26 ก.พ. เวลา 14:25 • การเมือง

สงครามสายลับ: ซีไอเอช่วยยูเครนสร้าง “เครือข่ายฐานลับ” ต่อสู้กับรัสเซียได้อย่างไร

คงไม่พูดเกินจริงหากการเปิดเผยอันน่าตื่นเต้นตามหัวข้อบทความนี้ถูกเผยแพร่โดยหนึ่งในสื่ออเมริกัน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ปล่อยให้มีการรั่วไหลข้อมูลในลักษณะนี้ จุดประสงค์เพื่ออะไรคงต้องคาดการณ์เอาเอง ต้นเรื่องมาจากบทความของ The New York Times (NYT) ชื่อว่า The Spy War: How the C.I.A. Secretly Helps Ukraine Fight Putin เริ่มเผยแพร่เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2024 - อ้างอิง: [1]
ทางเพจได้สรุปเนื้อหาสำคัญจากในบทความต้นฉบับออกมาเป็นหัวข้อได้ดังนี้
หน่วยข่าวกรองอเมริกันรักษาความสัมพันธ์ลับกับหน่วยข่าวกรองของยูเครนมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ซีไอเอแบ่งปันข้อมูลที่สำคัญกับหน่วยข่าวกรองยูเครน และยังช่วยสร้างเครือข่ายสายลับในยูเครนและเครือข่ายข่าวกรองในยูเครนที่ซึ่งหน่วยข่าวกรองรัสเซียได้ใช้ประโยชน์อยู่เช่นกัน
ความร่วมมือระหว่างซีไอเอและหน่วยข่าวกรองยูเครนเริ่มต้นหลังเหตุการณ์ “ยูโรไมดาน” ในปี 2014 (ประชาชนยูเครนลงถนนประท้วงและเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศ)
เหตุการณ์ยูโรไมดานในยูเครนเมื่อปี 2014 เครดิตภาพ: AP
Valentyn Nalyvaichenko ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความมั่นคงภายในของยูเครน (SBU) เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2014 เขาค้นพบคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์รัสเซียในสำนักงาน SBU และกองเอกสารที่กำลังถูกเผาในบริเวณสวนหลังตึก ในวันเดียวกันนั้นเองเขาได้ขอความช่วยเหลือไปยังหัวหน้าซีไอเอในยูเครนและหัวหน้า MI6 ในพื้นที่
1
หลังจากที่รัสเซียยึดไครเมียได้ จอห์น โอ.เบรนแนน หัวหน้าซีไอเอในขณะนั้นก็บินไปเคียฟเพื่อพบกับ Nalyvaichenko เบรนแนนอธิบายกับ Nalyvaichenko ว่าเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากซีไอเอ ยูเครนต้องพิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถให้ข้อมูลอันมีค่าแก่อเมริกาให้ได้ก่อน
1
Valentyn Nalyvaichenko เครดิตภาพ: Brendan Hoffman / NYT
ด้วยการสนับสนุนของซีไอเอและ MI6 ทาง SBU ได้จัดตั้งหน่วยที่ทำหน้าที่แบบ Fifth Directorate (ขอใช้ทับศัพท์ เราจะรู้จักในชื่อของหน่วย KGB ยุคโซเวียต) ขึ้นเพื่อปฏิบัติการอยู่เบื้องหลังแนวรบของรัสเซีย มีเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งมาจากรัฐหลังยุคสหภาพโซเวียตแต่ไม่มีความสัมพันธ์กับรัสเซีย
ในเดือนกรกฎาคม 2014 หน่วย Fifth Directorate ได้ดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ซึ่งทำให้สามารถกล่าวโทษผู้แบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียสำหรับเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้งของมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงร่วงจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 300 ราย หลังจากนั้นซีไอเอได้จัดหาอุปกรณ์สื่อสารแบบเข้ารหัสปราศจากการถูกดักฟังให้กับยูเครนเป็นครั้งแรก และได้ฝึกอบรมสมาชิกของ Fifth Directorate และหน่วยข่าวกรองชั้นนำอีกสองหน่วยของยูเครน
เศษซากเครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลน์ที่ถูกยิงตกในดินแดนยูเครน เครดิตภาพ: Mauricio Lima / NYT
ในปี 2015 หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางกองทัพคนใหม่ของกระทรวงกลาโหมยูเครน (HUR) Valeriy Kondratiuk ส่งมอบเอกสารลับเกี่ยวกับกองเรือทางเหนือของรัสเซียให้กับซีไอเอ
1
หนึ่งปีต่อมาซีไอเอในการประชุมลับตกลงที่จะช่วย Kondratiuk ในการช่วยพัฒนา HUR ให้ทันสมัย และปรับปรุงความสามารถในการดักฟังการสื่อสารทางวิทยุของกองทัพรัสเซีย หลังจากนั้นหน่วยข่าวกรองยูเครนเริ่มได้รับอุปกรณ์สื่อสารที่ปลอดภัย และอุปกรณ์สำหรับดักฟังการสื่อสารของศัตรูจากพันธมิตรในอเมริกา
Valeriy Kondratiuk เครดิตภาพ: Brendan Hoffman / NYT
ซีไอเอยังดูแลโครงการฝึกอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองยูเครน ซึ่งจัดขึ้นในสองเมืองในยุโรป เหนือสิ่งอื่นใดชาวยูเครนถูกสอนให้ทำงานในลักษณะนอกเครื่องแบบ (ไม่เป็นทางการ) นี่คือลักษณะของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองยูเครนรุ่นใหม่ที่ทำงานในรัสเซีย ทั่วยุโรป ในคิวบา และสถานที่อื่นๆ ที่มีคนรัสเซียอยู่
ด้วยความช่วยเหลือของซีไอเอ หน่วยข่าวกรองยูเครนได้สร้างฐานปฏิบัติการลับ 12 แห่งตามแนวชายแดนรัสเซีย Kondratiuk กล่าว จากฐานเหล่านี้เจ้าหน้าที่ยูเครนได้ดำเนินการเครือข่ายสายลับที่รวบรวมข้อมูลข่าวกรองภายในรัสเซีย ฐานมีอุปกรณ์สำหรับรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง หลังจากรัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบเริ่มขึ้น ก็มีการสร้างฐานลับอีกสองแห่งรวมเป็นทั้งหมด 14 แห่ง เพื่อดักฟังการสื่อสารของรัสเซีย พวกเขาได้รับการสนับสนุนทางการเงินเกือบทั้งหมดและได้รับอุปกรณ์บางส่วนจากซีไอเอ
1
ก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ HUR ได้ช่วยให้หน่วยข่าวกรองอเมริกันเปิดเผยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อว่า Fancy Bear ซึ่งเกี่ยวข้องกับความพยายามของรัสเซียที่จะแทรกแซงการเลือกตั้งในหลายประเทศ ทำให้สามารถตรวจสอบการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งของอเมริกาได้
กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซีย Fancy Bear เครดิตภาพ: Crowdstrike
หลังจากเริ่มบุกยูเครนเต็มรูปแบบของรัสเซีย เจ้าหน้าที่ซีไอเอเป็นเพียงหน่วยงานเดียวของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในยูเครน ทำเนียบขาวอนุญาตให้หน่วยข่าวกรองดำเนินการปฏิบัติการต่อต้านกองกำลังรัสเซียในยูเครนได้ หลังจากการล่าถอยของกองทัพรัสเซียออกนอกกรุงเคียฟ ซีไอเอได้ส่งเจ้าหน้าที่เพิ่มอีกหลายสิบคนไปยังยูเครน
ทางการรัสเซียระบุย้ำหลายรอบแล้วว่า ซีไอเอเข้ามาครอบงำควบคุมหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (อ้างอิง: [2]) อย่างไรก็ตามจากบทความโดย NYT ระบุว่าความร่วมมือระหว่างเคียฟและซีไอเอเริ่มต้นขึ้นในปี 2014 และไม่ได้หมายความถึงการอยู่ใต้บังคับบัญชาของหน่วยข่าวกรองยูเครนต่อหน่วยข่าวกรองของอเมริกาแต่อย่างใด
1
บทความต้นเรื่องอ้างอิงตามลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
26th Feb 2024
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Illustrated by Cristiana Couceiro / POLITICO>
โฆษณา