26 ม.ค. เวลา 00:21 • นิยาย เรื่องสั้น

Secret Boss ภารกิจรักท่านประธาน บทที่ 5 บุญหลง

ตอนเช้าบุญหลงต้องตื่นแต่เช้าเพื่อพาลัคกี้สุนัขพันธ์โกลเด้นตัวใหญ่ขนฟู ๆ นุ่ม ๆ สีน้ำตาลทองแดงของประเสิรฐไปเดินเล่นออกกำลังกาย เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาต้องรดน้ำต้นไม้ เช็ดรถ แล้วก็ไปทำอาหารเช้าให้ทุกคนในบ้าน เมื่อทุกอย่างในบ้านเรียบร้อยแล้วงานของเขาต่อไปคือขับรถไปส่งคุณหนูแนนซี่ที่โรงเรียนก่อน เสร็จแล้วจึงตรงไปที่ทำงานของคุณประเสริฐ
พนักงานในออฟฟิศต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับคนขับรถคนใหม่ของเจ้านายที่แม้เขาจะปล่อยตัวให้มีหนวดเคราขึ้นครึ้มรอบกรอบหน้า ผมเผ้ายาวรุงรังไม่ได้เซ็ต แต่กลับยิ่งดูว่ายิ่งเซ็กซี่โดยเฉพาะในสายตาของสาว ๆ
“บุญหลงเดี่ยวระหว่างวันนายไปช่วยทำงานเอกสารตรงนั้นนะ แล้วก็เดี๋ยวถ้าฉันจะไปข้างนอกหรือไปไหนฉันจะมาตามนายอีกที”
ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองประเสริฐทำท่าเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้จึงเรียกมาริสาให้เข้ามาหา แล้วสั่งงานกับเธอเพิ่ม
“มาริสาเธอพานายบุญหลงไปฝึกงานด้วยนะ แล้วเวลาจะไปติดต่อลูกค้าข้างนอกก็ให้นายบุญหลงขับรถพาไป ผมสั่งห้ามคุณขับรถเองจำได้หรือเปล่า”
“ค่ะเจ้านาย”
“เดี๋ยวก็เผลอขับไปชนนั่นชนนี่เข้าให้อีก ไม่ไหวจริง ๆ”
ประเสริฐบ่นไล่หลังให้เธอ แต่สีหน้ามีแววสะใจที่ได้แกล้งจับคู่ให้มาริสากับคนขับรถ
บุญหลงยิ้มให้กับเธออย่างเป็นมิตร
“คนขับรถคนใหม่ใช่ไหมคะ ฉันชื่อมาริสา ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
เธอแนะนำตัวเองกับเขาด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ
“คุณประเสริฐให้คุณมาฝึกงานกับฉัน ถ้าอย่างนั้นคุณมานั่งตรงนี้ ข้างโต๊ะทำงานฉันนะคะ”
พนักงานในบริษัทก็มีตั้งหลายคน แต่ประเสิรฐกลับตั้งใจให้มาริสาเป็นคนสอนงานให้บุญหลงซึ่งเป็นคนขับรถ ทำให้ทุกคนต่างตั้งวงซุบซิบกันเบา ๆ
“พี่ต้อมว่ามันแปลก ๆ ป่ะ”
“เออว่ะ คนเราจะได้งานมันต้องสมัครเข้ามาตามขั้นตอนป่าววะ นี่อะไรให้คนขับรถมาทำงานในออฟฟิศ”
ต้อม เพื่อนสนิทในออฟฟิศตอบกลับเต้เพื่อนสนิทอีกคนของมาริสา ทั้งสองมองไปที่มาริสาอย่างเห็นใจที่เธอมักจะถูกประเสิรฐซึ่งเป็นเจ้านายกลั่นแกล้งทุกครั้งที่มีโอกาส มาริสายิ้มให้กับเพื่อนทั้งสองคนแทนคำขอบใจ
เศรษฐีหนุ่มพันล้านในคราบบุญหลงก็ไม่เข้าใจระบบการทำงานของประเสิรฐ เขาออกจะเห็นใจมาริสาด้วยซ้ำ
“คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกคะ เดี๋ยวอีกสักพักฉันมีนัดไปพบลูกค้า ถึงตอนนั้นเราค่อยอู้งานกันก็ได้”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ใบหน้ามีรอยยิ้มบาง ๆ ส่งมาปลอบใจเขา
