20 ก.พ. 2024 เวลา 12:43 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

“Hidden Figures นาซ่ากับเบื้องหลังความสำเร็จครั้งใหญ่ของโลก ผ่านมุมที่โลกนี้อาจไม่เคยมองเห็น”

Hidden Figures เป็นหนังแนวอัตชีวประวัติ ที่เล่าผ่านมุมมองของหญิงสาวผิวสีสามคน ที่อยู่ในสังคมอเมริกา เมืองที่มีการแบ่งแยกสีผิว และยุคที่ผู้ชายเป็นใหญ่ในสังคม พวกเขาทำงานใน NASA องค์กรที่ใหญ่ระดับต้นๆของประเทศ ที่กำลังจะส่งยานอวกาศไปนอกโลก ทำให้พวกเขาต้องแสดงนำความสามารถของตัวเองมาขับเคลื่อนยานลำนี้ไปให้ได้
เมื่อดูภาพรวมของหนังเรื่องนี้ เราคงจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าสิ่งที่โดดเด่นออกมาจากหนังเรื่องนี้คือเรื่องของ Structuralism เพราะหนังจงใจสะท้อนภาพของสังคมอเมริกาในปี 1960 ในเรื่องของ feminist โดยตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นมุมมองการถูกกดขี่ของการเป็นเพศหญิง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆอย่างการสบประมาท เช่น การที่คนสงสัยว่าเป็นผู้หญิงทำไมได้ทำงานในองค์กรสำคัญ การห้ามเข้าประชุม หรือแม้แต่เรื่องสำคัญอย่างการจำกัดอาชีพวิศวกรให้เป็นของผู้ชาย
ที่เราจะเห็นได้ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากเรื่องเพศ หนังก็หยิบยกประเด็นเรื่องการเหยียดสีผิวเข้ามาอย่างชัดเจน แค่เป็นผู้หญิงก็ถูกกดทับแล้ว แต่การเป็นผู้หญิงผิวสี ยิ่งทำให้พวกเขาถูกกดทับจากบริบททางสังคมไปมากกว่าเดิม ทั้งเรื่องของห้องน้ำที่แบ่งแยกสีผิว กาแฟที่คนผิวสีไม่สามารถกดจากที่เดียวกันได้ หรือแม้แต่การเข้าศึกษา ก็เรียกได้ว่าหนังจงใจใส่สิ่งนี้เข้ามาให้เราได้ตระหนักถึงการมีอยู่ของความไม่เท่าเทียมนี้อย่างชัดเจน นอกจากสองประเด็นหลักนี้เราก็ยังมีอีกหลายจุดที่หนังเพิ่มเข้ามาเพื่อสะท้อนภาพรวมของสังคมอีก
เช่นเรื่องทุนนิยม พอเป็นผู้หญิงทำงานในองค์กรก็มีกฏว่าต้องซื้อสร้อยมัขมาใส่ หรือต่อให้ผู้หญิงจะมีปริญญาอีกกี่ใบ ก็สมัครตำแหน่งนี้ไม่ได้อยู่ดี เรียกได้ว่าหากใครถามถึงความจริงของประเทศอเมริกาในยุคนั้น หนังเรื่องนี้ก็คงเหมือนวิกิพีเดีย หรือสารคดีเล่าเรื่องย่อของประเทศนี้เลย
นอกจากการสะท้อนสังคมที่หนังใส่เข้ามา อีกสิ่งที่โดดเด่นสำหรับเรื่องนี้ก็คงเป็นคาแรคเตอร์ของตัวละครหลักทั้ง 3 ตัวที่แตกต่างกัน ยิ่งส่งเสริมมิติของหนังเรื่องนี้ให้เข้าถึงคนดูได้มากกว่าเดิม
ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ก็คงมีตัวละครสักตัวที่เราเผลอเอาตัวเองไปใส่แน่ๆ จึงไม่ยากเลยที่หนังจะทำให้เรามีความรู้สึกร่วมไปตอนดู เป้นที่มาของฉากที่เราประทับใจ คือฉากที่ตัวละครหลักตะโกนว่าเจ้านายที่เป็นผู้ชายผิวขาว รวมถึงว่าคนอื่นๆ ว่าทำไมเขาต้องไปเข้าห้องน้ำที่อีกฝั่ง เพราะมันเหมือนเป็นจุดที่เราได้ปลดปล่อยความอึดอัดที่ดูมาทั้งหมด การถูกกดทับจากสังคม และบริบทต่างๆที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ภาพรวมของหนังเรื่องนี้สำหรับเราคือไปในแนวทางค่อนข้างดี แต่ก็มีจุดที่เรายังสดุดกับเรื่องอยู่ คือตอนที่เล่าเรื่องรายละเอียดย่อยๆ เช่น ตอนที่มีผู้ชายมาชอบ รู้สึกว่าใส่เนื้อเรื่องตรงนั้นมาค่อนข้างเยอะ จนเราหลุดประเด็นกับเนื้อหาหลักในบางช่วง หรือฉากที่ไม่มีบทพูดของตัวละคร หากลดทอนเนื้อปาตรงนั้นให้สั้นลง เราก็คงจะสามารถโฟกัสกับตัวเรื่องได้มากกว่านี้
นอกจากหนังเรื่องนี้จะน่าชื่นชมในด้านของบท นักแสดง รวมถึงภาพแล้ว สิ่งสุดท้ายที่เราประทับใจในหนังเรื่องนี้คือการ base on true story การนำเอาอัตชีวประวัติของผู้หญิงที่ทำงานในองค์กรนาซ่าจริงๆ ไม่เพียงแต่จะเป็นการให้เกียรติบุคคล แต่สำหรับเรามันยิ่งจะ empower และเพิ่มแรงกระเพื่อมต่อสังคม ให้คนได้รับรู้ถึงการมีบทบาทของผู้หญิงที่ไม่ใช่แค่เงาเบื้องหลังของความสำเร็จของโลกใบนี้
โฆษณา