม่ต้องฟังมันผายลม”
อู่ซงถาม “เจ้าว่าอะไร”
บริกรว่า “พวกเราคุยกันเอง ลูกค้าอย่าได้สนใจ ดื่มเหล้าเถอะ”
อู่ซงว่า “กว้อไม่ เรียกแม่นางที่โต๊ะนั่นมานั่งดื่มเป็นเพื่อนข้าที”
บริกรว่า “เหลวไหล นี่ภรรยาเถ้าแก่”
“เมียเถ้าแก่ แล้วไง มานั่งดื่มได้ไม่เห็นเป็นไร”
หญิงสาวโกรธจัดด่าว่า “น่าตาย โจรสมควรตาย” แล้วเปิดประตูโต๊ะจะถลันออกมา
อู่ซงสาดเหล้าลงพื้น พุ่งเข้าคว้าเอวนางไว้ อีกมือคว้าไปที่ศีรษะกำเครื่องแต่งผมแตกละเอียด รวบมวยผมนาง ยกร่างนางข้ามโต๊ะเล็งแล้วโยนโครมลงในโอ่งเหล้า พวกบริกรที่ว่องไวหน่อยแห่กันเข้ามารุมอู่ซง อู่ซงมือไวคว้าตัวคนแรกได้โยนโครมลงในโอ่งเหล้า คนที่สองก็ไม่พ้นถูกจับโยนลงโอ่งอีกใบ อีกสองคนถัดมาถูกหมัดถูกเท้าคนละที นอนกองบนพื้นลุกไม่ขึ้น พริบตาเดียวลงโอ่งไปสาม นอนพื้นสอง ลูกกะโล่ 捣子 คนหนึ่งวิ่งหนีออกนอกร้าน
อู่ซงคิดว่า “เจ้านั่นต้องวิ่งไปฟ้องทวารบาลเจึ่ยง ข้าตามไปอัดมันให้คว่ำกลางถนน คนจะได้เห็นและฮา”
ลูกกะจ๊อกวิ่งไปบอกทวารบาลเจี่ยง ทวารบาลเจึ่ยงลุกจากเก้าอี้ทิ้งไม้ปัดแมลง วิ่งกลับมาที่ร้าน ไม่ทันตั้งตัวพบอู่ซงสวนทางออกมาดักอยู่กลางทาง อู่ซงชกลมหลอกสองทีแล้วพลิกตัวหนี ทวารบาลเจี่ยงโมโหพุ่งตัวตามมา อู่ซงโดดถีบใส่ท้องน้อย ทวารบาลเจี่ยงใช้สองมือกุมท้องน้อยคุกเข่าลง อู่ซงพลิกตัวกลางอากาศเตะใส่มุมหน้าผากเหนือขมับหน้าหงายล้มลง อู่ซงสาวเท้าเข้ามาเหยียบยอดอก ใช้กำปั้นหนักดังค้อนทั่งกระหน่ำชกใส่หน้าทวารบาลเจี่ยง
2
กระบวนท่าชกหลอกพลิกหลบ โดดถีบด้วยเท้าซ้ายพลิกตัวกลางอากาศเตะด้วยเท้าขวาเป็นกระบวนท่าประจำตัวของอู่ซงเรียกว่า ท่าเท้ายวนยางย่างห่วงหยก 玉环步鸳鸯脚 เล่นงานทวารบาลเจี่ยงจนต้องร้องขอชีวิต
1
อู่ซงตวาดว่า “จะให้ข้าไว้ชีวิต ต้องรับเงื่อนไขสามข้อ”
ทวารบาลเจี่ยงว่า “ผู้กล้าว่ามา เจี่ยงจง 蒋忠 รับปาก”
อู่ซงว่า “ข้อที่หนึ่ง เจ้าต้องไปให้พ้นจากดงสำราญ ส่งคืนข้าวของเครื่องใช้ที่แย่งชิงมาให้กับสมิงตาทองซือเอิน”
ทวารบาลเจี่ยงลนลานตอบ “รับปาก รับปาก”
อู่ซงว่า “ข้อที่สอง หลังจากข้าปล่อยเจ้าลุกขึ้นมา เจ้าต้องไปเชิญเหล่าผู้กล้าชั้นหัวหน้าในดงสำราญมาเป็นสักขีวาจา 陪话 ให้เจ้าขออภัยต่อซือเอิน”
เจี่ยงจงว่า “ผู้น้อยรับปาก”
อู่ซงว่า “ข้อที่สาม นับแต่เจ้าส่งคืนดงสำราญในวันนี้ ต้องรีบกลับบ้านเดิมทันที ห้ามให้เห็นหน้าในเมิ่งโจวนี้อีก ถ้าข้าเห็นเจ้าหน ทุบเจ้าหน เห็นสิบหน ทุบสิบหน อย่างเบาก็ปางตาย อย่างหนักคงถึงตาย เจ้ารับปากได้ไหม”
ทวารบาลเจี่ยงยังอยากมีชีวิตจึงว่า “รับปาก รับปาก เจี่ยงจงรับหมด”
อู่ซงจึงดึงตัวทวารบาลเจี่ยงขึ้นมาจากพื้น ดูสภาพแล้วเห็นหน้าเขียวช้ำ ปากเจ่อ คอเอียงไปข้าง มุมหน้าผากมีเลือดสดๆ ไหล อู่ซงชึ้หน้ากล่าวว่า “อย่าว่าแต่ไอ้ทึ่มหัวนกเขาอย่างเจ้า เสือใหญ่เนินจิ่งหยาง ข้าก็ใช้เพียงสามหมัดสองเท้าฆ่ามันได้ ประสาอะไรอย่างเจ้า รีบส่งคืนมา ชักช้า ข้าจะอัดเจ้าอีกรอบ จบชีวิตเจ้าเสีย”
ทวารบาลเจี่ยงเพิ่งรู้ว่าเป็นอู่ซง จึงร้องขอชีวิตไม่ขาดปาก ระหว่างนั้น ซือเอินก็พาคนมายี่สิบกว่าคนเผื่อต้องเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อเห็นอู่ซงเอาชนะได้แล้วก็ยินดี
อู่ซงชี้หน้าทวารบาลเจี่ยงว่า “เจ้าของเดิมอยู่นี่แล้ว เจ้าก็ต้องย้ายออก และรีบไปเชิญคนมาเป็นสักขีวาจา”
ทวารบาลเจี่ยงว่า “ผู้กล้า เชิญเข้าไปในร้านก่อน”
ตอนก่อนหน้า : ดงสำราญ
ตอนถัดไป : อู่ซงชมจันทร์

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา