เมื่อประธานาธิบดีรัสเซีย(คนเดิม)พูดออกมา สหรัฐฯและตะวันตกต่างก็เปลี่ยนแนวทางของพวกเขา!
ประเทศที่ต่อสู้นั้นสมควรได้รับ และอำนาจของประเทศนี้ก็บรรลุผลสำเร็จได้ด้วยการสู้รบ
เมื่อเห็นว่าสหรัฐฯ และชาติตะวันตกได้ก่อให้เกิดความช่วยเหลือระลอกที่สองแก่ยูเครน
ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียจึงพูดออกมา และเมื่อเผชิญกับคลังแสงนิวเคลียร์อันทรงพลัง สหรัฐอเมริกาและตะวันตกต่างก็เปลี่ยนแนวทางของพวกเขา!
พวกเขาถึงกับต้องการขีดเส้นสีแดงในยูเครนและจัดตั้งบริษัทข้ามชาติ จัดแนวร่วมรุกเข้าสู่ยูเครน
ในเมื่อสถานการณ์เริ่มส่งสัญญาณที่ควบคุมไม่ได้ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย จึงเปิดตัวแคมเปญใหม่
งานนี้ บรรณาธิการบริหารของ Russia Today ขอให้สัมภาษณ์ประธานาธิบดีรัสเซียเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่สำคัญ คือ
รัสเซียพร้อมแล้วในทางเทคนิคสำหรับสงครามนิวเคลียร์ หรือไม่?
เป็นกันที่รู้กันแล้วว่าหลายประเทศมีอาวุธนิวเคลียร์
![[ชตระกูล ศรีสวัสดิ์] หากระเบิดนิวเคลียร์โดนลากไปถล่มใต้ทะเล! ญี่ปุ่นจะตกเป็นเหยื่อหรือไม่?
ไต้หวัน เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ในท้องมหาสมุทรใกล้ไต้หวัน](https://t1.blockdit.com/photos/2024/04/660d66192edd74960c915224_800x0xcover_6XnU92ne.jpg)
แต่รัสเซียมีความเร็วในการเป็นผู้บุกเบิก ทั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ที่วิ่งได้สูงถึง 28 มัค จนไม่มีระบบต่อต้านขีปนาวุธใดในโลกที่สามารถสกัดกั้นมันได้
ซึ่งหมายความว่ามันเป็นระบบเดียวในโลก
ในความเป็นจริง สิ่งที่ประธานาธิบดีรัสเซียไม่ได้กล่าวไว้ก็คือ รัสเซียมีตอร์ปิโดนิวเคลียร์ซาร์มัตและโพไซดอนด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นสามารถทำลายประเทศขนาดเล็กหรือขนาดกลางได้
หากฟังให้ดี รัสเซียกำลังใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องตัวเอง
เมื่อความมั่นคงถูกคุกคาม เพราะพวกเขาไม่สามารถสกัดกั้นได้จึงทำได้เพียงโจมตีเท่านั้น
แต่ โศกนาฏกรรมของ ฮิโรชิมา ยังคงชัดเจนอยู่ในใจของพวกเขาและไม่มีใครกล้าล้อเล่นกับประเทศของตนเอง
ดังนั้น สหรัฐอเมริกาและตะวันตกซึ่งเดินบนหนทางที่ยากลำบากมาโดยตลอด ก็ได้เปลี่ยนแนวไปทีละคนๆ
ความจริงแล้วอเมริกาออกมาบอกตลอดว่า จะไม่ส่งทหารและย้ำคำนี้อีกครั้งนี้ เพราะเหตุดักฟังเมื่อนานมาแล้ว ฮาาาา
ส่วน เยอรมนีกังวลว่าหากยูเครนมีเจตนาร้ายต่อสะพานไครเมียจริงๆก็อาจจะเกี่ยวข้อง และตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องทำเช่นนั้นแล้ว
หมายความว่าไม่เพียงแต่เยอรมนีจะไม่จัดหาขีปนาวุธวัวบ้าให้เท่านั้น
แต่ยังจะไม่ขอเสี่ยงที่จะส่งทหารเข้าร่วมในสงครามอีกด้วย แม้แต่โปแลนด์ก็ไม่ต้องการดูแลยูเครน สำทับด้วยว่าเค้าไม่มีแผนที่จะจัดส่งทหารไปให้ นะเออ...
สุดท้ายก็เหลือเพียงประธานาธิบดีฝรั่งเศสเท่านั้น เพราะครั้งนี้เขาเป็นผู้จุดเส้นแดงให้ยูเครน
เดิมที ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพสหรัฐฯ แต่เขาไม่คาดคิดว่ากองทัพสหรัฐฯ จะมีแผนที่จะไม่เข้าไปยุ่งในอนาคต
ด้วยความสิ้นหวัง แอมานุแอล มาครง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปลี่ยนแนวของเขา
ตามรายงานจาก Russia Today ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้เปลี่ยนแนวทางของเขาและระบุว่าฝรั่งเศสจะไม่กระตุ้นให้เกิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
คนทั้งโลกต่างตกตะลึง การเปลี่ยนแปลงท่วงทำนองนี้รวดเร็วเกินไป ในการที่เขาจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในสิ่งที่ทำกันมาตั้งแต่ต้น...
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
