จงเป็นเธอในเวอร์ชันที่ดีที่สุด
หนังสือ Empowering Women จงเป็นเธอในเวอร์ชันที่ดีที่สุด
เขียนโดย Louise Hay
แปลโดย วลีพร หวังซื่อกุล และณัชชา บัวกลิ่น
ลูอีส เฮย์ เป็นนักพัฒนาตนเองชื่อดังที่มีผลงานเขียนมากมาย และได้รับความนิยมจากหลากหลายประเทศ เธอเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาโดยมุ่งหวังให้ผู้หญิงเข้าถึงศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง และเพื่อเสริมสร้าง"กำลังใจ"ให้ผู้หญิงทุกคนด้วย
เรากำลังอยู่ในยุคแห่งวิวัฒนาการ แต่ผู้หญิงเราถูกผูกติดอยู่กับความต้องการ และระบบชายเป็นใหญ่มานานมาก จะเห็นทั่วไปว่าการใช้อำนาจของผู้ชายเป็นเรื่องปกติ แต่ลูอีส เฮย์ ตระหนักว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่ใช่เรื่องปกติ หรือสิ่งที่ผู้หญิงพึงได้รับ เธอเริ่มสร้าง"ความตระหนักรู้ในคุณค่า (Self-worth) และความภูมิใจในตนเอง (Self-esteem) จากภายใน" แล้วผู้ชายที่ชอบใช้อำนาจหรือพูดโอ้อวดก็ไม่เข้ามาอยู่ในชีวิตเธออีกเลย
จึงอยากเห็นผู้หญิงทุกคนรักตนเอง ชื่นชมคุณค่าของตนเอง ภูมิใจในตนเอง และเปี่ยมไปด้วยพลังยืนหยัดอยู่ในสังคม เธออยากเน้นไปที่การช่วยให้ผู้หญิงมีชีวิตในแบบที่ตนเองเป็นได้ และค้นพบพื้นที่แห่งความเสมอภาคอย่างแท้จริง
- ●ผู้หญิงมีเรื่องให้ทำ และเรียนรู้อีกมาก
ผู้หญิงสมัยก่อนถูกอบรมให้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดของตนเองเพื่อปรนนิบัติสามี คือวิธีที่ลูกผู้หญิงที่ดีพึงปฏิบัติ ซึ่งการทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับผู้ชาย แต่ไม่ใช่สำหรับผู้หญิงทุกคน จึงเกิดการตั้งข้อสงสัย และสร้างตัวตนของผู้หญิงขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการข่มผู้ชายให้ด้อยลงแต่อย่างใด
ด้วยวัฒนธรรมสมัยก่อนปลูกฝัง และล้างสมองให้ผู้หญิงเชื่อว่าการเป็นคนดีต้องเริ่มจากการให้ความสำคัญตอบสนองความต้องการของผู้อื่นก่อน จึงทำให้ตนเองใช้ชีวิตตามความต้องการของคนอื่นมากกว่าเลือกเป็นในแบบของตน "เราต้องเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าในชีวิต และความสามารถของตนให้มากๆพอกับที่ถูกสอนให้เห็นค่าในตัวผู้อื่น"
"ผู้หญิงอยากใช้ชีวิตในแบบของตนเอง"
- ●โฆษณา: เป้าหมายอยู่ที่ความภาคภูมิใจในตัวเองของผู้หญิง
ลูอิส เฮย์ มองว่าโลกของการโฆษณา อาศัยจุดอ่อนจากการ "ขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง" เพื่อให้เราซื้อสินค้า พวกเขารู้ดีว่าหากทำให้คนมีปมด้อย และเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำมาเสพติดสินค้าได้ คนกลุ่มนี้จะกลายเป็นลูกค้าที่ใช้สินค้าของเขาไปตลอดชีวิต
โฆษณาชวนเชื่อบั่นทอนความภาคภูมิใจในตัวเองไป ทำให้รู้สึกว่าตนเอง "ยังไม่ดีพอ" จึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้สินค้าเหล่านั้น เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
"เราต้องตระหนักให้ได้ว่า สิ่งที่เป็นอยู่นี่แหละดีพอแล้วในแบบของเราอย่างแท้จริง"
- ●เลือกคิด และเชื่อในแง่บวก