“ครับ แล้วตอนนี้ผมต้องทำอะไร คุณมีอะไรให้ผมทำไหม”
“เอาอย่างนี้ คุณช่วยลงข้อมูลลูกค้าในนี้นะคะ”
เธอขยับที่นั่งให้เขาเข้ามานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
“เดี๋ยวฉันเข้าระบบให้ก่อน แล้วคุณก็ลงข้อมูลตามตัวอย่างด้านบนนี้”
เสียงรัวแป้นพิมพ์เหมือนเสียงปีนกลนั้นทำให้มาริสาแปลกใจจนต้องถามออกไปว่า
“นี่คุณพิมพ์เก่งกว่าฉันอีกนะคะเนี้ย”
บุญหลงรู้ตัวจึงแกล้งกดมัว ๆ เป็นพิมพ์ผิด
“ผมคงตื้นเต้นนะครับเลยรัวมือสนุกไปหน่อย คุณมาริสาดูสิผมพิมพ์ผิดหมดเลย”
“อ๋อ ไม่เป็นไร พิมพ์ผิดก็พิมพ์ใหม่ได้ค่ะ”
“ครับ” 
บุญหลงจึงต้องแกล้งพิมพ์ช้า พิมพ์ผิดบ้างถูกบ้าง ทั้งยังคอยถามงานกับมาริสาตลอดเวลาว่าตัวเองทำถูกไหม
“เรียกฉันว่า ‘มา’ คำเดียวสั้น ๆ ก็ได้ค่ะ”
“ครับ เรียกผม ‘บุญหลง’ เฉย ๆ ก็ได้นะครับ ไม่ต้อง​มีคำนำหน้าว่าคุณก็ได้ ผมไม่ชิน”
“ค่ะ บุญหลง ชื่อเก๋ดีนะคะ มาไม่ได้ยินชื่อไทย ๆ แบบนี้มานานมากแล้ว”
ผู้หญิงที่มีแววตาซื่อ ๆ พูดเนิบ ๆ ช้า ๆ หน้าไม่แต่ง ผมยาวผูกรวบไว้เป็นหางม้า ใส่เสื้อเชิ้ตคอปกสีขาวสวมทับด้วยเสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงขายาวสีดำ นั่งสอนงานเขาไปยิ้มไป เธอไม่ได้แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายหรือรำคาญใจอะไรออกมาให้เขาอึดอัดเลย แล้วเธอก็ไม่พยายามเข้าหาเขา ไม่ฉวยโอกาสเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เขาเคยเจอมา เมื่อได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ กันยิ่งทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
“มาริสาอย่าลืมนัดลูกค้านะ คุณต้องปิดบิลให้ได้ด้วย เข้าใจไหม”
ประเสริฐออกมายืนเท้าเอวที่หน้าโต๊ะของมาริสาพร้อมกับพูดเสียงดังให้ทุกคนในออฟฟิศได้ยินด้วย
“ค่ะเจ้านาย”
มาริสาเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเดินออกไป บุญหลงรีบเดินตามมา
“มองอะไรกัน ใครมีงานอะไรทำก็ทำไปสิ โบนัสปีใหม่จะเอาไหม”
ประเสริฐหันไปพูดใส่ทุกคน ก่อนจะเดินผิวปากกลับเข้าไปในออฟฟิศของตัวเอง
พนักงานในออฟฟิศต่างก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจของประเสิรฐ
“มา คุณมา คุณมาครับรอผมด้วย ผมต้องเป็นคนขับรถพาคุณไปพบลูกค้าไม่ใช่เหรอครับ”
บุญหลงตามมาริสามาทันที่หน้าประตูทางเข้าออฟฟิศพอดี
“ขอโทษค่ะ ฉับรีบเดินออกมาก่อนที่จะเก็บอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่น่ะ”
“ครับ ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ รถจอดอยู่ทางนี้ครับ”
บุญหลงเข้าไปนั่งอยู่ด้วยตอนที่มาริสาคุยงานกับลูกค้าและได้เห็นว่าเธอเป็นคนทำงานเก่งรู้วิธีเจรจากับลูกค้า สามารถปิดบิลได้อย่างเรียบร้อยทุกงาน
“คุณทำงานเก่งจังเลยนะครับ”
“ต้องทำให้ได้สิ เป็นลูกจ้างเขา เจ้านายสั่งอะไรมาก็ต้องทำให้สำเร็จ”
“ครับ”
“บุญหลงหิวไหม”
“อ๋อ ไม่ครับ ผมยังไม่หิว”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันเลี้ยงไอติมตอบแทนที่ขับรถให้ฉันนั่งก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณครับ”
ในระหว่างที่พักกินไอติมอยู่นั้นทั้งสองคนก็ได้นั่งพูดคุยกันไปทำให้รู้จักกันมากขึ้น
เศรษฐีหนุ่มตื้นตันใจกับไอติมถ้วยละยี่สิบบาทที่มาริสายื่นมาให้ตรงหน้า ตั้งแต่ทำงานเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต มีแต่เขาที่เป็นผู้หยิบยื่นสิ่งของให้ผู้อื่น และทางธุรกิจเขาไม่มีเวลาสนใจว่าใครจะหิวหรือไม่ เขารู้แค่ว่าเวลาทุกนาทีของเขามีมูลค่ามหาศาล แต่วันนี้แค่ไอติมถ้วยเล็ก ๆ จากพนักงานบริษัทคนหนึ่งกลับทำให้เขาคิดถึงคำสั่งเสียก่อนตายของผู้เป็นพ่อขึ้นมา
“ให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน”
“ครับพ่อ”
“ใส่ใจความรู้สึกของคนที่อยู่ตรงหน้า ลองถามคำถามง่าย ๆ ออกไปเช่นว่าพวกเขาต้องการอะไร ไม่ใช่คิดแค่ว่าเราจะได้อะไรจากเขา”
เขานั่งกินไอติมเงียบ ๆ และคิดถึงคำพูดของผู้เป็นพ่อที่จากไปแล้วอย่างเศร้า ๆ
"ถ้าพ่อได้รู้จักมาริสา พ่อน่าจะชอบเธอ เธอเป็นเหมือนคนที่พ่อบอกไว้เลยนะครับ"
มาริสาเห็นเขาเงียบไปจึงชวนคุย
“บุญหลงมาจากที่ไหน”
เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เธอ
“ภูเก็ตครับ ผมมาจากภูเก็ต”
“ภาคใต้ มาไกลเหมือนกันนะ”
“แล้วคุณมาล่ะครับ”
“ฉันเป็นคนกรุงเทพนี่แหละ ชีวิตก็ชาวบ้าน ๆ เรียนหนังสือ ทำงาน แต่งงานมีครอบครัว แล้วก็ทำงานวนไป”
“คุณมาแต่งงานแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ มาแต่งงานแล้ว และตอนนี้ก็เป็นหม้ายแล้ว”
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจละลาบละล้วง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เขาเป็นคนดี สามีของมาเพิ่งเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปเมื่อหลายเดือนก่อน มารอดมาได้แค่คนเดียว”
บุญหลงพอเข้าใจแล้วว่าทำไมมาริสาดูเหมือนคนไม่ค่อยสนใจโลกเท่าไหร่ คงเพราะเธอยังมีความทุกข์ในใจถ่วงไว้นั่นเอง
“ผมเสียใจด้วยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ มาทำใจได้มากขึ้นแล้วค่ะ เรากลับออฟฟิศกันเถอะ”
บุญหลงช่วยทำงานที่ออฟฟิศได้ดีแถมขับรถได้ถูกใจประเสิรฐอีกทั้งยังช่วยคุณหนูแนนซี่ทำการบ้านได้ด้วย
ส่วนแนนซี่เอาแต่นั่งจ้องหน้าบุญหลงแล้วยิ้มกรุ่มกริ่มเหมือนมีแผนการณ์บางอย่างในใจ เธอไม่ได้สนใจฟังเขาอธิบายอะไรเลย
“บุญหลงมีแฟนหรือยัง”
อยู่ ๆ เธอก็ถามขึ้นมา ทำให้บุญหลงต้องหยุดมือจากการอ่านตำราตรงหน้าแล้วหันมาตอบคำถามของเธอ
“ไม่มีครับ”
“แล้วชอบผู้หญิงแบบไหน”
“ยังไม่แน่ใจครับ”
“นายก็แก่แล้วนะ ทำไมยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบคนแบบไหน”
คำว่าแก่ทำให้บุญหลงสะดุ้งเล็กน้อย
ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงคิดว่าคนอายุ 35 คือแก่แล้ว
“คุณหนูทำการบ้านต่อเถอะครับ”
“นายก็อ่านแล้วสรุปมาให้ฉันฟังสิ”
พูดเสร็จแล้วคุณหนูแนนซี่ก็สะบัดหน้าบึ้งใส่บุญหลง แล้วลุกออกไปฟ้องลีน่าแม่ของเธอที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น
“มามี๊รู้ไหมคะว่านายบุญหลงชอบผู้หญิงแบบไหน”
ลีน่ายิ้มให้ลูกสาวคนเดียวของเธออย่างรู้ทันกัน
“แม่ก็ว่าจะถามเขาอยู่เหมือนกัน”
“มามี๊ก็อีกคนชอบขัดใจแนนซี่อยู่เรื่อยเลย”
แล้วคุณหนูแนนซี่ก็กลับไปนอนเล่นมือถือของเธอต่อ โดยไม่ได้สนใจการบ้านอีกเลย เพราะมันเป็นแค่ข้ออ้างในการเข้าหาคนขับรถคนใหม่ของเธอเท่านั้นเอง
“บุญหลงว่างแล้วมาช่วยฉันตัดแต่งต้นไม้ที่หลังบ้านหน่อยสิ”
ลีน่าเรียกบุญหลงให้ไปช่วยงานในสวนหลังบ้าน
“ครับคุณลีน่า”
แต่พอเขาลงไปถึงสวนหลังบ้านที่เปิดไฟประดับสลัว ๆ ไว้ตามมุมต่าง ๆ กลับพบกับลีน่าในชุดวาบหวิวจนทำให้เขามือไม้สั่น อดีตพ่อหนุ่มนักรักแทบจะเลือดกำเดาไหลออกจมูกทันที
ลีน่ายิ้มยั่วยวนเดินเข้ามาหาเขาเหมือนแม่เสือสาวที่พร้อมจะขย้ำเหยื่ออันโอชะ บุญหลงถอยหนีเหมือนลูกกวางน้อยที่รู้ว่าหากชักช้าอาจตายคาอกแม่เสือสาวตรงหน้าก็เป็นได้
“คุณลีน่าครับ พะ ๆ ๆ พอดีผมลืมปิดแก๊สในครัว ขะ ขอตัวไปปิดแก๊สก่อนนะครับ”
พูดจบบุญหลงก็วิ่งออกมาจากสวนหลังบ้านทันที สวนทางกับประเสริฐที่กำลังกลับมาจากพาหมาไปวิ่งเล่นนอกบ้าน
“ที่รัก บุญหลงเป็นอะไร วิ่งหน้าตื่นเชียว”
เขาหันไปถามลีน่าที่ตอนนี้เธอสวมชุดคลุมทับชุดแม่เสือสาวสุดเซ็กซี่ไว้แล้ว
“คงแปลกที่นอน ยังปรับตัวไม่ได้มั้งคะ”
“เออ ตลก”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นค่ะ”
ลีน่ามองตามบุญหลงสายตาแพรวพราว ยิ่งบุญหลงปฏิเสธและถอยหนี ลีน่ากลับคิดว่าเขาน่ารัก ยิ่งทำให้เธอตื่นเต้น คิดวางแผนที่จะเคลมคนขับรถคนใหม่ให้ได้
“ผมจะไปอาบน้ำ คุณช่วยเอาหมาไปเก็บให้หน่อยนะที่รัก”
ประเสริฐยื่นเชือกจูงสุนัขให้ลีน่าแล้วตัวเองก็เดินผิวปากเข้าบ้านไปอย่างสบายใจ
...
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา