Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
24 ม.ค. 2024 เวลา 12:40 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 69
อู่ซง ผู้จาริก (23) ดาวหาง ดาวเพลิง
ลมเหนือพัดกรรโชก ผู้จาริกอู่ดื่มมาหนัก เดินเหินไม่ค่อยตรง ออกจากร้านเดินมาได้ไม่ถึงห้าลี้ มีสุนัขวิ่งอ้อมกำแพงออกมาเห่าไล่อู่ซง อู่ซงเมาหนัก ชักอยากมีเรื่องกับสุนัข จึงใช้มือซ้ายชักมีดศีลออกมาเล่มหนึ่ง สาวเท้ายาววิ่งไล่ สุนัขวิ่งเลียบคลองไปเห่าไป ผู้จาริกเหวี่ยงมีดฟันอย่างแรง แต่สุนัขไวฟันไม่ถูก แรงเหวี่ยงส่งให้หัวหนักเท้าลอยตีลังกาตกลงไปในลำธาร
อากาศกลางเดือนหนาว น้ำลำธารงวดแห้ง แม้ลึกเพียงหนึ่งถึงสองฟุตแต่เย็นเข้ากระดูก ตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งได้ทั้งเปียกโชก แต่มีดศีลยังแช่น้ำอยู่ในลำธาร ผู้จาริกก้มตัวลงไปงมจึงหัวคะมำลงไปกลิ้งในน้ำอีกรอบ
บนฝั่งมีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งอ้อมกำแพงมา คนนำหน้าสวมเสื้อเหลืองถือพลองสั้นเอนกประสงค์ 哨棒 คนตามหลังสิบกว่าคนล้วนถือกระบองสีขาว หนึ่งในนั้นชี้มือมาว่า “ไอ้โจรในลำธารนั่น คนที่ทำร้ายพี่รอง พี่รองหาพี่ใหญ่ไม่เจอ เลยพาคนยี่สิบกว่าคนกลับไปที่ร้าน มันกลับมาอยู่นี่”
พูดไม่ทันจบ ก็เห็นชายฉกรรจ์ที่เจ็บตัวผัดผ้าชุดใหม่ถือดาบพอเตาวิ่งมาแต่ไกล มีบ่าวถือทวนกระบองวิ่งตามมายี่สิบกว่าคน เป็นหัวหน้าสิบสองคนที่เหลือเป็นลูกกะโล่ สิบสองหัวหน้าบ่าวมีชื่อดังนี้
长王三,矮李四。急三千,慢八百。笆上粪,屎里蛆。米中虫,饭内屁。鸟上刺,沙小生。木伴哥,牛筋等。
โย่งหวางซาน เตี้ยหลี่สื้อ ด่วนสามพัน เฉื่อยแปดร้อย คูถบนเข่ง หนอนในมูล มอดข้าวสาร ตดข้าวหุง หูดบนลึงค์ ทรายรูปหล่อ ไม้พี่พ่วง เช่นเอ็นวัว
(อารมณ์ขันของซือไน่อัน คงไม่ต้องจำ)
2
พอวิ่งมาถึงริมกำแพงก็ชี้อู่ซง บอกกับชายเสื้อเหลืองว่า “โจรธุดงค์นั่นแหละที่ตีผู้น้อง”
ชายเสื้อเหลืองว่า “จับมันกลับไปสอบสวนที่บ้าน”
ชายเจ็บว่า “ลงมือ” ลูกน้องร่วมสี่สิบคนกรูเข้าจับอู่ซงที่เมาจนลุกไม่ไหว ฉุดลากขึ้นมาจากลำธาร แล้วทั้งผลักทั้งรุนอ้อมกำแพงมาเห็นลานบ้านกว้างใหญ่ขนาบด้วยกำแพงสูง มีต้นสนต้นหลิ่วเรียงรายข้างกำแพง คนกลุ่มนั้นจับอู่ซงถอดเสื้อผ้าออก ริบมีดศีลและห่อผ้า จับมามัดไว้กับต้นหลิ่ว แล้วเอาหวายมาเฆี่ยน
ลงหวายไปได้ราวห้าที มีคนเดินออกมาจากในบ้านถามว่า “พวกเจ้าสองพี่น้อง เฆี่ยนใครอีกล่ะ”
สองชายฉกรรจ์ประสานมือกล่าวว่า
“ท่านอาจารย์ วันนี้น้องข้าชวนเพื่อนบ้านสามสี่คนไปดื่มเหล้าที่ร้านริมทางข้างหน้านี่ เจอเจ้าโจรจาริกนี่มาหาเรื่อง ทำร้ายร่างกายแล้วยังจับโยนลงน้ำจนหัวร้างข้างแตก ดีที่ยังไม่หนาวตาย เพื่อนบ้านช่วยขึ้นมาพากลับบ้าน พอผัดผ้าแล้วรีบพาคนกลับไปที่ร้าน หมอนี่เอาสุราอาหารกินเสียหมด แล้วมาเมาตกน้ำอยู่ในลำธารหน้าบ้านนี่ จึงจับตัวมาสอบสวน ดูไปแล้วไอ้โจรจาริกนี่คงไม่ใช่ผู้ออกบวช บนหน้ามีตราสักอยู่สองแห่ง มันใช้ผมปิดเอาไว้ คงเป็นพวกนักโทษหนีคดี ถามดูให้รู้ต้นสายปลายเหตุแล้วจับส่งทางการไปจัดการต่อ”
ชายเจ็บว่า “ถามมันไปทำไม ไอ้โจรนี่ทำข้าเจ็บพักสองเดือนคงไม่หาย ต้องจับมันฆ่าแล้วเผา ถึงจะพอหายแค้น” กล่าวจบก็คว้าหวายจะหวดอีก
คนที่เพิ่งเดินออกจากบ้านมากล่าวว่า “น้องเราอย่าเพิ่งเฆี่ยน ขอข้าดูหน้าก่อน คนผู้นี้ดูท่าจะเป็นผู้กล้าอยู่”
ถึงตอนนี้ ผู้จาริกอู่สร่างเมาแล้วหลายส่วนพอทบทวนเรื่องราวได้ จึงหลับตาก้มหน้าปล่อยให้เฆี่ยน ไม่ส่งเสียง คนผู้นั้นสำรวจดูรอยแผลกระบองกลางหลังแล้วว่า “แปลก รอยนี่เพิ่งโดนมาไม่นาน”
เลี้ยวมาด้านหน้า ใช้มือจับผมอู่ซงเปิดดูหน้าจ้องเต็มตาแล้วร้องว่า “นี่มันน้องชายข้า อู่เอ้อหลาง”
ผู้จาริกอู่ลืมตาขึ้นมองแล้วว่า “พี่ท่านนี่เอง”
ชายผู้นั้นตวาดว่า “รีบปล่อย นี่น้องชายข้า”
ชายเสื้อเหลืองตกตะลึงถามว่า “ผู้จาริกแสวงบุญนี้ ทำไมเป็นน้องชายท่านอาจารย์ได้”
ชายผู้นั้นตอบว่า “เขาก็คือคนที่ข้าเล่าให้พวกเจ้าฟังบ่อยๆ อู่ซงผู้ฆ่าเสือบนเนินจิ่งหยาง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงกลายเป็นผู้จาริกแสวงบุญไป”
สองพี่น้องได้ฟังแล้ว รีบแก้มัดปล่อยอู่ซง นำเสื้อผ้าแห้งมาให้สวม พยุงมานั่งยังโถงหญ้า
อู่ซงจะกราบคารวะ ชายนั้นดีใจรีบเข้าพยุงไว้แล้วว่า “น้องเรายังไม่สร่างเมา นั่งพักก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
อู่ซงได้พบหน้าชายผู้นี้ก็สร่างเมาไปแล้วห้าส่วน พอดื่มน้ำแกงแก้เมาแล้วก็ทำคารวะชายผู้นั้น แล้วเล่าเท้าความหลัง
ชายผู้นั้นใช่ใครอื่นคือ ซ่งกงหมิง ชาวอำเภอวิ่นเฉิง
ผู้จาริกอู่ว่า “คิดว่าพี่ท่านยังอยู่ที่บ้านท่านขุนนางใหญ่ไฉ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ผู้น้องไม่ได้กำลังฝันอยู่กระมัง”
ซ่งเจียงว่า “นับแต่ท่านกับข้าแยกทางกันที่บ้านท่านขุนนางใหญ่ไฉแล้ว ข้าก็พักอยู่ที่นั่นอีกครึ่งปี ไม่รู้ข่าวคราวทางบ้าน กลัวว่าท่านพ่อจะเกิดเรื่องยุ่งยาก จึงให้ซ่งชิงน้องชายข้ากลับไปก่อน ต่อมาก็ได้รับหนังสือจากทางบ้านว่าเรื่องคดีความนั้นได้จูเหลยสองนายกองช่วยเหลือจนทางบ้านพ้นข้อหา เหลือแต่เพียงตัวข้าที่มีประกาศจับอยู่ทั่วเอาตัวให้ได้
ข่งไท่กง 孔太公 นายบ้านที่นี่ส่งคนไปถามข่าวคราวอยู่บ่อยครั้ง พอพบซ่งชิงที่กลับไปจึงรู้ว่าซ่งเจียงอยู่ที่บ้านท่านขุนนางใหญ่ไฉ จึงให้คนมาบ้านท่านไฉรับตัวข้ามาอยู่ที่นี่
ที่แห่งนี้เรียกว่า เขาพยัคฆ์ขาว (ไป๋หู่ซาน) 白虎山 บ้านนี้คือบ้านของท่านข่งไท่กง คนที่มีเรื่องกับน้องเราคือบุตรชายคนเล็กของท่านข่งไท่กง นิสัยใจร้อนมักมีเรื่องกับเขาจึงมีฉายาว่า ดาวเพลิงข่งเลี่ยง 独火星孔亮 ส่วนคนเสื้อเหลืองนี่เป็นบุตรคนโต มีฉายาว่า ดาวหางข่งหมิง 毛头星孔明 สองคนนี้รักฝึกเพลงอาวุธ มาขอคำชี้แนะจากข้า จึงเรียกข้าว่าอาจารย์
ข้าอยู่ที่นี่มาได้ครึ่งปีแล้ว อีกวันสองวันนี้ก็จะเดินทางไปยังค่ายชิงเฟิง 清风寨 ตอนที่ข้ายังอยู่บ้านท่านไฉก็ได้ฟังเขาเล่าลือกันว่าน้องเราฆ่าเสือใหญ่ตายที่เนินจิ่งหยาง ได้เป็นตูโถวที่อำเภอหยางกู่ แล้วฟังว่าสังหารซีเหมินชิ่งตาย แต่ไม่รู้ว่าถูกเนรเทศไปอยู่ไหน ทำไมกลายมาเป็นผู้จาริกแสวงบุญได้”
อู่ซงจึงเล่าความตั้งแต่แยกทางกับซ่งเจียงที่บ้านไฉจิ้น ฆ่าเสือที่เนินจิ่งหยาง มาเป็นตูโถวที่หยางกู่ พี่สะใภ้คบชู้กับซีเหมินชิ่ง ถูกตนสังหารทั้งคู่ จนต้องโทษเนรเทศไปเมิ่งโจว ระหว่างทางได้พบจางชิง ซุนเอ้อเหนียงที่ลาดสี่แพร่ง ไปถึงเมิ่งโจวช่วยซือเอินจัดการทวารบาลเจี่ยง สังหารบ้านจางตูเจียนสิบห้าศพ หนีมาพบจางชิง ซุนเอ้อเหนียงแปลงร่างตนเป็นผู้จาริก สังหารนักพรตหวางลองมีดบนสันตะขาบ จนมามีเรื่องกับข่งเลี่ยงที่ร้านอาหาร
ข่งหมิง ข่งเลี่ยงได้ฟังจบแล้วก้มลงคารวะ อู่ซงรีบคารวะตอบว่า “ที่ได้ล่วงเกินไป ต้องขออภัย”
ข่งหมิงข่งเลี่ยงว่า “เราพี่น้อง มีตาหารู้จักขุนเขา ต้องขออภัย”
ผู้จาริกอู่ว่า “หากท่านทั้งสองจะช่วยเหลือข้า ก็ช่วยเอาใบสุทธิ หนังสือแนะนำตัว กับเสื้อผ้าสัมภาระอังไฟให้แห้ง มีดศีลคู่นั้นกับสร้อยประคำอย่าให้หาย”
ข่งหมิงว่า “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ผู้น้องให้คนไปจัดการแล้ว เรียบร้อยจะนำมาคืนท่าน”