ลูอีส เฮย์ เชื่อว่า"ทุกความคิด ทุกคำพูด และทุกความเชื่อเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจมาก เพราะทั้งหมดล้วนแต่สร้างประสบการณ์ และชีวิตของเราทั้งนั้น"
"วันนี้เราสร้างชีวิตให้ดีขึ้นได้" นี่คือแนวคิดที่ทรงพลัง และพร้อมปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระ เมื่อใดที่เราเชื่อมั่นในความคิดนี้ เมื่อนั้นทุกอย่างที่คิดจะกลายเป็นจริง
เมื่อก่อนลูอีส เฮย์ ไม่เคยเข้าใจคำพูดที่ว่า ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน เป็นคนเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็เริ่มเข้าใจและเรียนรู้ความหมายของคำพูดข้างต้นว่า "ร่างกายกับจิตใจคนเรานั้นสัมพันธ์กัน" เพราะร่างกายของเราสื่อสารกับจิตใจอยู่ตลอดเวลาผ่านเซลล์ต่างๆ เมื่อใดคิดลบสารเคมีที่สมองผลิตขึ้นจะไปกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อใดคิดบวกตัวนำสัญญาณประสาทก็จะนำสารเคมีไปทำให้ระบบภูมิคุ้มกันกระชุ่มกระชวยขึ้น
ฉะนั้น "ความคิดและคำพูดมีผลต่อทุกส่วนในร่างกาย สารสื่อประสาทที่วิ่งพล่านไปทั่วร่างกายทุกครั้งที่คิดหรือพูด จึงส่งผลต่อทุกคนในลักษณะที่เหมือนกัน ไม่ว่าชนชาติใด เพศใด อายุเท่าไร ทุกคนต่างได้รับผลจากความคิดที่ตนสร้างขึ้นเองทั้งนั้น"
การคิดบวก การให้อภัย และความรักจึงเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจของทุกคนได้ เมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เปลี่ยนวิธีคิด และพัฒนาคุณค่า รวมถึงความภูมิใจในตัวเองขึ้น ขณะนั้นคือช่วงเวลาที่เรายอมให้ชีวิตนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาหาเราเอง ง่ายๆแค่นี้เลย
มองตัวเองในกระจก บอกรักตัวเอง พูดกับตัวเองในแง่บวก เรารับความคิดลบได้ แต่อย่ายอมให้ความคิดเหล่านั้นมีอำนาจเหนือเรา ปลูกความเชื่อดีๆ และความคิดสร้างสรรค์ลงไป ย้ำกับตัวเองถึงสิ่งที่เราอยากให้มีในชีวิต คราวนี้ก็ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเราได้อีก
กล่าวขอบคุณทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม ยิ่งเราขอบคุณชีวิตมากขึ้นเท่าใด ชีวิตยิ่งมอบสิ่งดีๆให้มากขึ้นเท่านั้น
- ●ความสัมพันธ์กับตัวเอง
ผู้หญิงแทบทุกคนมักมีช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องอยู่คนเดียว "ไม่ควรหวังพึ่งผู้อื่นให้ดูแลเราไปเสียทุกอย่าง แม้ว่าเราอาจมีคนรักอยู่แล้วก็ตาม"
เราควรมีช่วงเวลาของตัวเองบ้าง เพื่อค้นหาตัวตน คิดถึงเป้าหมาย และความเปลี่ยนแปลงที่อยากให้เกิดกับตัวเอง เพราะเวลาที่ได้อยู่ตามลำพังเป็นช่วงเวลาที่สร้างความสุขให้เราได้พอๆ กับช่วงเวลาที่อยู่กับผู้อื่น
ทุกวันนี้ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานมีโลกทั้งใบอยู่ตรงหน้า สามารถก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพเท่าที่ความรู้ ความสามารถ และความเชื่อมั่นในตัวเองจะอำนวย เดินทางไปไหนก็ได้ เลือกงานที่ชอบ สร้างรายได้ และมีเพื่อนได้เท่าที่อยากมี หรือแม้แต่เลือกคู่รักได้ถ้าต้องการ วันนี้ผู้หญิงสร้างชีวิตในแบบฉบับของตัวเองได้แล้ว
"เราต่างมีความรักอยู่ภายในตัวเอง" เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าชีวิตเว้าแหว่ง หรือไม่สมบูรณ์เพียงเพราะไม่ได้แต่งงาน หรือมีคนรัก "เมื่อมอบความรักให้ตัวเองก็ไม่มีใครพรากรักนั้นไปได้"
ฉะนั้นตอนนี้หากยังไม่มีคนรักให้คิดเสียว่า นี่คือโอกาสสร้างชีวิตให้ตัวเอง ชีวิตซึ่งเราไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ จงรักตัวเองแล้วปล่อยให้ชีวิตนำเราไปยังที่ที่เหมาะสม อุปสรรคที่ขวางกั้นทั้งหลายได้ทลายลงแล้ว และเราบินไปได้สูงเท่าที่ใจต้องการ
- ●ลูก การเลี้ยงดู และความภูมิใจในตัวเอง
อย่ายึดติดกับความเชื่อที่ว่าผู้หญิงจะไม่สุขสมบูรณ์ถ้าไม่มีลูก แม้ความเชื่อนี้อาจเป็นจริงสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน
ถ้าคุณไม่มีลูกเป็นไปได้ว่าคุณอาจเกิดมาเพื่อทำสิ่งอื่น
บอกกับตัวเองว่า "ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนแต่เป็นไป เพื่อให้เราได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และเรามีความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" บนโลกนี้มีเด็กถูกทอดทิ้งจำนวนมาก หากอยากสัมผัสประสบการณ์ของความเป็นแม่จริงๆ การช่วยเหลือ และอุปการะเด็กกำพร้าก็เป็นอีกทางเลือก การดูแลเหล่าสตรีผู้หลงทาง หรือแม้แต่การช่วยเหลือเหล่าสัตว์ต่างๆก็เช่นกัน เป็นการทำเพื่อให้โลกน่าอยู่ขึ้น
การเลี้ยงเด็กนั้นมีงานมากกว่าคนเป็นแม่จะคาดคิด ในฐานะแม่ เราไม่จำเป็นต้องเป็น "ยอดมนุษย์" หรือ "แม่ที่สมบูรณ์แบบ" หากอยากหาความรู้เพิ่มเติมใหม่ๆ ก็ให้ซื้อหนังสือดีๆเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ถ้าเราเป็นพ่อแม่ที่น่ารัก เด็กๆ มักโตมาเป็นคนแบบที่เราอยากมีไว้เป็นเพื่อน เป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และประสบความสำเร็จในชีวิต
สิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำให้ลูกๆได้คือ "การหัดรักตัวเอง" เพราะเด็กๆเรียนรู้จากตัวอย่างที่เห็น ลูกก็จะรู้จักรักตัวเอง มีความคิดในแง่บวก เรียนรู้ว่าพวกเขามีส่วนรับผิดชอบต่อประสบการณ์ และสร้างชีวิตของตัวเองได้ เราปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ และลูกๆ ก็เช่นกัน ความมั่นใจในตัวเองที่เราสร้างขึ้นมามักนำความเชื่อมั่นมาให้ทั้งครอบครัว และครอบครัวที่เสริมสร้างกำลังใจให้กันจะมีชีวิตที่มีความสุข
อยากให้สอนลูกสาวให้เข้มแข็ง ไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกข่มเหงรังแก สอนลูกชายให้เรียนรู้ที่จะให้เกียรติทุกคนรวมถึงผู้หญิงในชีวิตของเขาด้วย อยากให้ผู้ใหญ่ปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ และสอนให้เด็กๆ เป็นคนอ่อนโยน และเคารพตัวเอง มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่ทุกคนจะให้เกียรติซึ่งกันและกันได้
- ●สร้างสุขภาพที่ดีให้ตัวเอง
เรายังต้องอยู่ไปอีกนาน มีงานอีกมากที่ต้องทำ เราต้องแข็งแรง กระฉับกระเฉง และสุขภาพดีเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้
อาหารการกินมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี อยากให้ศึกษาข้อมูลด้านโภชนาการไว้ด้วย เพราะคือสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพเรา เราคือผู้ที่ต้องใส่ใจในสิ่งที่กิน เมื่อใดที่กินอาหารเพื่อสุขภาพ เมื่อนั้นไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักอีกต่อไป
ส่วนการออกกำลังกายเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวเอง และยังจำเป็นต่อสุขภาพด้วย เป็นการแสดงความรักต่อตัวเองวิธีหนึ่ง
- ●เปิดใจเรื่องเพศวิถี
ไม่ว่ารสนิยมทางเพศจะเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเราแล้ว และไม่ว่าจะมีรสนิยมทางเพศแบบไหน ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จะมีความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ
ลูอีส เฮย์ คิดว่าความรักอยู่ที่ตัวเรา รสนิยมความรักแปรเปลี่ยนไปตามสถานที่ และกาลเวลา จงตระหนักว่าเรื่องนี้เรามีทางเลือกอื่นถ้าคิดจะเลือก ตราบเท่าที่มีหัวใจเปี่ยมรัก และอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคนรอบข้าง ตราบนั้นเรายังต้องการอิสระในการตัดสินใจเลือกเอง
เมื่อมีโอกาสจงมีความสุขกับความรัก ยามที่มอบและได้รับความรัก ยามนั้นเรากำลังฟูมฟักจิตวิญญาณ และส่งคลื่นพลังงานที่ดีออกมา
- ●การคุกคามทางเพศ และการออกมาเรียกร้อง
เมื่อถูกหยามหรือถูกลวนลามทางเพศ เราต้องกล้าที่จะพูด กล้าลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้หรือเรียกร้องสิทธิ์ให้คนอื่นรับรู้ เพื่อให้ทุกที่บนโลกใบนี้เป็นที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ไม่ว่าอยู่ในสถานที่ใด ควรได้รับการให้เกียรติจากฝ่ายชาย
ควรตระหนักว่าเราไม่จำเป็นต้องเออออห่อหมกกับทุกเรื่องที่ดูไม่ชอบมาพากล ต้องสอนให้คนรอบข้างรู้วิธีปฏิบัติต่อตัวเรา และไม่ยอมให้ใครมาหยามเกียรติได้ "ถ้าต้องการคบกันต่อ คุณต้องนับถือพวกเรา"
เราต้องหยุดยั้งการยอมเป็นทาสของผู้ชายเจ้าชู้ ข่มเหง หมิ่นเกียรติลูกผู้หญิง หันมายกย่องผู้ชายนิสัยดี แม้จะเห็นใจคุณผู้ชาย และภาระที่พวกเขาแบกรับไว้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องยอมทนต่อการข่มเหง
- ●เมื่อแก่ตัวลง: ต้องปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
กาลเวลาผ่านไปไม่ได้หมายความว่าคุณภาพชีวิตเราต้องลดลงตามไป "อยากช่วยให้ทุกคนสร้างบั้นปลายชีวิตในอุดมคติ" เพื่อตระหนักว่าช่วงเวลาเหล่านั้นคือรางวัลชีวิต ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ อนาคตนั้นสดใสเสมอ จงมองปีที่กำลังก้าวไปเป็นปีทองของชีวิต
ไม่มีคำว่าสายหรือแก่เกินกว่าจะวาดฝัน และมีจุดมุ่งหมาย ความฝัน และจุดมุ่งหมายทำให้เราอ่อนวัยและสนใจชีวิต จงใช้ชีวิตวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วลืมอดีตไปเสีย
อยากให้ทุกคนกลายเป็นผู้สูงวัยอันทรงคุณค่า อุทิศตนเพื่อสังคมเท่าที่จะทำได้ ไม่มีอะไรมาขัดขวางชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขจนวันสุดท้ายของเราได้
- ●สร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคง
ผู้หญิงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนและธนาคารให้มากขึ้น ผู้หญิงทุกคนมีความสามารถ และสมควรมีอิสระทางการเงิน
แม้เราเริ่มสะสมเงินทีละเล็กทีละน้อยก็ก้าวไปสู่ความมั่งมีได้ จากการเก็บหอมรอมริบไปสู่การลงทุน จากนั้นเงินจะทำงานเพื่อเราแทนที่เราจะทำงานเพื่อเงิน
กันเงิน ๑๐-๒๐% ของรายได้ไว้ให้ตัวเอง การกันเงินเพื่อตัวเองเป็นอีกการกระทำหนึ่งที่แสดงถึงการรัก และสร้างคุณค่าให้ตัวเองด้วย การแบ่งเงินเก็บไว้ให้ตัวเองก็เหมือนการทำแม่เหล็กดูดเงินขึ้นมา
ตระหนักว่าสวรรค์มอบความอุดมสมบูรณ์ให้กับคนที่รู้จักขยับขยายจิตสำนึกให้กว้างไกลออกไป
ยอมรับความคิดที่ว่าเรามีสิทธิ์รวยได้ และคู่ควรกับความร่ำรวย สวรรค์จึงยินดีจะมอบให้ เมื่อใดที่คิดว่าตัวเองรวยได้ เมื่อนั้นแหละเราพร้อมรับพรจากสวรรค์
ไม่มีอะไรมาหาเราจนกว่าเราจะสร้างภาพขึ้นมาในจิตสำนึก เพราะนี่คือการได้มาโดยวิถีแห่งจิตสำนึก เราสะสมความรู้สึกทางใจ (ความคิดในแง่บวกสร้างกำลังใจ) ไว้ในธนาคารจักรวาล พอฝากได้เพียงพอแล้ว ความรู้สึกนั้นมักกลับมาหาเราในรูปของความมั่งมี
- ●ผู้หญิงเป็นกำลังใจให้กัน
อยากให้ลองรวมกลุ่ม "กำลังใจเพื่อนหญิง (Empowering Women)" เพื่อเปิดโอกาสให้คุณผู้หญิงทั้งหลายบอกเล่าความเชื่อที่มีออกมาให้ผู้อื่นรับทราบ การรวมกลุ่มเปรียบเสมือนขั้นบันไดสำหรับกระบวนการพัฒนาตนเอง
ผู้หญิงต้องสร้างความผูกพันอันแน่นแฟ้นสำหรับผู้หญิงด้วยกัน ผู้หญิงต้องยืนหยัดเป็นตัวของตัวเอง เราต้องเรียนรู้ทุกสิ่งเพื่อส่งผ่านความเข้มแข็ง และพลังไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ผู้หญิงจะไม่ถูกข่มเหงอย่างที่เคยประสบและอดทนมาตลอด การรักตัวเองและผู้อื่นคือภารกิจสำคัญที่สุดที่เราต้องทำเพื่อโลกใบนี้
เราต่างคิดว่าตัวเองมีปัญหามากมาย เอาเข้าจริง ปัญหาเหล่านี้หนีไม่พ้น ๔ อย่าง คือความรัก สุขภาพ ความมั่งมี และการแสดงออกซึ่งความเป็นตัวเอง
ในบรรดาเรื่องเหล่านี้ ความรักเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อเรารักตัวเองก็เป็นเรื่องง่ายที่จะรักผู้อื่น และง่ายที่ผู้อื่นจะรักเรา ส่งผลให้ความสัมพันธ์ และสภาวะการทำงานดีขึ้น การรักตัวเองเป็นกุญแจสำคัญสำหรับสุขภาพดี ความรักที่มีให้ตัวเองและชีวิต มักเชื่อมโยงเราเข้ากับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ การรักตัวเองทำให้เกิดการแสดงออกของความเป็นตัวตน และช่วยให้เรารู้จักคิดสร้างสรรค์ไปในแนวทางแห่งความสำเร็จ
ไม่มีข้อจำกัดสำหรับความคิดสร้างสรรค์หรือความเป็นไปได้ ค้นหาความสุขจากความสามารถของเรา และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจัดการได้
เมื่อผู้หญิงประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุข และความพึงพอใจ มักเป็นคู่ชีวิตที่แสนวิเศษ เป็นคนที่น่าร่วมงานด้วย และน่าอยู่ใกล้ อีกทั้งผู้ชายจะยิ่งสบายใจเมื่อได้อยู่กับคนที่เท่าเทียมกัน
สนใจหนังสือคลิกลิงก์ 👇
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
