24 ม.ค. 2024 เวลา 12:35 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Movie Review: Maestro (2023)

หนัง biopic Leonard Bernstein คอนดักเตอร์คนสำคัญแห่งยุคสมัยและเป็นคอนดักเตอร์อเมริกันคนแรกที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก นอกจากนั้นเขายังเป็น homosexual ที่แต่งงานกับนักแสดงหญิงอย่าง Felicia Montealegre ในช่วงที่ความหลากหลายทางเพศยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก
หนังเปิดตัวมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยมุมกล้องที่เลียนแบบหนังในยุค 40's ซึ่ง Matthew Libatique ก็ทำได้เนียนกริบมากๆ หนังภาพขาวดำที่ใช้สัดส่วน academy ratio และงานโปรดักชั่นในช่วงแรกมันดีเอามากๆ มันเหมือนเราได้ดู musical ยุคเก่าจริงๆ
แต่ข้อเสียคือ เหมือนหนังจะถ่ายทอดเรื่องราวโดยพยายามรักษา aesthetic และ vibes ยุคเก่ามากๆ มากจนไปเบียดเบียนการเล่าเรื่อง ทำให้เรากลับรู้สึกว่าหนังเรียกร้องความเข้าใจจากคนดูเยอะมาก และอาจจะมากเกิดนไปสำหรับคนที่ไม่รู้จัก leonard bernstein มาก่อน หรือแม้แต่เราที่พอจะรู้จักบ้างแต่ไม่ได้ลึกมาก ยังงงว่าใครเป็นใคร
เอาง่ายๆ คือ ความอยากรักษา aesthetic หนัง มันทำให้ส่วนเนื้อเรื่องและอารมณ์พาเราไปได้แค่ surface ไม่ได้รู้สึกผูกพันกับใคร ไม่ได้รู้สึกถึง conflict ในความเป็น homosexual ที่แต่งเมียของ bernstein เลย
และนั่นเป็นแผลใหญ่มากๆ ของหนัง เพราะหลังจากที่เสน่ห์ของงานภาพมันคลายลงและเราพ้นจุดที่ตื่นตาตื่นใจกับมันมาแล้ว หนังกลับกลายเป็นหนังที่เล่าเรื่องเร็วแต่ทำให้รู้สึกเนิบนาบ เพราะนั่นแหละ มันเล่าเรื่องแบบแตะๆ ไปทุกอย่าง
แม้แบรดลีย์ คูปเปอร์จะพูดแล้วพูดอีกว่าดาวเด่นในหนังคือความสัมพันธ์ของ bernstein กับภรรยา ความขัดแย้งในความสัมพันธ์นั้น แต่เรากลับไม่ค่อยรู้สึกถึงสิ่งนั้นเท่าไหร่ หนังเล่าแบบ 1 2 3 4 5 ทื่อๆ และเล่าแบบตรงไปตรงมามากเกินไปในเรื่องที่จริงๆ ไม่ต้องตรงก็ได้ และหลบๆ เลี่ยงๆ รวบรัดตัดตอนจุดที่บางทีควรเล่าเพื่อให้เราเข้าใจตัวละครต่างๆ ได้มากกว่านี้
พอมันเป็นแบบนี้ แม้การแสดงของนักแสดงจะจัดอยู่ในระดับดีมาก ภาพจะโคตรสวย เพลงจะโคตรเพราะ (ซึ่งฉลาดเล่นในการเอาเพลงของ bernstein มาประกอบซีนต่างๆ อย่างกลมกลืน) แต่เนื้อเรื่องและอารมณ์ที่ส่งถึงคนดูมันกลับ meh มาก มันอาจถูกทำด้วยสายตาเชิดชู bernstein ของ bradley cooper หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่ bernstein ใน maestro ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นมนุษย์มากนักแม้หนังจะให้เขาออกมาพูดโต้งๆ ว่า "ผมรักมนุษย์"
Bernstein ใน Maestro กลายเป็นอะไรที่ larger than life เป็น figure ที่เราเข้าไม่ถึงจับต้องไม่ได้ เหมือนยังไงซะเขาก็จะมีมาดของนักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ หนุ่มหัวก้าวหน้า ดู lively จนเกินงามในบางทีซะด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังดีที่ในตอนสุดท้ายจริงๆ หนังก็พอจะทำถึงบ้าง ทำให้เห็นความรักที่ตัดไม่ขาด ความรักที่อยู่เหนือกว่าสถานะสามี-ภรรยาของ bernstein กับภรรยาไปแล้วได้อยู่บ้าง มันเลยทำให้หนังไม่แห้งแล้งเกินไปนัก
ต้องบอกว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะการใส่ใจองค์ประกอบแทบทุกอย่างอย่างละเอียดยิบ อาจทำให้ลืมองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ the story itself นั่นเอง
โฆษณา