18 ม.ค. เวลา 06:18 • การเมือง

เรื่องราวการเผชิญหน้าระหว่าง “อินเดีย-มัลดีฟส์-จีน”

ขอพูดถึงการแข่งขันแย่งชิงอิทธิพลเหนือ “มัลดีฟส์” ระหว่างประเทศสมาชิกความร่วมมือเดียวกันอย่าง BRICS คือ “อินเดีย” กับ “จีน” ซึ่งดูจะไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นักสำหรับมหาอำนาจในเอเชียคู่นี้
การปรากฏตัวของกองทัพอินเดียในมัลดีฟส์ต้องย้อนกลับไปในปี 1988 ซึ่งเป็นไปตามคำร้องขอของประธานาธิบดีมัลดีฟส์ในขณะนั้น กองทัพอินเดียได้เข้ามาช่วยปกป้องการก่อความวุ่นวายและรัฐประหารในมัลดีฟส์ของกลุ่มกบฏที่ชื่อว่า “กลุ่มพยัคฆ์ปลดปล่อยแห่งทมิฬอีแลม (LTTE)” โดยมีชื่อเรียกปฏิบัติการครั้งนั้นว่า Operation Cactus
เครดิตภาพ: Mighty Monk
จนถึงปี 2017-2018 การมีอยู่ของกองกำลังทหารต่างชาติ (อินเดีย) การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทหารในท้องถิ่นมัลดีฟส์ และการจัดหาอาวุธ ไม่ได้ทำให้เกิดการประท้วงจากนักการเมืองท้องถิ่นของมัลดีฟส์คนใดเลย ความสัมพันธ์ระหว่างมัลดีฟส์กับอินเดียยังเป็นไปด้วยดี
อย่างไรก็ตามในช่วงปลายทศวรรษที่ผ่านมาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง “มัลดีฟส์” และ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” มีความใกล้ชิดสนิทชิดเชื้อกันมากขึ้น การรุกล้ำเข้ามาในมัลดีฟส์ของจีนส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของอินเดียในทันที
ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา มัลดีฟส์อยู่ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดี “อิบราฮิม โมฮาเหม็ด โซลิห์” ที่มีทัศนคติเชิงบวกต่อนิวเดลี แต่แล้วเมื่อ 30 กันยายน 2023 “โมฮัมเหม็ด มูอิซซุ” นักการเมืองสายโปรจีนและเป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองมาเล ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของมัลดีฟส์
พอชนะเลือกตั้งเขาก็ประกาศแผนการทันทีเพื่อให้บรรลุถึง “ภารกิจการถอนทหารอินเดียออกจากมัลดีฟส์ทันที” ซึ่งตามความคิดของมูอิซซุแล้ว เขาถือว่านิวเดลีมีอิทธิพลอย่างสูงต่อกิจการภายในของมัลดีฟส์ (ไม่ชอบ) อยากโอนเอนไปทางปักกิ่งเพื่อหวังทางด้านเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว
2
เราไม่ต้องการทหารต่างชาติ (อินเดีย) ที่นี่ นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักว่าทำไมประชาชนจึงไม่ต้องการให้รัฐบาล [โซลิห์] ได้รับเลือกให้เข้ามานั่งบริหารประเทศอีกครั้ง นี่เป็นหนึ่งในประเด็นหลักในวาระนโยบายต่างประเทศของเรา… ผมรับประกันว่าเราจะหาวิธีเจรจากับรัฐบาลอินเดียเพื่อถอนทหารออกจากดินแดนของเราโดยเร็วที่สุด
โมฮัมเหม็ด มูอิซซุ, ประธานาธิบดีมัลดีฟส์คนปัจจุบัน
4
”โมฮัมเหม็ด มูอิซซุ” ประธานาธิบดีมัลดีฟส์คนปัจจุบัน เครดิตภาพ: MV+
เป็นที่น่าสนใจว่าคำกล่าวของ “มูอิซซุ” ไม่ระบุหรือรู้แน่นอนด้วยซ้ำว่ามีทหารอินเดียประจำการในมัลดีฟส์จำนวนเท่าใด สื่อตะวันตกอ้างว่าจำนวนที่เป็นไปได้คือ มีทหารอินเดีย 70 นายที่ดูแลเรื่องเรดาร์ตรวจสอบและขับเครื่องบินลาดตระเวน
1
  • ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทางการมัลดีฟส์ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงกับอินเดียในการถอนกองทัพออกจากหมู่เกาะต่างๆ ของประเทศ ขณะเดียวกันก็ยังรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความร่วมมือกับอินเดีย ทว่าวันรุ่งขึ้นรัฐบาลอินเดียปฏิเสธคำพูดของมูอิซซุ ทำให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศเกิดความตึงเครียดขึ้นทันที ในขณะเดียวกัน “มูอิซซุ” ก็เพิ่งเรียกร้องให้อินเดียถอนทหารออกจากมัลดีฟส์ภายในวันที่ 15 มีนาคม 2024
