16 ม.ค. เวลา 04:29

ความแตกต่างระหว่าง OKRs vs KPIs

เมื่อพูดถึงการวางแผนและวัดผลการดำเนินงาน OKRs และ KPIs เป็นกรอบการวัดผลที่นิยมใช้ในวงการธุรกิจมากๆ แม้ว่าทั้งสองคำนี้จะใช้ในการวางแผนและวัดผลการดำเนินงานเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพื่อที่จะเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ให้ชัดเจน เรามาดูกันก่อนว่า แต่ละคำคืออะไร และมีข้อดีอย่างไรบ้าง
เมื่อพูดถึงการวางแผนและวัดผลการดำเนินงาน OKRs และ KPIs เป็นกรอบการวัดผลที่นิยมใช้ในวงการธุรกิจมากๆ แม้ว่าทั้งสองคำนี้จะใช้ในการวางแผนและวัดผลการดำเนินงานเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพื่อที่จะเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ให้ชัดเจน เรามาดูกันก่อนว่า แต่ละคำคืออะไร และมีข้อดีอย่างไรบ้าง
KPIs คืออะไร มีข้อดีอย่างไร ?
KPIs (Key Performance Indicators) คือ ดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จ เทียบผลการปฏิบัติงานกับมาตรฐานหรือเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ เป็นวิธีการประเมินผลงานของพนักงาน และยังเป็นวิธีที่องค์กรสามารถใช้ในการวัดและประเมินผลความก้าวหน้า เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ขององค์กร โดยสามารถใช้ผลลัพธ์ไปปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานได้อีกด้วย
สำหรับการประเมินความสำเร็จของธุรกิจ โดยทั่วไปแล้วมาประเมินจาก 4 มุมมองสำคัญ คือ การเงิน ลูกค้า กระบวนการภายใน และการเรียนรู้ พัฒนา โดยองค์กรจะกำหนด KPIs หรือตัวชี้วัดสำคัญๆ ในแต่ละมุมมอง มาเป็นมาตรวัดความสำเร็จขององค์กรในแต่ละด้าน สิ่งที่ KPIs ควรจะมีคือ
- เชื่อมโยงกับเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์
- พุ่งเป้าหมายไปยังทรัพยากรที่มีอยู่
- วัดผลให้ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
- มีการกำหนดขอบเขตระยะเวลาที่ชัดเจน
ข้อดีของการใช้ KPIs
1. ช่วยปรับปรุงผลการดำเนินงาน การตรวจสอบและวัดผล KPIs ช่วยให้องค์กรสามารถระบุปัญหาและปรับปรุงผลการดำเนินงานได้เร็วขึ้น
2. ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น การใช้ KPIs ช่วยให้ผู้บริหารทำการตัดสินใจได้ดีขึ้น เพราะมีข้อมูลที่มีคุณภาพไปใช้ในการวิเคราะห์
3. ช่วยประเมินผลการดำเนินงาน การวัดผล KPIs ช่วยให้องค์กรสามารถประเมินผลการดำเนินงานในเวลาที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ในธุรกิจที่ใช้การบริการ และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นจุดแข็ง การตั้ง KPIs ที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้า ช่วยให้องค์กรสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อขายได้
OKRs คืออะไร มีข้อดีอย่างไร ?
OKRs (Objectives and Key Results) เป็นกระบวนการวางเป้าหมายและวัดผลในการบริหารจัดการ โครงสร้างของ OKRs ประกอบไปด้วย O+KR ที่มาจาก Objectives และ Key Results นั่นเอง โดยความหมายของแต่ละองค์ประกอบคือ
Objectives : เป้าหมายหลักขององค์กรหรือหน่วยงาน ช่วยกำหนดทิศทางขององค์กรว่าจะต้องทำอะไรเพื่อให้เป้าหมายเกิดขึ้นได้จริง
Key Results : ตัวชี้ ที่ใช้วัดช่วยในการติดตามผลลัพธ์ วัดความสำเร็จของเป้าหมายหลัก (Objectives)
โดย OKRs ควรมีลักษณะดังนี้
- มีความท้าทายเพียงพอ
- มีระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน
- สามารถให้คะแนนได้
- เน้นพัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ของพนักงานมากกว่าการให้รางวัลตอบแทน
- เน้นผลลัพธ์ไม่ได้เน้นคำว่างาน
- OKRs ต้องมีความเชื่อมโยงกับทั้งองค์กร (บริษัท ฝ่ายต่างๆ และทีมงาน)
ข้อดีของการใช้ OKRs
1. ช่วยชั่งน้ำหนักเป้าหมาย OKRs ช่วยให้ผู้บริหารและพนักงานเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าเป้าหมายสำคัญขององค์กรคืออะไร และเป็นอย่างไรในแต่ละปี โดยการกำหนดเป้าหมายแต่ละตัวด้วย Key Results ที่ชัดเจน จะช่วยชั่งน้ำหนักและระบุความสำคัญของเป้าหมายได้อย่างชัดเจนด้วย
2. สร้างทีมทำงานที่มุ่งมั่น การกำหนด OKRs ช่วยให้ทุกคนในทีมมุ่งมั่นเพื่อการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยการสร้างสรรค์และติดตามการดำเนินงานที่มุ่งมั่นไปสู่เป้าหมาย ช่วยสร้างความผูกพันและความรับผิดชอบร่วมกันภายในทีมทำงานได้อย่างดี
3. ช่วยปรับปรุงการทำงาน การวัดผลลัพธ์ด้วย Key Results ช่วยให้ผู้บริหารและพนักงานเห็นว่าองค์กรหรือฝ่ายงานกำลังดำเนินการไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ และช่วยปรับปรุงการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
4. ช่วยสร้างวัฒนธรรมการทำงาน การใช้ OKRs ช่วยสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งเน้นการพัฒนาตนเองและการทำงานเป็นทีม โดยที่ผู้ใช้ OKRs จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย
OKRs vs KPIs ใช้อะไร ดีกว่า ?
ทั้ง KPIs และ OKRs ล้วนพูดถึงการวางเป้าหมายเช่นเดียวกัน แต่มีลักษณะของตัวเองที่แตกต่างกันหลายประเด็น หลายคนคงกำลังสงสัยอยู่ว่า แล้วทีนี้จะเลือกใช้อะไร ที่สุดแล้ว อันไหนดีกว่ากัน
จริงๆแล้ว เพื่อความก้าวหน้าขององค์กร และความปังของธุรกิจ เราสามารถใช้ทั้ง KPIs และ OKRs ร่วมกันได้ โดย KPIs เปรียบเสมือน “มาตรวัดสุขภาพขององค์กร” ถ้าทำถึงเป้า ก็แปลว่าองค์กรนั้นๆ สุขภาพดี ในขณะที่ OKRs คือหลักชัย หรือ Milestone ที่ปักหลักรอไว้ ให้เหล่าทีมงานมุ่งไปให้ถึง เพื่อที่จะต่อยอดหรือไปต่อ สู่เป้าหมายต่อไปเรื่อยๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือส่วนไหนถ่วงรั้งการไปถึงเป้าหมายไว้ ก็สามารถพูดคุยปรับเปลี่ยนกันได้ เพื่อความสำเร็จในอนาคตขององค์กร
บอกเลยว่าทั้ง KPIs และ OKRs ล้วนมีความสำคัญกับการไปถึงเป้าหมาย ไม่จำเป็นเลยที่องค์กรจะต้องเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งมาประใช้ในองค์กร เพราะทุกวันนี้องค์กรที่เคยใช้แค่ KPIs ก็เริ่มทยอยปรับ ขยับมาใช้ OKRs ควบคู่กันไปด้วย
สามารถติดตามบทความดีๆได้ที่ : www.manawork.com
โฆษณา