ต้นกำเนิดของคำว่า Brandy มีรากมาจากคำว่า “Brandewijn” ในภาษาดัตช์ที่หมายความว่า “ไวน์ที่เผาไหม้” แต่ต้นกำเนิดที่แท้จริงนั้นมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศฝรั่งเศสช่วงปี ค.ศ. 1313 กล่าวกันว่าในขณะนั้นบรั่นดีถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค และด้วยรสชาติที่เข้มข้นบวกกับคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ แพทย์ในสมัยนั้นจึงเรียกว่า l’eau de vie หรือ the water of life นั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ระยะเวลาในการบ่มคอนญักยังมีผลต่อการจำแนกคุณภาพอีกด้วย ซึ่งจะมีการระบุระยะเวลาเป็นสัญลักษณ์ของดาวที่ถูกคิดค้นโดย Maurice Hennessy ว่ากันว่ายิ่งคอนญักมีอายุมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งแพงมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยังมีรสชาติที่สุขุม นุ่มลึกยิ่งกว่า โดยสามารถแบ่งตามอักษรย่อได้ดังนี้
VS หรือ Very superior เป็นคอนญักที่ใช้ระยะเวลาในการบ่มประมาณ 2-5 ปี
VSOP หรือ Very special old pale จะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่า VS เพราะใช้ระยะเวลาในการบ่ม 7-10 ปี
XO หรือ Extra Old เพิ่งถูกปรับกฎหมายใหม่ในปี 2018 ว่าคอนญักชนิดนี้จำเป็นต้องบ่มอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป
VO หรือ Very Old คอนญักประเภทนี้ใช้เวลาบ่มประมาณ 12-20 ปี
VVSOP หรือ Very Very special old pale เป็นคอนญักที่มีความเก่าแก่และคลาสสิกมากที่สุด เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการบ่ม 20-40 ปี กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่ากว่าจะได้ดื่มเวลาก็ผ่านไปเกือบครึ่งอายุคนแล้ว
Most Expensive Cognac
บรั่นดีที่เก่าแก่และมีราคาแพงมากที่สุดในโลก คือ Cognac Henri IV Dudognon Heritage ผลิตตั้งแต่ปี 1776 บ่มในถังนานกว่า 100 ปี มีราคาสูงถึง 2 ล้านเหรียญ โดยคอนญักชนิดนี้ถูกบรรจุในขวดที่ชุบทองคำขาว 24K และประดับด้วยเพชรเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสรที่ผ่านการรับรอง 6,500 เม็ด น้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม ซึ่งขวดประดับอัญมณีอันเลอค่านี้ได้รับการสร้างสรรค์โดยช่างทำอัญมณีชื่อดังอย่าง Jose Davalos