2
9 มกราคม 2024: ประธานาธิบดีมัลดีฟส์คนใหม่หลังเข้ารับตำแหน่งได้เดินทางเยือนจีนเป็นประเทศแรก ซึ่งมีการเจรจาตกลงให้จีนเข้ามาเพิ่มปริมาณการลงทุนในมัลดีฟส์ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีการสร้างวิวาทะเฉือดเฉือนของผู้นำอินเดีย (โมดี) บนโลกโซเชียล
เมื่อ 4 มกราคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอินเดีย “นเรนทรา โมดี” โพสต์ภาพถ่ายของตัวเองขณะไปพักผ่อนและดำน้ำบนโซเชียล X บริเวณชายหาดของลักษทวีป ซึ่งเป็นหมู่เกาะทางตอนเหนือของมัลดีฟส์และเป็นดินแดนของอินเดีย โมดีเรียกร้องให้เพื่อนร่วมชาติมาค้นหาเที่ยวพักผ่อนในประเทศตัวเอง คือจะบอกเป็นนัยว่าอย่าไปเที่ยวเลยมัลดีฟส์ เที่ยวในประเทศดีกว่า เป็นการบลัฟกันอย่างชัดๆ
5
เครดิตภาพ: ANI News
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็น “ความขัดแย้งทางการทูต” ขึ้น เมื่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเยาวชนสามคนของมัลดีฟส์แสดงความคิดเห็นบนโพสต์ของ X ที่แสดงความเห็นดูถูกเหยียดหยามคนอินเดีย (อินเดียส่วนใหญ่เป็นฮินดู ส่วนมัลดีฟส์เป็นมุสลิม) และยังบอกว่าโมดีเป็น “ตัวตลก” และ “หุ่นเชิดของอิสราเอล”
1
ในเวลาต่อมากระทรวงการต่างประเทศมัลดีฟส์ไม่เข้าข้างเจ้าหน้าที่ของประเทศ โดยกล่าวว่าความคิดเห็นส่วนตัวของพวกเขาไม่ได้แสดงถึงจุดยืนของประเทศแต่อย่างใด และรัฐบาลมัลดีฟส์ก็สั่งพักงานพวกเขาทั้งสามคนทันที
แต่นี่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่อย่างใด บริการจองที่พักของอินเดียเริ่มแบนการจองโรงแรมในมัลดีฟส์ ตั๋วเครื่องบินหลายพันใบและการจองโรงแรมในมัลดีฟส์ถูกยกเลิก กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียแสดงการประท้วงอย่างเป็นทางการ ดาราบอลลีวูดและนักการเมืองที่มีชื่อเสียงเริ่มส่งเสียงการบอยคอตมัลดีฟส์บนสื่อ
กระแสบอยคอตการท่องเที่ยวมัลดีฟส์ของอินเดียบนโลกโซเชียล เครดิตภาพ: India Today NE
เรื่องนี้ดูเหมือนจะถูกโยงเข้ากับสงครามอิสราเอล-ฮามาสด้วย เพราะมีการกล่าวว่า โมดีเป็นหุ่นเชิดของอิสราเอล อย่างที่รู้กันอยู่แล้วโมดีเข้าข้างทางเนทันยาฮูอย่างออกนอกหน้า ส่วนทางมัลดีฟส์เองก็เริ่มสั่งห้ามพลเมืองของอิสราเอลเข้าประเทศเช่นกันตั้งแต่พฤศจิกายนปีก่อน
(โดยสรุป) ข้อพิพาทเรื่องมัลดีฟส์ระหว่างปักกิ่งและนิวเดลีกำลังได้รับแรงผลักดัน อินเดียกำลังเสริมกำลังทหารในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ โดยตั้งใจที่จะดึงนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามายังลักษทวีป (ที่โมดีโปรโมทการท่องเที่ยวด้วยตัวเองและถือโอกาสบลัฟมัลดีฟส์ไปในตัว)
ส่วนจีนเองก็พยายามขยายเข้าสู่พื้นที่แหลมใต้สุดของอินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจีนจะต้องอัดฉีดเงินลงทุนในมัลดีฟส์และชดเชยความสูญเสียทางการเงินให้กับมัลดีฟส์จากการที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียแบนไม่มาเที่ยว และดูเหมือนว่า “สี จิ้นผิง” จะพร้อมสำหรับโอกาสเช่นนี้ “ภูมิรัฐศาสตร์มีความสำคัญมากกว่าการเงิน”
3
จากข้อมูลของธนาคารโลก ภาคการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ของเศรษฐกิจของประเทศมัลดีฟส์ และคนอินเดียเป็นนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนอันดับหนึ่งของมัลดีฟส์
1
ข้อมูลอัพเดทถึง 31 ธันวาคม 2023 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์ เครดิตภาพ: Network 18 creative
เรียบเรียงโดย Right SaRa
18th Jan 2024
  • แหล่งข่าวและข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: (บน) – Onmanorama (ล่าง) – Real Voice of India>
โฆษณา