ผู้จาริกอู่คารวะขอบคุณ ซ่งเจียงเชิญข่งไท่กงมาทำความรู้จัก ข่งไท่กงให้จัดสุราอาหารเลี้ยงรับรอง
ดาวหางข่งหมิง 毛头星孔明 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 26 ลำดับรวมที่ 62 และ
ดาวเพลิงข่งเลี่ยง 独火星孔亮 กลุ่มมารดิน ตี้ส้า ลำดับที่ 27 ลำดับรวมที่ 63
ทั้งคู่เป็นหัวหน้าทหารราบองครักษ์ค่ายกลางแห่งเขาเหลียงซานคู่กัน
ข่งหมิง และข่งเลี่ยงเป็นพี่น้องกัน เป็นชาวเมืองชิงโจว มีนิสัยใจร้อนเหมือนกัน รักการฝึกเพลงอาวุธจึงฝากตัวเป็นศิษย์ขอคำชี้แนะจากซ่งเจียง ตามคำบอกเล่าของซ่งเจียง
ดาวหางนั้น เชื่อกันว่าเมื่อดาวหางปรากฎเรื่องร้ายจะตามมา ข่งหมิงจึงได้ฉายาดาวหาง ทำนองว่าใครมีเรื่องกับข่งหมิงนับว่าโชคร้าย
ส่วนข่งเลี่ยง ได้ฉายาที่เกี่ยวเนื่องกันว่า ดาวเพลิง จากความใจร้อนชอบก่อเรื่อง และชื่อเกี่ยวเนื่องกับดาวหาง
..
1
คืนนั้นซ่งเจียงชวนอู่ซงนอนร่วมเตียงเดียวกัน คุยกันถึงเรื่องราวตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา วันรุ่งขึ้น ข่งไท่กงให้จัดโต๊ะเลี้ยงดู มีข่งหมิงมาร่วม ส่วนข่งเลี่ยงต้องนอนพักฟื้น หลังอาหารซ่งเจียงถามอู่ซงว่ามีแผนจะไปที่ไหนต่อ
อู่ซงว่า “เช่นที่บอกกับพี่ท่านเมื่อคืนนี้ คนสวนผักจางชิงทำหนังสือแนะนำให้ข้าไปขอเข้าพวกกับสงฆ์ลงลายหลู่จื้อเซินที่เขาสองมังกร ตัวเขาเองอีกหน่อยก็จะตามมา”
1
ซ่งเจียงว่า “ก็ดี แต่บอกตามตรง ไม่กี่วันก่อน ทางบ้านข้ามีหนังสือมาบอกว่า หลีกว่างน้อยฮวาหยง 小李广花荣 ผู้กำกับค่ายชิงเฟิง 清风寨知寨 รู้ว่าข้าสังหารหยันผอซี ก็มีหนังสือมาถึงอยู่บ่อย อย่างไรก็จะให้ไปอยู่กับเขาที่ค่าย ที่นี่ก็อยู่ห่างจากค่ายชิงเฟิงไม่ไกล สองวันมานี้ข้าคิดอยู่ว่าจะออกเดินทาง แต่อากาศแปรปรวนจึงยังไม่ได้ไป แต่ช้าเร็วก็ต้องไป ข้าพาท่านไปอยู่ที่ค่ายด้วยดีไหม”
อู่ซงว่า “ท่านพี่ เกรงว่าไม่เหมาะที่จะพาผู้น้องไปอยู่ที่นั่น ข้ามีคดีใหญ่ติดตัวยังไม่ได้รับอภัย ยังคงไปลี้ภัยที่เขาสองมังกรจะดีกว่า อีกอย่างข้าเป็นนักธุดงค์จะไปอยู่กับพี่ท่าน คนจะสงสัย เกิดความแตกจะเดือดร้อนพี่ท่าน แม้ท่านจะพร้อมร่วมเป็นร่วมตาย แต่ก็ยังลำบากท่านฮวาหยง ผู้น้องยังคงไปเขาสองมังกรจะดีกว่า หากฟ้าเมตตา วันหน้ายังไม่ตาย ได้รับอภัยโทษค่อยมาหาพี่ท่านยังไม่สาย”
ซ่งเจียงว่า “น้องเราเมื่อมีใจใฝ่ภักดีต่อราชสำนัก ฟ้าย่อมช่วยเหลือ เมื่อเลือกเช่นนี้แล้ว ข้าก็ไม่กล่อมละ ช่วงนี้ท่านก็อยู่กับข้าก่อนสักสองสามวัน”
