20 เม.ย. เวลา 12:00 • อาหาร
Rimping Supermarket NimCity Branch

Cognac is a brandy, but not all brandy is a cognac

เมื่อพูดถึงเครื่องดื่มที่มีความประณีตและคลาสสิก คอนญักและบรั่นดีถือเป็นเครื่องดื่มอีกหนึ่งชนิดที่อยู่เหนือกาลเวลา ด้วยความบรรจงในการผลิต รวมไปถึงการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด จนนำมาสู่เครื่องดื่มที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเหตุนี้เองทั้งคอนญักและบรั่นดีจึงครองใจคนทั่วโลกมานานหลายศตวรรษ
อย่างไรก็ตามถึงแม้เครื่องดื่มทั้งสองชนิดจะเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกว่ามีความคล้ายคลึงกัน เพราะคอนญักก็คือบรั่นดี แต่บรั่นดีไม่ได้เป็นคอนญัก ซึ่งสาเหตุนี้เองที่ทำให้หลายคนเกิดความงงงวย ว่าถ้าอย่างนั้นเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร
Brandy a spirited elixir of timeless sophistication
บรั่นดีเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เริ่มต้นจากการหมักส่วนผสมพื้นฐาน ซึ่งมีตั้งแต่องุ่น (เช่นเดียวกับคอนญัก) ไปจนถึงผลไม้อย่างแอปเปิ้ล ลูกแพร์ เชอร์รี่ และอื่น ๆ จากนั้นนำมาทำการบ่มในถังไม้เพื่อทำเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสีและรสชาติที่ลุ่มลึก
ต้นกำเนิดของคำว่า Brandy มีรากมาจากคำว่า “Brandewijn” ในภาษาดัตช์ที่หมายความว่า “ไวน์ที่เผาไหม้” แต่ต้นกำเนิดที่แท้จริงนั้นมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศฝรั่งเศสช่วงปี ค.ศ. 1313 กล่าวกันว่าในขณะนั้นบรั่นดีถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค และด้วยรสชาติที่เข้มข้นบวกกับคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ แพทย์ในสมัยนั้นจึงเรียกว่า l’eau de vie หรือ the water of life นั่นเองค่ะ
บรั่นดีมีรสชาติหวานละมุนของผลไม้ รวมไปถึงกลิ่นหอมที่มาจากการบ่มในถังไม้โอ๊ก ซึ่งเมื่อบ่มนานขึ้นรสชาติของบรั่นดีก็มีความกลมกล่อมและซับซ้อนมากขึ้น ทุกวันนี้บรั่นดีจึงมีรูปแบบและรสชาติที่หลากหลายอันเนื่องจากมาจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ระยะเวลาในการหมักบ่ม รวมไปถึงแหล่งผลิตที่สามารถผลิตได้จากทุกพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งไม่ว่าจะผลิตจากที่ไหนก็สามารถเรียกเครื่องดื่มชนิดนี้ว่าบรั่นดีได้
ต่อมาในส่วนของคอนญัก ซึ่งเป็นบรั่นดีอีกหนึ่งชนิดที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องมากเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาบรั่นดีทั้งหมด โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีความสง่างามและซับซ้อน เนื่องจากการผลิตคอนญักเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะในเมืองคอนญักทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น ถ้าหากผลิตในเมืองอื่น หรือพื้นที่ใดก็ตามที่ไม่ใช่เมืองนี้จะเรียกว่าคอนญักไม่ได้
การผลิตคอนญักโดยทั่วไปจะใช้องุ่นขาวในการกลั่น ซึ่งจะต้องใช้องุ่นขาวคุณภาพสูงที่ปลูกในเมืองคอนญักเท่านั้นในการผลิต เช่น Ugni Blanc, Colombard และ Folle Blanche เป็นต้น อีกทั้งการผลิตจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าคอนญักมีคุณภาพที่ดีอย่างสม่ำเสมอ โดยการบ่มคอนญักจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีถึงจะสามารถนำมาจำหน่ายได้
นอกจากนี้ระยะเวลาในการบ่มคอนญักยังมีผลต่อการจำแนกคุณภาพอีกด้วย ซึ่งจะมีการระบุระยะเวลาเป็นสัญลักษณ์ของดาวที่ถูกคิดค้นโดย Maurice Hennessy ว่ากันว่ายิ่งคอนญักมีอายุมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งแพงมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยังมีรสชาติที่สุขุม นุ่มลึกยิ่งกว่า โดยสามารถแบ่งตามอักษรย่อได้ดังนี้
VS หรือ Very superior เป็นคอนญักที่ใช้ระยะเวลาในการบ่มประมาณ 2-5 ปี
VSOP หรือ Very special old pale จะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่า VS เพราะใช้ระยะเวลาในการบ่ม 7-10 ปี
XO หรือ Extra Old เพิ่งถูกปรับกฎหมายใหม่ในปี 2018 ว่าคอนญักชนิดนี้จำเป็นต้องบ่มอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป
VO หรือ Very Old คอนญักประเภทนี้ใช้เวลาบ่มประมาณ 12-20 ปี
VVSOP หรือ Very Very special old pale เป็นคอนญักที่มีความเก่าแก่และคลาสสิกมากที่สุด เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการบ่ม 20-40 ปี กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่ากว่าจะได้ดื่มเวลาก็ผ่านไปเกือบครึ่งอายุคนแล้ว
Most Expensive Cognac
บรั่นดีที่เก่าแก่และมีราคาแพงมากที่สุดในโลก คือ Cognac Henri IV Dudognon Heritage ผลิตตั้งแต่ปี 1776 บ่มในถังนานกว่า 100 ปี มีราคาสูงถึง 2 ล้านเหรียญ โดยคอนญักชนิดนี้ถูกบรรจุในขวดที่ชุบทองคำขาว 24K และประดับด้วยเพชรเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสรที่ผ่านการรับรอง 6,500 เม็ด น้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม ซึ่งขวดประดับอัญมณีอันเลอค่านี้ได้รับการสร้างสรรค์โดยช่างทำอัญมณีชื่อดังอย่าง Jose Davalos
ทุกวันนี้ทั้งบรั่นดีและคอนญักต่างก็เป็นเครื่องดื่มที่ใคร ๆ ก็หลงรัก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล รวมไปถึงประสบการณ์การดื่มที่ยอดเยี่ยมและไม่เหมือนใคร มอบสัมผัสใหม่ ๆ ให้กับนักดื่มได้อย่างไม่รู้จบ…..
โฆษณา