9 ก.พ. เวลา 02:30 • ความคิดเห็น

เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภปางต่างๆ

วันนี้คือวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
ซึ่งในปีนี้จะตรงกับวันไหว้ในเทศกาลตรุษจีน
เทศกาลตรุษจีน นับเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของคนจีน
เพราะเป็นเหมือนวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน
ชาวจีนจึงให้ความสำคัญกันเป็นอย่างยิ่ง
ทำให้ชาวจีนทั่วโลกต่างก็กลับบ้านมาหาครอบครัว
เพื่อเฉลิมฉลองด้วยกัน
ซึ่งเทศกาลตรุษจีนของคนจีนจะมีวันสำคัญอยู่ 3 วันด้วยกันคือ
วันจ่าย คือเมื่อวานที่ผ่านมา จะเป็นวันที่จะต้องออกไปซื้ออาหาร ของไหว้ต่าง ๆ
เพื่อนำมาจัดเตรียมไหว้
วันไหว้ ซึ่งก็คือวันนี้จะตรงกับวันสิ้นปีตามปฏิทินจีน
เป็นวันที่มีการไหว้เทพเจ้าด้วยอาหารต่าง ๆ
วันเที่ยว ซึ่งก็คือวันตรุษจีนนั้นเอง จะเป็นวันถือ
ที่ชาวจีนห้ามทำงาน ห้ามทำนู้นห้ามทำนี้ต่าง ๆ
ให้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สดใส
และให้ออกไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่กัน
ชาวจีนจะถือวันนี้เป็นวันสิริมงคล วันเฮงๆ จึงงดทำบาป
งดพูดคำหยาบคายทั้งหมด
1
และในวันนี้ตรงกับวันไหว้โดยในช่วงเช้านั้น จะเป็นการไหว้เจ้าที่ ในช่วงสายจะเป็นการไหว้บรรพบุรุษ
ในตอนกลางคืนช่วงรอยต่อของวันปีใหม่
จะเป็นการไหว้เทพเจ้าและเทพเจ้าที่ชาวจีน
ต่างให้การนับถือกราบไหว้ในช่วงวันปีใหม่นี้ก็คือ
“เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย” หรือ “เทพเจ้าแห่งโชคลาภ” นั้นเอง
ซึ่ง เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย มีปางแตกต่างกัน
ปางบุ๋น องค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยปางนี้จะทรงเครื่องแต่งกายด้วยรูปขุนนางจีน ถือคฑายู่อี่และถือก้อนเงิน ปางนี้มีที่มาจากลัทธิเต๋า
ปางบู๊ องค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยปางนี้จะทรงเครื่องแต่งกายนักรบโบราณ ประทับอยู่บนหลังเสือ สามารถพบองค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยปางนี้ได้ทั้งพุทธมหายานและลัทธิเต๋า
ปางมหาเศรษฐีซัมภล เป็นปางที่มีความเก่าแก่มานานกว่า 2,000 ปี มีที่มาจากพุทธศาสนามหายาน มีลักษณะอวบอ้วน พุงพลลุ้ย ใบหน้าใหญ่ล่ำ มีความจรังจัง แต่แฝงไปด้วยความเมตตากรุณา ท่อนบนของท่านเปลือยเปล่า ประดับไปด้วยสร้อยสังวาล เพชรนิล จินดากำไล ทั้งองค์เต็มไปด้วยอัญมณีล้ำค่าแสดงถึงความมั่งมีเงินทอง ทรัพย์สมบัติอย่างเหลือคณานับ บางที่ประทับนั่งบนแท่นดอกบัวและห้อยพระบาท ข้างหนึ่งเหยียบหอยสังข์ มือด้านหนึ่งถือแก้วมณี อีกด้านถือพังพอนไว้ และท่านจะบีบคอพังพอนให้พังพอนอ้าปากคายแก้วแหวนเงินทองออกมา
การที่เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยปางนี้ถือพังพอนไว้ ก็มาจากความเชื่อที่ว่า ทรัพย์สมบัติทั้งมวลบนพื้นพิภพล้วนแล้วแต่อยู่ในผืนดิน ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ก็มาจากดินจากน้ำใต้ดินทั้งนั้น และแก้วแหวนเงินทองของมีค่าล้วนแล้วเกิดมาจากพื้นปฐพีทั้งหมดทั้งสิ้น ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่เฝ้าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นก็คือ เจ้าแห่งเมืองบาดาล ซึ่งก็คือ งู ดังนั้นสัตว์ที่แก้เคล็ดกับงูได้คือพังพอนนั่นเอง
1
มีเพียงพังพอนที่ขโมยทรัพย์สมบัติที่งูเฝ้าได้ ซึ่งพังพอนได้กลืนเอาเพชรพลอยเข้าไป เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยปางมหาเศรษฐีซัมภลจึงได้บีบคอให้พังพอนคายสมบัติมา ซึ่งทางโบราณมีความเชื่อว่าหากใครกราบไหว้ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยปางมหาเศรษฐีซัมภล พร้อมลูบหางพังพอนมาที่ปากพังพอนแล้วกวาดเข้ากระเป๋าเงินของเรา 8 ครั้ง โชคทรัพย์สมบัติจะเข้ามาหาเรา
เรื่องดังกล่าว
แม้จะเป็นเพียงตำนาน เรื่องเล่าต่อ ๆ กันมา
แต่ก็มีคนมากมายหลายคนนับถือศรัทธา
การที่เราทำอะไรตามความเชื่อแล้วมีความสุขได้โดยไม่ได้เบียดเบียนใคร
ก็เป็นเรื่องที่ดี
เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เราสุขใจ สบายใจขึ้นมา
แต่เราต้องไม่ลืมว่า
โอกาสโชคลาภวาสนาจะเข้ามาหาเราได้นั้น
เราจะต้องเป็นคนสร้างโอกาสมันขึ้นมาเองด้วย
เราจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างไร
หากเราไม่อ่านหนังสือเลย
เราจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างไร
หากเราไม่ยอมทำงาน
เราจะได้เหรียญทองได้อย่างไร
หากเราไม่ลงแข่งขัน
หากเราอยู่นิ่งเฉย ๆ ก็ยากที่โชคลาภจะเดินเข้ามาหาเราเอง
เราต้องเป็นคนเปิดประตูดวงด้วยตัวเอง
เพื่อต้อนรับโอกาสโชคลาภที่จะเข้ามาหา
1
จุดเริ่มต้นของโอกาสและความสำเร็จ
อาจเริ่มจากที่ตัวเราก่อนก็เป็นได้ครับ
โฆษณา