ทั้งสองพำนักอยู่ที่บ้านข่งไท่กงต่ออีกสิบกว่าวันก็จะออกเดินทาง ข่งไท่กงพ่อลูกไม่ยอม รั้งอยู่ต่ออีกห้าวัน แล้วซ่งเจียงก็ยืนยันจะเดินทาง ข่งไท่กงจัดโต๊ะเลี้ยงส่ง วันรุ่งขึ้น ก็มอบเสื้อผ้าชุดผู้จาริกตัดใหม่ ใบสุทธิ หนังสือ ห่วงมงคล สร้อยประคำ มีดศีล เงินทองคืนให้อู่ซง มอบเงินให้อีก คนละห้าสิบคำลึง อู่ซงทรงเครื่องผู้จาริก ซ่งเจียงถือดาบพอเตา เอวสะพายดาบอีกเล่ม สวมหมวกปีกกว้าง ข่งหมิง ข่งเลี่ยง พาคนช่วยถือข้าวของตามมาส่งได้ยี่สิบลี้จึงแยกทางกลับ
ซ่งเจียงกับอู่ซงร่วมทางกันต่อจนเย็นหาที่พัก เช้าวันรุ่งขึ้น เดินทางกันต่อราวห้าสิบลี้ มาถึงตำบลหนึ่งเป็นทางสามแพร่งชื่อ ตำบลยุ่ยหลง 瑞龙镇 ถามทางดูแล้วว่า จะไปเขาสองมังกรต้องไปทางแยกตะวันตก จะไปตำบลชิงเฟิงต้องไปทางแยกตะวันออกข้ามเขาชิงเฟิงไปก็ถึง
ซ่งเจียงกล่าวว่า “น้องเรา มาร่วมดื่มอำลากันสามจอก”
握手临期话别难,山林景物正阑珊,
壮怀寂寞客囊殚。
旅次愁来魂欲断,邮亭宿处铗空弹,
独怜长夜苦漫漫。
กุมมือลาวาจายากเอ่ยเอื้อน
สุดทางเถื่อนพงไพรเหงาใจหาย
จากกันแล้วทุกข์ทนจนใกล้มลาย
ข่าวเงียบหายคืนเดียวดายมิคลายจาง
อู่ซงว่า “ข้าไปส่งพี่ท่านสักช่วงหนึ่งแล้วค่อยย้อนทางกลับ”
ซ่งเจียงว่า “อย่าเลย โบราณว่า “ส่งกันพันลี้ ที่สุดก็ต้องลา 送君千里,终有一别” น้องเรามุ่งหน้าไปให้ถึงที่หมายโดยไว เข้าร่วมกับพวกเขาได้แล้ว ควรลดละเรื่องดื่มเหล้า ราชสำนักเปิดโอกาสให้ขอนิรโทษวันใด จงชักชวนหลู่จื้อเซินและหยางจื้อให้ร่วมน้อมตาม ภายหน้าได้ใช้ความสามารถกอบกู้ยศศักดิ์ เป็นศรีแก่ครอบครัว ไว้ชื่อในประวัติศาสตร์ ไม่เสียชาติเกิด ตัวข้าเองไร้ความสามารถ แม้มีใจภักดีแต่ไม่มีก้าวหน้า น้องเราหาญกล้า วันหน้าย่อมมีผลงานใหญ่ จำคำพี่ไว้ วันหน้าคงได้พบกัน”
1
ดื่มสุราอำลาแล้ว ทั้งสองเดินมายังทางสามแพร่ง อู่ซงก้มกราบ ซ่งเจียงน้ำตาไหลกล่าวกำชับอีกว่า “น้องเรา อย่าลืมคำข้า ลดละสุรา รักษาตัวให้ดี”
ผู้จาริกอู่มุ่งหน้าตะวันตก เข้าร่วมกับพวกหลู่จื้อเซินและหยางจื้อที่เขาสองมังกร
ตอนก่อนหน้า : สันตะขาบ
https://www.blockdit.com/posts/65ae642e569878cce6712ebe
ตอนถัดไป : พยัคฆ์ขนแพร เสือเตี้ย หนุ่มหน้ามน
https://www.blockdit.com/posts/65b3a2ede35a78c1055e55c0
1 บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน ภาคต้น
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย